เพราะความงามไม่ใช่ทุกสิ่ง หากแต่ทุกสิ่งนั้นล้วนเต็มไปด้วยความงามเพียงแค่ใช้หัวใจมอง ร่วมพูดคุยกับ Peter Phillips, Creative and Image Director ของ Dior Make-up กับคอลเล็กชั่นใหม่ของผลิตภัณฑ์สุดไอคอนนิกที่เพิ่งเปิดตัว Rouge Dior Reno 2024 ลิปสติกที่เกิดมาเพื่อผู้หญิงทุกคน
ELLE: Rouge Dior ทำให้คุณนึกถึงอะไร?
Peter Phillips: “สำหรับผม Rouge Dior มันก็เป็นหนึ่งในไอคอนของแบรนด์เลยครับ เป็นรุ่นลิปสติกที่อาจเรียกได้ว่าใครๆ ก็ต้องนึกถึงหากพูดถึง Dior เพราะเป็นลิปสติกรุ่นหลักๆ มาหลายปีเลยละครับ แล้วผมก็รู้ดีว่าเรามีลูกค้าประจำของ Rouge Dior ดังนั้น แม้เราจะพัฒนาสูตรใหม่ๆ ออกมา มันก็เพื่อปรับให้เข้ากับช่วงเวลานั้นๆ เพราะ Rouge Dior ก็ยังคงเป็น Rouge Dior ที่ผู้หญิงไว้ใจได้เสมอ เราการันตีในสีสันที่หลากหลายเพื่อให้ทุกคนได้เจอเฉดสีของตัวเอง เราการันตีในคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ผู้หญิงรับรู้และเห็นในคุณค่าของมันนะ เพราะพวกเขาจะไม่มีวันผิดหวังเวลาซื้อลิปสติก Rouge Dior สำหรับผมแล้วก็ตอบได้ว่าถ้านึกถึง Rouge Dior ก็คงจะนึกถึงแคมเปญสวยๆ ภาพถ่ายเจ๋งๆ ใบหน้าที่มีความสุขและรอยยิ้มที่สดใส ผ่านการนำเสนอโดยสีสันของ Rouge Dior นั่นเองครับ”
เรียกได้ว่าเป็นความจริงอย่างแน่นอนที่ลิปสติก Rouge Dior คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ครองใจใครหลายคน จากความตั้งใจของ Christian Dior ในการช่วยเป็นเครื่องประดับให้กับรอยยิ้มของผู้หญิงในทุกโอกาส ก็คงเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะในทุกเนื้อสัมผัส ในทุกสี หลายคนก็สามารถหาตัวเองเจอได้ในทุกเฉดที่แบรนด์ออกแบบมา
Rouge Dior Reno 2024 กับการนำลิปสติกอันเป็นที่รักของผู้หญิงทั่วโลกมานำเสนอผ่านทั้งสูตรใหม่ สีใหม่ และแพ็กเกจใหม่ ที่ผ่านการพัฒนามาอย่างยาวนานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
จากกว่า 70 สีทั่วโลกที่ Rouge Dior มีในตอนนี้ ถ้าให้ปีเตอร์เลือกมา 1 เฉดสีที่เขาโปรดปรานที่สุด แท้จริงในใจมีหลายสีที่เขารัก เพราะมันมีหลายคนที่รักมันเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้มันมีคุณค่ากับเขามาก เพราะเขาไม่ได้ออกแบบลิปสติกมาให้ตัวเองทา แต่ทำด้วยความหวังที่ว่าผู้คนจะเจอสีที่เหมาะกับตัวเอง แต่ถ้าให้ปีเตอร์ ต้องเลือกสีที่เขาชอบที่สุดก็คงเป็นสี 720 Icone ที่แม้ว่าจะเป็นเฉดที่ออกมานานแล้วแต่ก็เป็นอีกหนึ่งเฉดที่ทำให้ดูดีจริงๆ เขาเชื่อว่ามันทำให้ผู้หญิงรู้สึกดีเวลาทา ไม่ว่าจะเนื้อแบบไหน ทั้งเนื้อแมตต์ กำมะหยี่ หรือซาติน มันก็เป็นเฉดที่สวยมาก ไม่เด่นจนเกินไปแต่ก็ช่วยขับผิว ช่วยส่งรอยยิ้มให้ดูดีขึ้นไปอีก มันเป็นสีที่สวยงามมาก แล้วก็ยังไม่ดูพยายามมากเกินไป แต่ทำให้รู้ว่าคุณใส่ใจกับมัน
