ในช่วงที่ผ่านมา แฟนๆ ซีรีส์เกาหลีหลายคนคงได้เข้าออกห้องผ่าตัดฉุกเฉินกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะซีรีส์ The Trauma Code ได้พาเราเกาะติดการทำงานในแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน แผนกที่ขึ้นชื่อว่าฉุกละหุกวุ่นวายมากที่สุดแผนกหนึ่งในโรงพยาบาล นำทีมโดยอาจารย์หมอ แพคคังฮยอก ที่รับบทโดย จูจีฮุน นักแสดงมากฝีมือที่ช่วงนี้เราได้เห็นหน้าเขากันบ่อยเป็นพิเศษ เพราะมีงานแสดงจ่อคิวกันออนแอร์แบบไม่มีพัก
แม้จะมีผลงานออกมาแบบไม่ขาดสาย แต่จูจีฮุนก็สามารถถ่ายทอดแต่ละบทบาทออกมาได้อย่างดีจนผู้ชมอย่างเราๆ เชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาคือตัวละครนั้น โดยไม่ติดภาพจำจากบทบาทสุดไอคอนิกในเรื่องที่ผ่านๆ มา วันนี้แอลเลยขอพาทุกคนมาส่อง 5 ผลงานน้ำดีที่คุณห้ามพลาดของจูจีฮุนที่ตอกย้ำว่า ไม่ว่าจะสวมคาแรกเตอร์ใด อาชีพไหน เขาก็สามารถเอาอยู่ได้หมดอย่างแท้จริง

Princess Hour เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา (2006)
จูจีฮุนก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงผ่านการเป็นนายแบบ ก่อนจะประเดิมรับบทนำเต็มตัวด้วยซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์ความฮิตไปทั่วทั้งเอเชียเมื่อ 20 ปีก่อน นั่นก็คือซีรีส์ Princess Hour หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา ซีรีส์เรื่องที่พาใครหลายคนเข้าสู่โลกแห่งซีรีส์เกาหลีและเป็นหนึ่งในผลงานที่เผยวัฒนธรรมเกาหลีออกสู่สายตาชาวเอเชียเช่นกัน กับเรื่องราวของ ชินแชกยอง (ยุนอึนฮเย) สาวจอมเปิ่นผู้จับพลัดจับผลูมาเป็นคู่สมรสขององค์รัชทายาทลีชิน (จูจีฮุน) จอมเย็นชา หลักสูตรสู่การเป็นเจ้าหญิงสุดสมบูรณ์แบบจึงได้เริ่มต้นขึ้น! เชื่อเลยว่าในยุคนั้นหลายๆ คนคงต้องตกหลุมรักจูจีฮุนในมาดเจ้าชายน้ำแข็งปากแข็งเป็นแน่

Kingdom (2019)
เส้นทางการเป็นนักแสดงของจูจีฮุนเป็นไปด้วยดีเรื่อยมา จนกระทั่งต้องชะงักไปด้วยคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่เจ้าตัวได้รับโทษตามกฎหมายอย่างครบถ้วน เมื่อผ่านมรสุมชีวิตลูกใหญ่หลังจากหายหน้าหายตาไปได้สักพัก จูจีฮุนก็กลับมาพร้อมกับโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่ กับบทบาท องค์รัชทายาทอีชาง ใน Kingdom ซีรีส์เกาหลีออริจินัลจาก Netflix เรื่องแรก บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการเสียชีวิตของกษัตริย์จากเชื้อร้ายที่แพร่ระบาดและเปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นซอมบี้ นับเป็นซีรีส์ที่ตอกย้ำกระแส K-Zombie ทำให้ซีรีส์ซอมบี้สัญชาติเกาหลีนั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้เลยนั่นเอง ทั้งยังพาซีรีส์เกาหลีออกสู่สายตาชาวโลกอีกครั้งในยุคแห่งสตรีมมิ่ง เรียกได้ว่าจูจีฮุนเป็นผู้เปิดประตูสู่ซีรีส์เกาหลีครั้งแล้วครั้งเล่าเลยทีเดียว

Blood Free (2024)
ย้อนกลับไปมองในปี 2024 คงต้องบอกว่าเป็นปีทองสำหรับจูจีฮุนอย่างแท้จริง เพราะเขาได้เสิร์ฟหลายซีรีส์หลากบทบาทมาให้เราได้ชมอย่างไม่ขาดสาย แถมแต่ละเรื่องยังมาในพล็อตแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันอีกด้วย เริ่มต้นกันด้วย Blood Free ซีรีส์แนวไซไฟเมื่อวิทยาศาสตร์ของโลกก้าวล้ำไปจนมนุษย์สามารถผลิตเนื้อเทียมมาบริโภคกันเองได้ แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของบริษัทผู้ผลิตนี้ก็ชวนให้ประชาชนฉงนใจไม่ใช่น้อย โดยจูจีฮุนรับบท อูแชอุน บอดี้การ์ของ CEO ยุนจายู (ฮันฮโยจู) เผยเคมีที่ชวนเขินแม้ไม่มีเลิฟไลน์ก็ตาม

Love Your Enemies (2024)
หลังจากถ่ายทอดบทบาทเข้มข้นในซีรีส์ที่ต้องผจญบททดสอบหฤโหดมากมาย ในที่สุดเราก็ได้เห็นจูจีฮุนกลับมารับบทโรแมนติกคอเมดี้อีกครั้ง กับซีรีส์ Love Your Enemies ที่ประกบคู่กับ จองยูมี บอกเล่าความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่กัดกันโดยกำเนิด จากความขัดแย้งระหว่างสองครอบครัว ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนมาสู่ความรัก แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกัน จนกระทั่งโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในรอบ 18 ปี ชวนให้ติดตามว่าคู่กัดสองคนนี้จะพัฒนามาสู่การเป็นคู่กันได้อย่างไร

The Light Shop (2024)
ทั้งใจฟู ทั้งปวดขมับ ทั้งลุ้นระทึกขวัญกันไปแล้ว ถึงคิวเสียน้ำตากันบ้าง กับผลงานน้ำดีส่งท้ายปี 2024 อย่างซีรีส์ The Light Shop ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับซีรีส์ในดวงใจหลายๆ คนอย่าง Moving โดยเรื่องนี้พาทุกคนมาสำรวจร่องรอยความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนมากมาย เมื่อโลกของคนเป็นและคนตายมาบรรจบกันผ่านร้านขายโคมไฟลึกลับที่ส่องสว่างอยู่ท้ายซอยเปลี่ยว โดยจูจีฮุนสวมบทบาท จองวอนยอง เจ้าของร้านนั้นนั่นเอง
