เพื่อนนักแสดงที่เป็นเพื่อนสนิทในชีวิตจริง ผู้รู้ใจว่าอีกฝ่ายชอบอะไร และอะไรดีที่สุดสำหรับเพื่อน นี่คือความสัมพันธ์ที่คลิกกันตั้งแต่วินาทีแรกระหว่าง จุง-อาเชน ไอย์ดึน และ ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ
เคมีเข้ากันอย่างแรงจากบทบาท ‘ดาวเหนือ-คาบคลื่น’ ในซีรี่ส์ ‘แล้วแต่ดาว Star in My Mind’ ส่งผลให้ ‘จุง-ดัง’ เป็นขวัญใจคอซีรี่ส์ไปทั่วโลก แฟนๆ ยังไม่ทันหายฟินก็ได้มาอินกับบทบาทใหม่ ‘โจ๊ก-โซ่’ ในซีรี่ส์ ‘วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda’ ท่ามกลางมิตรภาพที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่า และความรักในการแสดงที่มากยิ่งขึ้นของจุงและดัง
ELLE: อัพเดตข้อมูลที่ถูกต้องกันหน่อย เห็นจุงบอกว่าไม่ใช่ลูกครึ่งไทย-ตุรกี
จุง: ผมเป็นคนไทย ไม่ใช่ลูกครึ่ง ผมเกิดและอยู่เมืองไทยจน 8 ขวบก็ย้ายไปตุรกี เพราะคุณแม่แต่งงานใหม่ที่นั่น ผมอยู่ที่เมืองอิสตันบูลเกือบ 10 ปี จนกลับมาอยู่เมืองไทยตอนอายุ 16 และแต่เดิมผมไม่ได้ชื่ออาเชน ชื่อแรกคือราเชนทร์ พอเข้าอนุบาลเปลี่ยนเป็นวชิรวิชญ์ แล้วกลับเป็นราเชนทร์อีก และเปลี่ยนมาใช้ชื่ออาเชนจนถึงปัจจุบัน ส่วนนามสกุลเป็นของพ่อเลี้ยง ตอนนี้โอนหน่วยกิตมาเรียนปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ ด้านบรอดแคสติ้ง ม.กรุงเทพครับ
ดัง: เขาดูโตกว่าเรา จำได้ว่าครั้งแรกที่เจอกันผมยกมือไหว้ก่อนเลย (หัวเราะ) ‘สวัสดีครับ พี่’ แล้วเพิ่งรู้ว่าอายุเท่ากัน พอคุยกันก็คลิกเลย ส่วนเรื่องการเรียนก็…ผมเรียนจบแล้ว! จบด้านวิศวะคอมพ์ ภาคอินเตอร์จากลาดกระบัง วิชานี้มีประโยชน์มาก ทำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า เขียนโค้ดดิ้ง หรือทำสตาร์ตอัพก็ได้ ตอนนี้รอรับปริญญาเดือน 11 นี้ครับ ทุกคนมาถ่ายรูปกันได้นะ
ELLE: ฟังดูเหมือนการเป็นดารานักแสดงไม่ได้อยู่ในความคิดมาตั้งแต่แรก
จุง: คือตอนนั้นแม่ให้ตัดสินใจว่าจะอยู่ตุรกีต่อหรือจะกลับไทยไปใช้ชีวิตของเรา ตอนนั้นผมไม่ได้อยากเรียนไฮสกูล 3-4 ปี มีคนที่ใช้ทางลัดแล้วเรียนจบไฮสกูลได้เร็ว ถ้าตั้งใจอ่านหนังสือและไปสอบ แค่ครึ่งปีหรือปีเดียวก็เรียนจบได้ ผมเลยตัดสินใจมาไทยและสอบให้จบไฮสกูล เพราะแม่มีลูก 3 คน ผมเป็นคนโต พ่อทำงานคนเดียว ผมอยากเรียนจบเร็วๆ เพื่อจะได้ทำงานเร็วๆ ตอนอายุ 16 ผมเลยกลับมาเมืองไทยคนเดียวและอยู่บ้านป้า ไม่มีเพื่อน เพราะเราไปอยู่ตุรกีตั้งแต่เด็ก โรงเรียนก็ไม่ได้ไป ติวอยู่บ้านอย่างเดียว ถ้าสอบจบไฮสกูลก็อยากเข้ามหาวิทยาลัยต่อเลย นั่นคือเป้าหมายเดียวของเรา
ดัง: ตอนงานแสดงเข้ามาผมอยู่ปี 2 ปี 1 ผมเป็นคฑากรของมหาวิทยาลัย มีคนโพสต์รูปลงโซเชียลเยอะ วันหนึ่งก็มีคน DM มาชวนให้เข้าวงการบันเทิง แม่ก็บอกเอาเลย ลองดู สมัยเรียนผมเคยแสดงในคลาสดราม่า ได้เล่นหลายบทบาทเลย ต้นไม้ เสา หิน มิกกี้เมาส์ก็เคยเล่น แต่เป็นคลาสที่เรารอคอยนะ เพราะมันสนุก
