นับตั้งแต่สิ้นปี 2023 ที่สี่สาว BLACKPINK ตัดสินใจสิ้นสุดสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่าง YG Entertainment มาจนถึงทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และลิซ่า ได้เขียนชื่อของพวกเธอบนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ๆ มากมาย ไม่เพียงแต่ในวงการเคป๊อบ แต่ยังส่งอิทธิพลไปถึงระดับโกลบอล แถมแต่ละเส้นทางที่พวกเธอเลือกเดินนั้นก็ล้วนสะท้อนตัวตนต่างคาแรกเตอร์ได้เป็นอย่างดี ดังเช่นในปีนี้ที่พวกเธอปล่อยผลงานออกมาให้เหล่าบลิงค์ติดตามกันแบบไม่มีพัก ขณะที่ผลงานวงเองก็ส่งสัญญาณการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่ใกล้ขึ้นทุกที แอลจึงขอพามาสำรวจเส้นทางอันเจิดจรัสของสาวๆ BLACKPINK ไปด้วยกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา
JISOO: Lights, Love, Action!
ประเดิมกันด้วยพี่ใหญ่ของ BLACKPINK อย่าง จีซู ผู้เริ่มต้นก้าวใหม่กับค่าย BLISSOO ที่ก่อตั้งเอง พร้อมเซ็นสัญญากับค่ายเพลงระดับโกลบอลอย่าง Warner Records โดยในปีนี้เราได้พบเธอผ่านหลากหลายผลงานอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เริ่มที่การกลับมาของนักแสดงจีซู กับซีรีส์ Newtopia ถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักที่เลิกรากัน จนกระทั่งซอมบี้บุกกรุงโซลทำให้ทั้งคู่ต้องดิ้นรนหาทางเพื่อมาเจอกันอีกครั้ง! นอกจากนี้ ผลงานอื่นๆ ที่จ่อคิวรอก็น่าติดตามไม่แพ้กัน เพราะในภาพยนตร์สร้างจากเว็บตูนเรื่องดังอย่าง ‘Omniscient Reader’s Viewpoint’ หรือ มุมมองนักอ่านพระเจ้า จีซูก็ได้พลิกบทบาทมาเป็น อีจีฮเย สาวมัธยมผู้มีสกิลการต่อสู้ไม่ธรรมดา เช่นเดียวกับซีรีส์ Boyfriend on Demand ที่เธอรับบท ซอมิแร หญิงสาวผู้ไม่อยากเสี่ยงเรื่องรัก จึงหันมาใช้บริการแฟนรายเดือนบนโลกออนไลน์แทน นับว่าแต่ละเรื่องนั้นมีพล็อตหลากรสไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม: เปิดบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟของ ‘จีซู – พัคจองมิน’ จากซีรีส์ Newtopia เมื่อรักพังแล้วยังต้องวิ่งหนีซอมบี้!
และแน่นอนว่าจะพลาดพูดถึงผลงานเพลงไปไม่ได้ เพราะเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา จีซูก็ได้มอบของขวัญให้กับแฟนๆ ผ่านมินิอัลบั้มแรก Amortage ที่มาพร้อมเพลงไตเติลที่มีชื่อว่า earthquake ถือเป็นการคัมแบ็กในรอบเกือบ 2 ปีหลังจากสร้างปรากฏการณ์ความฮิตผ่านเพลงโซโล่แรก Flower และนับเป็นการเปิดศักราชใหม่ด้วยแนวเพลงต่างสไตล์ที่เข้ากับโทนเสียงเอกลักษณ์ของเธออย่างสุดๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข่าวดีสำหรับแฟนๆ ชาวเอเชียที่จะได้ฟังและชมการแสดงของเธออย่างสดๆ ผ่านเอเชียทัวร์ที่มีชื่อว่า ‘LIGHTS, LOVE, ACTION!’ ซึ่งแน่นอนว่ากรุงเทพ ประเทศไทยนั้นเองก็ไม่พลาดเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายด้วยเช่นกัน
และในโลกแห่งแฟชั่น เราก็ยังได้เห็นจีซูเฉิดฉายจนสร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ว่าเธอจะปรากฏตัวในอีเวนต์หรือถ่ายแคมเปญแฟชั่น บิวตี้ และจิวเวลรี่ใดก็ล้วนสร้างมูลค่าสื่อให้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Dior, Cartier ไปจนถึงล่าสุดกับการเป็นแอมบาสซาเดอร์ของ Tommy Hilfiger ตอกย้ำความสวยที่มาพร้อมกับความสามารถหลากหลายด้าน