สำหรับแพ็กเกจจิ้งในรุ่นใหม่นี้ยังคงเป็น Rouge Dior ที่มีคอนเซ็ปต์เดิมคือเอกลักษณ์กูตูร์ในการประทับอักษรย่อ CD และลายหวายถัก cannage ที่อยู่กับ Rouge Dior มาตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก แต่ครั้งนี้เขาก็เพิ่มความโมเดิร์นเข้าไปด้วยการออกแบบให้ตัวเคสเรียวขึ้น ดูสง่าขึ้น และเป็นแบบแม่เหล็กด้วยเพื่อให้เวลาปิดฝาเก็บได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่ายังคงเป็นแบบรีฟิลเหมือนเดิมเพื่อขานรับนโยบายความยั่งยืนของ House of Dior ต่อไป เขาเสริมต่ออีกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันเป็นเหมือนการพัฒนาขึ้นจากสิ่งที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้ลูกค้าประจำของแบรนด์ต้องรู้สึกว่าเขาโดนหลอกหรือหักหลัง เพราะเขาก็ยังเห็น Rouge Dior แล้วก็รู้ว่านี่คือ Rouge Dior เพียงแค่ว่าเติบโตขึ้น เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วก็รู้ว่านี่คือสิ่งใหม่ ซึ่งเขาก็หวังว่าคนจะโอบรับความใหม่นี้และรักมันด้วยเช่นเดียวกัน
ELLE: ในความคิดของคุณ ‘ลิปสติก’ โดยเฉพาะในคอลเล็กชั่นนี้ ช่วยส่งเสริมในการแสดงออกของคนอย่างไรบ้าง?
Peter Phillips: “มันเคยมีช่วงเวลาที่ถ้าพูดถึงลิปสติกแล้วคนก็จะนึกถึงแค่ความยั่วยวนและความตื่นเต้น แต่ในตอนนี้ที่มีเฉดสีหลากหลายขนาดนี้ ผมคิดว่าคุณทำอะไรกับมันก็ได้ คุณจะเพิ่มความยั่วยวนให้กับลุคของคุณ แต่ในเฉดเดียวกันก็อาจจะกลายเป็นความมั่นใจ เป็นอำนาจ หรือเป็นเกราะป้องกัน ให้คุณได้แสดงตัวตนของคุณออกมาอย่างไรก็ได้ มันไม่ใช่แค่ลิปสติก แต่เด็กรุ่นใหม่เขามีวิธีในการสื่อสารผ่านเครื่องสำอาง พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์กับมันมาก เพราะพวกเขาเข้าถึงข้อมูลได้มากมายจริงๆ ทุกคนสามารถเรียนแต่งหน้าได้เอง ทุกคนสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้เลย และมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะสร้างเครื่องมือที่ถูกต้องให้ ซึ่งก็คือเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ เท่านี้คนก็สามารถสร้างอำนาจให้ตัวเองได้ครับ บางคนก็ทาลิปสติกแล้วก็แบบว่า มองปากฉันสิ แล้วฟังสิ่งที่ฉันพูด หรือบางคนก็ใช้มันให้ตัวเองรู้สึกเซ็กซี่ขึ้น มีแรงดึงดูดขึ้น บางคนก็อาจจะใช้มันเพื่อช่วยเสริมความงามของตัวเอง ได้โชว์ตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น อะไรก็เป็นได้เลยครับ นั่นจึงเป็นพลังของลิปสติกคุณภาพดี หรือเครื่องสำอางทุกชนิดที่คุณภาพดี มันจะเป็นเครื่องมือให้คนได้ใช้มันอย่างสร้างสรรค์”
ELLE: ถ้าไม่มีความงาม โลกนี้จะเป็นอย่างไร?