จุง: ตอนเด็กๆ ที่บ้านอยากให้ผมเป็นนักร้อง ผมก็ชอบร้องเพลงนะ แต่ไม่เห็นภาพตัวเองว่าจะทำเป็นนักร้อง แล้วงานแสดงก็เข้ามา…
ELLE: ซึ่งดีเลย ทำให้เราได้ทำงานเร็วขึ้นกว่าที่คิดไปอีก
จุง: ตอนนั้นผมไม่ได้มี mindset ดีขนาดนั้น (หัวเราะ) ผมโลเลไปมาว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่สุดท้ายก็รับงานแสดงเรื่องแรกในซีรี่ส์เดือนเกี้ยวเดือน เป็นหนึ่งในคู่ตัวเมน จำได้ว่าวันแรกเครียดมาก ไม่รู้จะเอามือไปไว้ตรงไหน ไม่รู้จะหายใจอย่างไร ฉากแรกที่เล่นคือเราซื้อนมชมพูแล้วยื่นให้อีกคน จัดไป 8 เทค ตอนนั้นเราไม่ได้เป็นตัวละครด้วยซ้ำ รู้สึกว่าเป็นตัวเองในแบบที่เกร็งมาก (หัวเราะ) ถ้ามองย้อนกลับไปงานแสดงเรื่องแรกผมให้คะแนนตัวเอง 5 เต็ม 10 แต่ถ้าถามในตอนนั้นให้ 10 เต็ม 10 เพราะเราทำเต็มที่ ไม่ได้มานั่งเสียใจว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้
ดัง: ก่อนจะมาทำงานแสดง ผมได้เรียนแอ็กติ้ง และพี่ๆ ให้ไปศึกษากองถ่ายอื่นๆ ก่อน จะได้รู้ว่าเขาทำงานกันอย่างไร พอมาทำงานแสดงก็ชอบมาก ได้เจอสกิลใหม่ของตัวเอง เราได้สวมบทบาทเป็นคนอื่น เรื่องแรกเป็นดาวเหนือ เรื่องที่ 2 เป็นโซ่ มันไม่ใช่เราเลย ก็เลยน่าสนใจ คาแร็กเตอร์ของตัวละครก็ไม่เหมือนกันเลย ดาวเหนือเป็นคนคิดมาก คิดเยอะ แต่โซ่พูดเยอะมาก (หัวเราะ) ไม่ค่อยได้พัก มีบทพูดเยอะไปหมด วาระซ่อนเร้นอะไรต่างๆ ก็มาจากโซ่ ด้วยความที่เขาเป็นนักพูดโต้วาที ซึ่งเราไม่เคยทำมาก่อน ต้องศึกษาการโต้วาที ดูจังหวะการพูด ศัพท์แสงที่ใช้ ซึ่งในชีวิตประจำวันเราไม่ค่อยได้ใช้คำเหล่านี้ บทท้าทายมาก พูดเลย (ปาดเหงื่อ)
ELLE: มีหลักในการเลือกบทอย่างไร
จุง: ผมมีผลงานแสดงเรื่องที่ 6 แล้ว ถ้ารวมรับเชิญด้วย ผมไม่เคยเลือกบทเองเลย ผู้ใหญ่ช่วยดูให้ แต่ผมไม่ติดนะ ใน 6 เรื่องที่เคยแสดงไม่มีบทไหนที่เข้ามาแล้วเรา เอ๊ะ! รับดีไหม แต่ถ้าเลือกได้ผมก็อยากเล่นบทอื่นๆ ด้วย ที่ผ่านมาบทมักจะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ พูดน้อย จริงๆ ผมเป็น extrovert ยกเว้นวันไหนนอนน้อยก็จะเป็น introvert (ฮา) ผมอยากเล่นเป็นตัวละครที่มีเรื่องราวโลดโผน (คิดสด) อย่างเป็นคนที่เกิดมาในบ้านที่มีพี่น้อง 5 คน เขาเป็นลูกคนกลาง พ่อแม่ไม่ค่อยสนใจ ตอนเด็กเคยโดนลักพาตัว จับไปขังต่างจังหวัด โดนขังในห้องเล็กๆ นอนพื้นกับหมา กินข้าวกับหมา แล้วก็หนีออกที่คุมขัง มีคนมาช่วย แต่ดันไปเจอคนไม่ดีอีก เขาเลยหนีเข้าป่า อยู่ในถ้ำ เจอฝูงหมา แล้วก็ไปเจอโรงเรียนเวทมนตร์ และโตมาเป็น ส.ส. ที่พูดว่า ‘เห็นชอบ’ (หัวเราะ)
ดัง: จริงๆ ผมอยากเล่นบทแฟนตาซี อยากเล่นเป็นแวมไพร์มาก ฟีลเบลล่ากับเอ็ดเวิร์ดจาก Twilight และถ้ามีโอกาสก็อยากโกอินเตอร์ โดยรวมผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวมากสำหรับวงการบันเทิงไทยตอนนี้ คนเสพคอนเทนต์ของไทยมีทั่วโลก และนักแสดงไทยได้ไปทำงานอินเตอร์มากขึ้น ได้ไปดูแฟชั่นโชว์ที่มิลานและปารีสเลย ตอนนี้เรียนจบแล้วด้วย อยากลุยงานในวงการบันเทิงเต็มที่ แต่ก่อนที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยได้ บอกเลยเพราะว่าไม่ได้นอน เราต้องตั้งใจเรียนในคลาสให้เข้าใจตรงนั้นเลย เพราะเราไม่มีเวลาอ่านหนังสือแล้ว เลิกเรียนก็ต้องไปทำงาน
