‘เพื่อนหญิงพลังหญิง’ คงเป็นอีกหนึ่งวลีคุ้นหูที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ ในปัจจุบันเนื่องจากถูกหยิบไปใช้ในบริบทที่หลากหลาย และเมื่อได้รับการเอ่ยถึงอย่างหนาหูพร้อมด้วยกระแส Women’s Empowerment ที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่ เหล่าศิลปินหญิงจากอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดเข้ามาโลดแล่นในการเคลื่อนไหวสุดทรงพลังครั้งนี้ด้วย จะมีเกิร์ลกรุ๊ปวงไหนที่น่าจับตามองบ้าง แอลรวบรวมมาให้แล้วที่นี่!
ความเป็นปิตาธิปไตยที่ชายเป็นใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นปัญหาสังคมชนิดที่เรียกได้ว่าเข้าขั้น ‘เรื้อรัง’ และยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างชะงัดเสียที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ซึ่งแน่นอนว่าก็ย่อมส่งผลกระทบอันโหดร้ายเป็นวงกว้างไปถึงวงการไอดอลด้วยเช่นกัน โดยปัญหาข้างต้นนำไปสู่ค่านิยมที่บังคับให้ไอดอลสาวส่วนใหญ่ในสมัยก่อนจำเป็นจะต้องนำเสนอลุคและเพลงที่เปี่ยมไปด้วย Feminine Energy หรือ ความเฟมินีน ออกมาเป็นหลักด้วยการแต่งตัวและเนื้อหาของเพลงที่ดูน่ารักหวานใส อ่อนโยนดุจสำลีตามแบบฉบับผู้หญิงในอุดมคติที่สังคมคาดหวัง หรือบ้างก็ต้องเซ็กซี่สุดโต่งไปเลยเพื่อตีตลาดและดึงดูดฐานแฟนคลับผู้ชายซึ่งอาจกล่าวได้ว่าทรงอิทธิพลไม่แพ้แฟนคลับเพศหญิงเลยทีเดียว ณ ช่วงเวลานั้น


แต่แล้วประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ใครหลายคนรอคอยก็เริ่มถูกจดบันทึกอย่างแยบยล เมื่อการซ่อนสัญญะไว้ใน บทเพลง ของวงเกิร์ลกรุ๊ปจากทางฟากฝั่ง K-POP กลายมาเป็นหัวใจสำคัญของการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงยุคใหม่ ไม่มีอีกแล้วสาวน้อยสุดน่ารักที่ต้องคอยทำตามขนบธรรมเนียมเดิมๆ หรือกรอบความงามที่สังคมมองว่าเหมาะสม เพราะเรากำลังก้าวเข้าสู่สมัย ‘Girls Run The World’ อย่างแท้จริง
Girls’ Generation (SNSD)

หลังจากเปิดตัวมาด้วยเพลง Into The New World ซึ่งถูกขนามว่าเป็นเพลงสุดทรงพลังแห่งการปฏิวัติของเกาหลีใต้ในปี 2007 สาวๆ Girls’ Generation ทั้ง 9 คนก็กลับมาพร้อมกับแนวเพลงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ เฉียบคม และมั่นใจมากยิ่งขึ้นกับการคัมแบ็กในปี 2011 ในเพลง ‘The Boys’ ที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังอันเต็มเปี่ยมของหญิงสาว อนุมานได้ว่าผู้หญิงทุกคนก็สามารถเป็นผู้นำได้
“ถึงจะล้มเหลวไปแล้วเป็นกี่พันครั้ง แต่ก็ลุกขึ้นมาเถอะ”, “สาวๆ เอาความเป็นผู้ชายของพวกเธออออกมา!” และ “ฉันนี่แหละคือราชินี ฉันนี่แหละบอสตัวจริง” เนื้อเพลงเหล่านี้ถูกร้อยเรียงและถ่ายทอดออกมาท่ามกลางความเชื่อชายเป็นใหญ่ในสังคมเกาหลีใต้ ถือเป็นการสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่อยากทำอย่างไม่เกรงกลัว แสดงออกในแบบที่ใจต้องการโดยไม่จำเป็นต้องรอคำอนุญาตจากใครทั้งนั้น เพราะผู้หญิงก็สามารถมีบทบาทในสังคมได้เทียบเท่ากับผู้ชายเช่นเดียวกัน
MAMAMOO