Peter Phillips: “ถ้าโลกนี้ไม่มีความงามอย่างนั้นเหรอ? โลกคงแย่มากเลย! (หัวเราะ) เพราะความงามมันอยู่ในทุกอย่างเลยน่ะสิครับ ความงามคืออะไรก็ตามที่สวยงาม ความงามมันอยู่ในดอกไม้ ในวันที่อากาศดี ในก้อนเมฆ ความงามอยู่ในบทสนทนา ในดนตรี คือถ้าจินตนาการว่าโลกนี้ไม่มีความงามเลย ผมว่ามันต้องน่าเศร้ามากแน่ๆ คุณว่าอย่างนั้นหรือไม่? แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ความงามมันขึ้นอยู่กับสายตาของคนมองนี่แหละครับ ความงามมันอาจไม่ได้จำเป็นต้องอยู่ในสิ่งที่เราเห็นทันที ความงามมันอาจจะอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ ในถ้อยคำที่ใครสักคนพูดออกมา ในรอยยิ้มที่ใครสักคนส่งให้ หรือแม้แต่ในวิธีที่บางคนมองคุณ ผมคิดว่าคุณจะเห็นความงามได้ก็ต่อเมื่อคุณเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าในความงามนะ บางทีความงามมันอาจจะไม่ต้องชัดเจนเสมอไป บางทีคุณอาจจะต้องมองมันครั้งที่ 2 เพื่อที่จะได้เห็นมัน ดังนั้น ผมเลยเชื่อว่ามันจะมีความงามอยู่เสมอครับ ผมจินตนาการโลกที่ไม่มีความงามไม่ออกเลยจริงๆ ครับ”
Do You Know?
สำหรับช่วงเทศกาลนี้ ปีเตอร์บอกว่าสี 777 Fahrenheit จากคอลเล็กชั่นใหม่เป็นสีที่เหมาะที่สุด เป็นสีแดงอิฐเฉดใหม่ในเนื้อกำมะหยี่ที่ไม่ว่าจะทาเต็มปากให้โดดเด่น หรือจะทาแล้วเกลี่ยออกแบบลิปซาตินก็สวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งมันต่างจากสีแดงเบอร์ 999 เพราะเบอร์ 777 นี้คงจะถูกใจคนรุ่นใหม่มากกว่า ทั้งยังเป็นสีที่งดงามและเข้ากับทุกสีผิว
ปีเตอร์ยังแบ่งปันเทคนิคในการทำให้ทั้งใบหน้าไปในทางเดียวกันด้วยการนำลิปสติกมาแตะๆ ที่แก้มแล้วเกลี่ยออก รวมไปถึงบริเวณคางเล็กน้อย เท่านี้ก็สร้างเมกอัพลุคที่ยอดเยี่ยมได้แล้ว หลังจากนี้จะแต่งตาเพิ่มอีกก็ยังได้
ELLE Says
“ผู้เชี่ยวชาญด้านดอกไม้ของ Dior ทำการทดลองนับครั้งไม่ถ้วน จนในที่สุดได้ส่งมอบสูตรลิปสติกที่ทั้งช่วยบำรุง มอบความสบาย และติดทนยาวนานให้กับ Rouge Dior Reno ที่ผสานสารสกัดน้ำมันจากดอกไม้ 3 ชนิดเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งดอกทับทิม ดอกกระบองเพชร ดอกฮิบิคัส ซึ่งปีเตอร์ได้พัฒนาเฉดสีถึง 69 สี (ประเทศไทยวางจำหน่ายเนื้อซาติน 13 เฉด และเนื้อกำมะหยี่ 22 เฉด ราคาแท่งละ 1,850 บาท)”
TEXT: KANOKPORN CHERDCHAI