จุง: เรามีจุดที่เหมือนกันคือเป็นคนชิลทั้งคู่ ผมโตมาหลายวัฒนธรรมเลยเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย และเป็นคนจริงใจ ให้ใจง่าย ผมเคยฟังสัมภาษณ์พี่แอน ทองประสม เขาพูดว่าเราไว้ใจคนไว้ก่อน ถ้าเขาทำให้เราเสียใจเราก็ค่อยมาเสียใจ ไม่ใช่ใช้ชีวิตด้วยความระแวง แต่ไม่ใช่ว่าไม่ระวัง ยิ่งเราทำงานวงการบันเทิง มีอะไรไม่คาดคิดเสมอ
ดัง: บุคลิกเราดูเป็นคนชิล เพราะเรารู้สึกว่าเราจัดการได้ คงเป็นสิ่งที่ได้จากการเรียนวิศวะที่เราจะคิดอะไรเป็นตรรกะ แผน 1 ไม่เวิร์ก เราใช้แผน 2 3 4 ได้ เวลามีเรื่องแย่ๆ เข้ามาผมเลยไม่ค่อยบ่น อีกอย่างอะไรที่เกิดขึ้นแล้วเรากดปุ่ม undo ไม่ได้ เราคิดหาทางแก้หรือถอดบทเรียนจากมันดีกว่า
ELLE: มีงานแสดงด้วยกันต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ 2 ความสนิททำให้การทำงานง่ายขึ้นไหม
จุง: เพื่อนนักแสดงไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจเรานะ แต่เขา (มองดัง) เป็นคนหนึ่งที่เข้าใจ ผมมีสังคมเพื่อนหลายกลุ่ม ไม่ได้เยอะมากหรอก มีสังคมเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน สังคมที่ไปนั่งชิลกัน สังคมที่ไปเที่ยว ไปต่างจังหวัด มีเพื่อนหลายแบบ คนนี้เราคุยเรื่องนี้ได้ และบทบาทของเราในแต่ละกลุ่มก็ไม่เหมือนกัน เราเล่าปัญหาให้กับคนที่พร้อมจะเข้าใจเราดีกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับฟังเรา ก็จะเหมือนพูดกับกำแพง และบางทีกำแพงก็ด่าเรากลับให้ด้วย
ดัง: เราสองคนเจอกันทุกวัน ไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน ทำอะไรก็นึกถึงกัน เวลาไปเจออะไรก็จะคิดว่าเขาต้องชอบสิ่งนี้แน่เลย แล้วเราจะรู้ว่าอีกคนชอบหรือไม่ชอบอะไร เลยทำงานด้วยกันง่ายมาก อย่างเวลาถ่ายรูป จุงจะชอบหน้าฝั่งซ้ายของตัวเองมากกว่า แต่หน้าผมฝั่งไหนดีกว่า ผมไม่ซีเรียสเลย แบบไหนก็ได้ เราสองคนเลยจะมีที่ประจำตัวไปโดยอัตโนมัติ จุงจะอยู่ฝั่งซ้าย ผมจะอยู่ฝั่งขวา ลองสังเกตสิ
ติดตามชมภาพแฟชั่นเซ็ตของ จุง-ดัง ในลุคเดนิมสุดเท่จาก Levi’s เอาใจสาวก Studio Ghibli ด้วยการมิกซ์แอนด์แมตช์ไอเท็มสุดพิเศษจากคอลลาบอเรชั่น Levi’s® x Princess Mononoke พร้อมบทสัมภาษณ์เต็มๆ ได้ในคอลัมน์ ELLE Crush ของนิตยสารแอล ประเทศไทย ฉบับเดือนสิงหาคมนี้
Text : Suphakdipa Poolsap
Photographer : Pathomporn Phueakphud
Fashion Editor : Jantima Jansawadmethakul
Make up : Tanapon prasanwan
Hair : Thananicha Phayapmek
Assistant Stylist : Kittiphoom Eardthong , Pinpinut Phanlam
Assistant Photographer : Panpetch Petchphloy , Kwanchai Julwaraporn , Kachapon Panuditeekun