หากจะพูดถึงวงไอดอลสาวที่ฉีกมาตรฐานความงามได้อย่างน่าตื่นเต้น MAMAMOO ก็คงเป็นหนึ่งในชื่อที่ใครหลายคนนึกถึงอย่างปฏิเสธไม่ได้ พวกเธอนำเสนอความมั่นใจในระดับเต็มร้อยที่มาพร้อมกับความเป็นตัวเองจนหลายครั้งก็โดนลดทอนสิ่งเหล่านั้นลงด้วยความเกลียดชังจากคำกล่าวของกลุ่มคนบางส่วนในสังคมว่า “ไม่สวย” หรือบ้างก็ “พวกเธอไม่ใช่ไทป์ของไอดอล!”
การปล่อยเพลง ‘HIP’ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเป็นทั้งในด้านรูปร่างหน้าตาและตัวตน ออกมาเพื่อตอกย้ำว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของพวกเธอ ตั้งแต่หัวจรดเท้าทุกส่วนล้วนเพียบพร้อมทั้งหมดโดยไม่เห็นจะมีตรงไหนผิดพลาด จึงทำให้ภาพจำของสาวๆ MAMAMOO ชัดเจนยิ่งขึ้นและได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ตไปอย่างล้นหลาม พร้อมช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้หญิงที่ไม่ได้มีลักษณะรูปร่างหรือการปฏิบัติตัวที่สอดคล้องกับค่านิยมของสังคมด้วยท่อนร้อง “เสื้อเลอะน้ำมูก ปากบึ้งตึง ผมมันเยิ้มแต่ฉันก็ไม่สน” รวมถึง “เอาแต่เถียงกันเรื่องแฟชั่นของฉัน แต่ฉันไม่สนหรอกนะ จะทำต่อไป”
BLACKPINK

เมื่อขึ้นชื่อว่ามาจากค่าย YG Entertainment แน่นอนว่าความดุดันและความแข็งแกร่งก็คงจะต้องถูกสอดแทรกลงไปทั้งในเพลงและการแต่งตัว ซึ่ง 4 สาว BLACKPINK ก็ไม่รอช้าที่จะเดินตามรอยรุ่นพี่สุดแกร่งอย่าง 2NE1 ตัวแม่แห่งยุคในตำนาน ผ่านบทเพลงที่สื่อถึงความเข้มแข็งของผู้หญิงสุดเด็ดเดี่ยว โดยเฉพาะ ‘Pretty Savage’ หนึ่งใน B-side Audio ที่ถูกพูดถึงในแง่ของเนื้อหาเพลงมากที่สุด
Pretty Savage ถ่ายทอดทัศนคติของผู้หญิงที่ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองว่าเธอเป็นอย่างไร จะร้ายหรือป่าเถื่อนมากแค่ไหน เพราะสุดท้ายผู้ชายเหล่านั้นก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะรับมือกับผู้หญิงอย่างพวกเธอได้หรอก พร้อมเหน็บแนมแอนตี้ที่เคยโจมตีเรื่องรูปร่างได้อย่างเจ็บแสบ ไม่ว่าจะเป็นท่อน “ขนาดแค่ชื่อเรายังพูดผิดๆ ถูกๆ ผู้ชายพวกนั้นก็แค่ผ่านๆ เข้ามานั่นแหละ” หรือ “ก็ฉันเกิดมาผอม จะให้เพิ่มน้ำหนักมากแค่ไหนก็ผอมอยู่ดี”
(G)I-DLE

อีกหนึ่งไตเติลสุดฮอตที่แต่งโดยหัวหน้าวงอย่างสาว Soyeon และเรียกเสียงฮือฮาของแฟนๆ จากทั่วทุกมุมโลกไปได้ตั้งแต่รูปโปรโมตแรก พร้อมการันตีความปังด้วยยอดวิวที่ทะยานขึ้นสู่ 10 ล้านครั้งตั้งแต่วันแรก อย่าง ‘TOMBOY’ บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงที่โดนตีกรอบให้เป็นหญิงสาวในอุดมคติตามบรรทัดฐานของสังคม แน่นอนว่าพวกเธอไม่ใช่และจะไม่มีวันให้ค่ากับมัน โดยสาวๆ (G)I-DLE ก็ได้ต่อต้านภาพจำเหล่านั้นด้วยเพลงสุดจัดจ้านที่มี เนื้อหาบาดลึกและเสียดสีผู้ชาย อย่างตรงไปตรงมา
ทั้งบอกว่า “จะแก่นเซี้ยวแค่ไหนแต่นี่ก็ตัวฉัน”, “ความรักบ้าบอพรรค์นั้นทำฉันเสียน้ำตาไม่ได้หรอก” ไปจนถึง “แม่ของเธอคงจะเลี้ยงเธอมาดุจดั่งเจ้าชาย แต่ที่นี่คืออาณาจักรของราชินี” ตอกย้ำปัญหาสังคมชายเป็นใหญ่ในเกาหลีใต้ได้อย่างมีชั้นเชิง อีกทั้งยังมาพร้อมกับลุคห้าวๆ แนว Punk Rock ที่อาจจะยังไม่ค่อยได้เห็นมากนักในวงการเกิร์ลกรุ๊ปฝั่ง K-POP อีกด้วย
ITZY

นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ทั้ง 5 สาวมากความสามารถจากวง ITZY ก็ได้ปล่อยเพลงที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความมั่นใจของเด็กสาวเสมอมา และ การได้เป็นตัวเองอย่างอิสระ ก็ถือเป็นหัวใจหลักที่ ‘WANNABE’ ซิงเกิลสุดไวรัลที่ได้รับการรับรองในระดับ Gold จากสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งในอเมริกาอย่าง RIAA ต้องการจะสื่อสาร
WANNABE ประเดิมความเดือดตั้งแต่ท่อนแร็พแรกของเพลงที่บอกให้หยุดจู้จี้จุกจิกกับฉันได้แล้ว เพราะฉันจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของฉัน สะท้อนให้เห็นว่าพวกเธอไม่ต้องการที่จะทำตามกฏหรือความคาดหวังใดๆ ของสังคม พร้อมเผยทัศนคติของผู้หญิงยุคใหม่ที่จะไม่ยอมให้ใครมาชี้หน้าสั่งว่าเราต้องเป็นแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นท่อนที่ร้องว่า “ฉันไม่อยากเป็นใครซักคนเลย ฉันแค่อยากเป็นฉัน” รวมถึง “ทำไมคุณถึงสนใจชีวิตของคนอื่นมากขนาดนี้ มันไม่ใช่ธุระของคุณ” โดยได้บอกเล่าผ่านมิวสิกวิดีโอที่สาวๆ แต่ละคนได้ทำตามสิ่งที่ใจปรารถนาแบบไม่เกรงกลัวสายตาคนรอบข้าง


ไม่ใช่เพียงแค่การก้าวออกจากกรอบหรือขนบความเชื่อเดิมๆ อย่างที่เคยเป็นมา แต่เหล่าศิลปินหญิงตัวแม่เหล่านี้ยังได้ใช้พื้นที่ของตัวเองในการทำลายบรรทัดฐานทางสังคมซึ่งเป็นผลพวงมาจากระบบปิตาธิปไตยในเกาหลีใต้ที่มีมาอย่างยาวนานผ่านการแสดงออกทางตัวตนและบทเพลงอย่างกล้าหาญ แล้วมีท่อนไหนจากเพลงของพวกเธอที่โดนใจสาวๆ แอลกันบ้าง? แชร์ให้เราฟังได้เลย!
TEXT: Pimnara Suesatkul