JENNIE: Ruby’s Mantra
ชีวิตที่มากกว่าการเป็นศิลปิน หลังจากออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว เจนนี่ BLACKPINK ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอเป็นมากกว่าศิลปินเคป๊อบเพราะนอกจากการทำเพลงแล้ว เธอยังสร้างเส้นทางใหม่ที่หลากหลาย ทั้งในวงการดนตรี แฟชั่น และธุรกิจ เจนนี่เปิดตัวค่ายเพลงของตัวเอง ODD ATELIER และร่วมมือกับ Columbia Records เตรียมอัลบั้มเดี่ยวของเธอ ‘Ruby’ ที่เพียงเริ่มต้นก็เรียกกระแสตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะซิงเกิลแรก ‘Mantra’ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเองที่ชัดเจน สิ่งที่ทำให้อัลบั้มนี้พิเศษคือเธอได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลก เช่น Childish Gambino, Dua Lipa, Doechii, Dominic Fike, FKJ และ Kali Uchis ซึ่งช่วยให้ดนตรีของเธอมีความหลากหลายและเข้าถึงกลุ่มแฟนเพลงที่หลายหลากมากขึ้นในระดับอินเตอร์
ในเรื่องของเเฟชั่นเจนนี่ไม่ใช่แค่ไอดอลที่แต่งตัวเก่ง แต่เธอกลายเป็น แฟชั่นไอคอนระดับโลก ปัจจุบันเธอเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับ Chanel, Calvin Klein และ Gentle Monster และยังมีคอลเล็กชั่นของตัวเองจนทำให้โซลด์เอ้าในหลายประเทศ รวมไปถึงเธอยังได้เเสดงบทบาทที่เราไม่เคยเห็นอย่างการเป็นนางเเบบให้กับ Jacquemus คอลเล็กชั่น ‘LA CASA’ ตลอดจนเรียกแสงแฟลชในการปรากฏตัวไม่ว่าจะเป็นการไปดูเเฟชั่นโชว์ในเเต่ละครั้ง รวมไปถึงในงานพรมเเดงอย่าง MET Gala เจนนี่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นศิลปินเคป๊อบอีกต่อไป เธอเลือกที่จะควบคุมเส้นทางของตัวเอง และสร้างแบรนด์ของตัวเองทั้งในวงการดนตรี แฟชั่น และธุรกิจ จากเด็กสาวที่เคยเป็นเด็กฝึกหัดใน YG วันนี้ Jennie ได้พิสูจน์ว่าเธอสามารถก้าวออกมาสร้างอนาคตของตัวเองได้อย่างมั่นคง และไม่ว่าเธอจะทำอะไรต่อไป ก็มั่นใจได้เลยว่าเธอจะยังคงเป็น Jennie ที่ทุกคนจับตามองเสมอ




ROSÉ: Number One Girl
การเปิดตัวตนและมุมมองของโรเซ่ที่แสดงออกผ่านอัลบั้มเต็มชุดแรกของเธออย่าง ‘Rosie’ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายยืนยันความเป็นตัวเองของเธอในทุกมุมมองแบบที่ใครหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน เราได้มองเห็นเธอในหลากหลายแง่มุม และเธอกล้าที่จะแสดงออกมาว่าเธอมีความรู้สึกอย่างไรในช่วงวัย 20 ผ่านเนื้อหาภายใน rosie แต่อย่างไรก็ดีเหตุการณ์เหล่านั้นประกอบสร้างทำให้เธอกลายเป็น ‘โรเซ่’ ในแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดจนมาถึงทุกวันนี้
เนื้อหาของเพลงภายในอัลบั้มเต็มของเธอทำให้เรารู้จักมุมมองและตัวตนหยั่งลึกของเธอมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นหรือผลงานในแง่มุมของการเป็น BLACKPINK เท่านั้น แต่มันทำให้เราได้เห็นศักยภาพของเธอแบบเต็มรูปแบบที่ไม่ใช่เพียงแค่การแต่งเนื้อร้องทำนองเอง แต่เป็นการที่ได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอย่าง Bruno Mars ในแทร็กพิเศษซึ่งอยู่ภายในอัลบั้มเต็ม rosie ของเธอ ในชื่อเพลง ‘APT.’ ซึ่งมีทำนองสนุกสนานและเกิดปรากฏการณ์ทุบสถิติใหญ่ครั้งสำคัญหลายเหตุการณ์ ทั้งการเป็นศิลปินหญิง K-Pop คนแรกที่มียอดเข้าชมบน Youtube ถึง 200 ล้านครั้งในระยะเวลาเพียง 12 วัน , เป็นศิลปินหญิงคนแรกใน K-Pop ที่ได้อยู่บน TOP 10 ของชาร์ตบิลบอร์ด อีกทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์บนบิลบอร์ดนับไม่ถ้วน มีการเข้าชมมากกว่า 1 พันล้านครั้งซึ่งใช้เวลาเพียง 105 วันหลังจากปล่อยเพลง นอกจากนี้ที่เธอจะได้ทำผลงานเพลงคับคุณภาพแล้วและในเวลาต่อมาเธอยังได้ตอกย้ำความโดดเด่นและเป็นตัวเองผ่านการปรากฎตัวในเพลง Fat, Juicy & Wet ของ Sexyy Red และ Bruno Mars อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายการันตีความสามารถของเธอได้เป็นอย่างดีว่าเธอคือศิลปินที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก


นอกจากผลงานเพลงที่สร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง , การได้ร่วมงานกับศฺิลปินดังอย่าง Bruno Mars แล้ว ในแง่ของแฟชั่นและเสื้อผ้า เธอก็ยังโดดเด่นและคงความเป็นตัวตนของเธอจนได้ขึ้นเป็นโกลบอลแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ Saint Laurent ซึ่งถือว่าเธอคือคนเกาหลีคนแรกที่ได้ร่วมถ่ายแฟชั่นแคมเปญร่วมกับแบรนด์ นอกจากนี้เธอยังมีแคมเปญกับ SKIMS โดยเป็นแบรนด์ของ Kim Kardashian ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามในช่วงคอลเล็กชั่นวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา โดย Kim Kardashian ยังได้เผยออกปากเองว่า โรเซ่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และแน่นอนว่าคอลเล็กชั่นนี้ก็ได้ขายหมดทุกไอเท็มไปโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
LISA : From Alter Ego to The White Lotus
สาวไทยหนึ่งเดียวแห่ง BLACKPINK ที่เปิดตัวค่ายของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า LLOUD พร้อมเซ็นสัญญากับค่ายเพลงดังของฝั่งอเมริกาอย่าง RCA Records โดยลิซ่าได้ปล่อยเพลง Rockstar ออกมาเป็นเพลงแรกของอัลบั้มซึ่งถ่ายมิวสิกวิดีโอบนถนนเยาวราช เรื่อยมาจน New Woman, Moonlit Floor และที่กำลังมาถึงเร็วๆ นี้กับอัลบั้มเต็มชุดแรกอย่าง Alter Ego ที่มีกำหนดปล่อยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ การันตีความปังด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยวเคป๊อปคนแรกที่คว้ารางวัล Best K-POP จาก MTV Video Music Awards ถึง 2 ครั้ง, การได้เป็นเฮดไลเนอร์ของแฟชั่นโชว์ชุดชั้นในแห่งปีอย่าง Victoria’s Secret ที่สร้างไวรัลครั้งใหม่ผ่านโชว์ของเธอ หรือจะเป็นศิลปิน K-POP คนแรกในประวัติศาสตร์ที่จะได้เข้าหอเกียรติยศ Asian Hall of Fame


อีกหนึ่งเส้นทางใหม่ของสาวลิซ่าในปี 2025 ที่ทุกคนตั้งตาคอยกับผลงานการแสดงเรื่องแรกของเธอ ในซีรีส์ชื่อดังอย่าง ‘The White Lotus Season 3′ ในบทบาทพนักงานต้อนรับ ’มุก‘ ที่เป็นไวรัลตั้งแต่ทีเซอร์ตัวแรกปล่อยออกมากับบทพูดเพียงแค่หนึ่งประโยคของเธอ โดยหลังจากที่ตอนแรกของซีรีส์ออกอากาศไปเมื่อวานนี้ กระแสตอบรับของน้องมุกก็ดีเกินคาด หลายคนต่างชื่นชมในการแสดงของเธอที่ออกมาธรรมชาติสุดๆ ต้องมารอติดตามกันต่อไปว่า มุก จะมีบทบาทสำคัญอะไรในซีซั่นนี้บ้าง
ทั้งผลงานเพลงและการแสดงไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ชี้วัดความปังในระดับโลกของลิซ่า เพราะในโลกแฟชั่น ลิซ่าก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในไอคอนแห่งยุคที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทเฮ้าส์แอมบาสซาเดอร์ของ Louis Vuitton ที่ล่าสุดได้ขึ้นแคมเปญระดับโลกของคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 และการเป็นโกลบอลแอมบาสซาเดอร์ของ Bvlgari ที่มีคอลลาบอเรชั่นเป็นของตัวของถึงสองครั้ง ทั้งหมดที่พูดมานี้ก็คงเป็นคำตอบแล้วว่าทำไมเธอถึงถูกยกให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งปีจากหลายๆ สำนัก


Coming Back as BLACKPINK
ในคราวที่แยกย้ายกันทำกิจกรรมเดี่ยวก็ปังกันแบบหลากสไตล์ และในปี 2025 ที่พวกเธอกำลังจะกลับมารวมตัวกันนี้ก็เชื่อได้เลยว่าจะต้องสร้างตำนานบทใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเคยอย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ YG Entertainment ที่ยังคงดูแลกิจกรรมวงของพวกเธอนั้นก็ได้ออกมาเผยว่า ทั้งสี่คนเตรียมที่จะกลับมารวมตัวกันในฐานะ BLACKPINK พร้อมปล่อยอัลบั้มใหม่มาให้แฟนๆ หายคิดถึง รวมถึงเตรียมไปพบกับชาวบลิงค์ทั่วโลกผ่านเวิลด์ทัวร์อีกด้วย ซึ่งเหล่าเมมเบอร์ก็ได้คอนเฟิร์มการกลับมาในครั้งนี้ พร้อมตอกย้ำมิตรภาพที่ยังคงสนับสนุนกันอย่างเหนียวแน่นโดยการพูดถึงกันเสมอๆ รอชมได้เลยว่าการกลับมาในครั้งนี้ หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานเดี่ยวของพวกเธอจะเสริมความยิ่งใหญ่ในการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ BLACKPINK อย่างไรบ้าง
TEXT: Rachata Ratanavirotkul, Rathatip Khamnurak, Tikumporn Chaiyakote, Thanayut Wanametin