เนื่องในโอกาสที่แบรนด์ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง TUMI จัดงานเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่เปิดตัวร้านแฟล็กชิปสโตร์โฉมใหม่ ณ ย่านโอโมเตะซันโด ประเทศญี่ปุ่น ในงานนี้จึงมีนักแสดงหนุ่มชาวไทยอย่าง ‘บลู พงศ์ทิวัตถ์’ บินลัดฟ้าไปร่วมอีเวนต์นี้พร้อมกันกับเหล่าแขกคนสำคัญในญี่ปุ่น ซึ่งแอลเองก็ได้ร่วมพูดคุยกับครีเอทีฟไดเร็กเตอร์มากฝีมือผู้ร่วมงานกับแบรนด์มากว่า 2 ทศวรรษอย่าง Victor Sanz ที่เขาก็มาเปิดเผยแง่มุมที่น่าสนใจต่างๆ มากมายเกี่ยวกับแบรนด์ TUMI และเราก็อยากจะบันทึกประสบการณ์นี้มาให้คุณฟังไปด้วยกันที่นี่
ELLE: ตัวตนและทิศทางของ TUMI ในตอนนี้
Victor Sanz: “สำหรับพวกเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือการก้าวไปข้างหน้า (Moving Forward) ไม่ใช่แค่เพียงกับแบรนด์ แต่รวมไปทั้งระบบอุตสาหกรรมนี้ด้วย แบรนด์ต้องเข้าใจผู้บริโภคและรู้ว่าพวกเขามีวิถีชีวิตแบบไหน เพื่อที่เราจะสามารถพัฒนาโปรดักต์ให้ตอบโจทย์ชีวิตพวกเขาได้ ก็ไม่ใช่แค่การตอบโจทย์การใช้งาน แต่เรื่องความสวยงามหรือไลฟ์สไตล์ก็เช่นเดียวกัน นั่นคือการพัฒนาวิสัยทัศน์ในแบรนด์ของเรา”
Victor Sanz: “อย่างเช่นตอนนี้ที่อยู่ในร้าน TUMI แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ย่านโอโมเตะซันโด เมื่อคุณได้ก้าวเดินเข้ามาในพื้นที่นี้ เราก็อยากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงและรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวตนของเรา อย่างการตกแต่งภายในร้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋ารุ่น 19 Degree Collection ก็จะทำให้พวกเขาเห็นทั้งตัวตนของแบรนด์ ความสร้างสรรค์ ความลื่นไหล ในขณะเดียวกันก็จะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์ของเราด้วย”
ELLE: อะไรคือสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณในตอนที่คุณต้องเริ่มสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างให้กับ TUMI
Victor Sanz: “ทีมจะสร้างสรรค์งานโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานอยู่เสมอ พวกเขาคือแรงบันดาลใจ (Muse) เราต้องเข้าใจและเชื่อมโยงกับเขาเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เราทำตอบโจทย์สิ่งที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นเมื่อต้องพัฒนาโปรเจ็กต์อะไรสักอย่าง เราก็จะมองออกไปรอบตัวว่าสถาปัตยกรรมเป็นอย่างไร เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบไหน อาหาร เสียงเพลง หรืออะไรก็ตามแต่ที่เราเดินทางไปพบเจอในทุกๆ จุดหมายปลายทาง มันเป็นอย่างไร เราก็จะนำทุกอย่างที่เจอนั้นมารวมกันเพื่อสร้างมันขึ้นมา เพราะนี่มันสำคัญสำหรับผู้ใช้มากๆ เราต้องทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกับหลายๆ แง่มุมในแต่ละช่วงชีวิตของพวกเขา เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องสินค้าเท่านั้น แต่มันยังเป็นเรื่องชีวิตและการท่องเที่ยวด้วย นี่แหละคือสิ่งที่พวกเราพยายามทำมาโดยตลอด”
ELLE: เทรนด์แฟชั่นเหมือนเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา แล้วคุณมีวิธีการสร้างชิ้นงานขึ้นมาอย่างไรให้สามารถใช้งานได้ดีและยังตอบโจทย์เรื่องสไตล์แฟชั่นด้วย
Victor Sanz: “เราให้ความสนใจกับโลกของแฟชั่นไปพร้อมกับอุตสาหกรรมการเดินทางและการบินต่างๆ เพราะเราจะหาทางตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในหลายแง่มุม อย่างด้านของไอเท็มสำหรับคุณผู้หญิง เราก็จะออกแบบให้มันมีความเรียบง่าย สวยงามเหนือกาลเวลา มีความนุ่มนวล ซับซ้อน แฝงไปด้วยเสน่ห์อย่างมีชั้นเชิง อย่างคอลเล็กชั่นกระเป๋าของผู้หญิงรุ่น ‘Georgica’ คุณก็จะเห็นว่าซิลลูเอ็ตมันมีความ Timeless หนังของกระเป๋าเองก็นุ่มมาก คือมันเป็นไอเท็มที่ดูสวยในวันนี้ แต่ในวันข้างหน้าอีก 5-10 ปี มันก็จะยังดูงดงามเหมือนเคย แถมมันก็ยังใช้งานได้ดีด้วย จุของได้หลายอย่าง หรือถ้าคุณไม่อยากใช้งานมันสมบุกสมบันมากขนาดนั้น มันก็ยังจะเป็นไอเท็มที่สวยมากๆ อยู่ดี”
Victor Sanz: “เราจะพัฒนามันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ไอเท็มของแบรนด์มีสไตล์และคลาสสิก แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ทิ้งหลักสำคัญของแบรนด์อย่างคำว่า ‘นักเดินทาง’ ความสมดุลของคำว่า ‘Functionality & Fashion’ คือสิ่งที่แบรนด์มี เพราะเราไม่จำเป็นต้องละทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่ง เราสามารถมีทั้งความสง่างามไปพร้อมๆ กับการทำงานได้ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน”
ELLE: ในยุคปัจจุบันที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทางแบรนด์โฟกัสกับประเด็นนี้อย่างไร
Victor Sanz: “เรื่องความยั่งยืนคือหนึ่งในหลักสำคัญที่ TUMI ยึดถือมาตั้งแต่วันแรกเลย สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้นๆ คือการสร้างโปรดักต์ที่สามารถใช้ได้นานหลายปี มันต้องทนทานและส่งต่อให้กับลูกหลานต่อไปได้เรื่อยๆ ถ้ามีอะไรเสียขึ้นมา มันก็ต้องซ่อมได้ และเมื่อโลกและผู้คนเดินทางมาสู่จุดที่โฟกัสและมีความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืน พวกเราก็อยากจะสานต่อมันต่อไปเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะด้วยการทำให้มันแข็งแรงทนทานหรือใช้วัสดุที่มาจากกระบวนการรีไซเคิลก็ตาม ที่ผ่านมาเราเคยใช้วัสดุรีไซเคิลมากมายทั้งในคอลเล็กชั่น Voyageur หรือ 19 Degree และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเรื่องการพัฒนาความยั่งยืน TUMI ยังเป็นสมาชิกในกลุ่ม The 1% for the Planet network ซึ่งเราจะบริจาค 1% ของกำไรให้กับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
Victor Sanz: “ตั้งแต่ผมมาทำงานนี้ ผู้ก่อตั้งแบรนด์บอกผมว่าโปรดักต์ของเราต้องอยู่ได้นานที่สุด พ่อแม่ต้องสามารถส่งของชิ้นนี้ต่อให้ลูกของพวกเขาได้ ลูกก็สามารถส่งต่อให้ลูกของพวกเขาได้ คิดดูสิว่ามันจะเจ๋งขนาดไหนที่คุณสามารถขยายเวลาการใช้งานให้กับของชิ้นหนึ่งไปอย่างยาวนาน ยิ่งมันเป็นวัสดุรีไซเคิล มันก็ยิ่งสวยงามขึ้นไปอีกนะ”
ELLE: ช่วยแชร์ไอเท็ม ‘TUMI Go-to Piece’ ของคุณหน่อย และทำไมคุณถึงชอบชิ้นนั้น
Victor Sanz: “ผมเดินทางบ่อยมากๆ ดังนั้นมันจะต้องเป็นกระเป๋าจาก 19 Degree Collection ไม่ว่าจะไปที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ต้องเป็นใบนี้แหละ ผมรู้สึกว่ามันดูดี มีความ Sophisticated รู้สึกมั่นใจในเวลาที่ได้ใช้มัน ส่วนดีไซน์ก็ยังโมเดิร์นและมีความสวยงามเหนือกาลเวลาด้วย และถ้าหากเราใช้มันแล้วรู้สึกมั่นใจ เราก็จะทำงานและจัดการสิ่งรอบตัวต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งผมว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องฟังก์ชั่นเหมือนกัน”
ELLE: ช่วยแชร์ทิปส์สำหรับนักเดินทางที่อยากจะออกเดินทางในแบบสบายๆ แต่ยังเท่และมีสไตล์ให้กับผู้อ่านของเราหน่อย
Victor Sanz: “สำหรับผมคงเป็นคำว่า ‘ทำให้ทุกอย่างเรียบง่ายเข้าไว้’ เวลาเราจัดการต่างๆ ก็ดูว่าเราจะไปที่ไหน ดูว่าอากาศเป็นยังไง เราจะไปทำอะไร แล้วค่อยจัดวางไป ซึ่งจริงๆ ผมว่าเราทุกคนน่าจะมีปัญหาแพ็กของมากไปหน่อย เราจะชอบคิดว่า ‘จัดๆ เผื่อไปหน่อยแล้วกัน’ แต่จริงๆ แล้วเราจะใช้ชีวิตง่ายขึ้นมากถ้าเราทำให้ทุกอย่างเรียบง่าย”
ELLE: สุดท้ายนี้ ในฐานะที่คุณเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ TUMI คุณตั้งเป้าหมายหรือมีวิสัยทัศน์ให้กับแบรนด์อย่างไรบ้าง
Victor Sanz: “อย่างที่ผมบอกไปตอนแรกคือคำว่าเราจะก้าวไปข้างหน้า นี่คือสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่วันที่หนึ่ง เราจะทำมันต่อไปเพื่อให้รับกับทุกวิถีการใช้ชีวิต และเราก็จะพยายามเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน”