หนึ่งในเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของ Chanel ที่ส่งต่อมาหลายทศวรรษนั้นคือดอกคามิลเลีย มันถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของ Chanel ตั้งแต่ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Gabrielle Chanel ที่นำดอกคามิลเลียมาปักบนเสื้อ ต่อมาช่างประดิษฐ์ดอกไม้ทำมือให้กับแบรนด์อย่าง Lemarié ก็ยังทำมาตลอด ส่วนดีไซเนอร์ Karl Lagerfeld ก็นำองค์ประกอบที่ชวนให้นึกถึงดอกคามิลเลียมาใช้ในทุกคอลเล็กชั่นนับตั้งแต่ปี 1983 จวบจนมาถึงรันเวย์ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวประจำปี 2023 ของดีไซเนอร์คนปัจจุบันอย่าง Virginie Viard ก็ยังคงมีเซตติ้งดอกคามิลเลียขนาดยักษ์ปรากฏกลางรันเวย์
Virginie Viard หยิบยกความงามของดอกไม้เมืองหนาวอันเป็นเอกลักษณ์มาอย่างยาวนานของ Chanel มาถ่ายทอดผ่านคอลเล็กชั่นนี้ด้วยการสร้างสรรค์ลวดลายและเนื้อผ้า ทั้งลายถัก ลายปัก ลายพิมพ์ ลายแบบ 3 มิติ รวมไปถึงผ้าลูกไม้ ซึ่งเราจะสังเกตเห็นว่ามีดอกคามิลเลียเบ่งบานอยู่บนเสื้อผ้าอันเป็นดีไซน์เอกลักษณ์ของ Chanel ไม่ว่าจะเป็นแจ็กเกตผ้าทวีด กระดุม กระเป๋า รองเท้า ตลอดจนเครื่องประดับจิวเวลรี่ต่างๆ
“ดอกคามิลเลียเป็นมากกว่าธีมของงาน มันเป็นเอกลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ของบ้านหลังนี้ และฉันรู้สึกได้ว่าเราสบายใจและคุ้นเคยกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งฉันชอบความนุ่มนวลที่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งของมัน” – Virginie Viard
Virginie ยังต้องการให้ผลงานของเธอมีความละเอียดอ่อนและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เธอจึงถ่ายทอดความลื่นไหลของเสื้อผ้าออกมาผ่านความไม่สมมาตรของเสื้อโค้ต ความยาวของกระโปรงที่มีความโค้งเหมือนเกลียวคลื่น เส้นด้ายที่ถักทอในชิ้นงาน รวมไปถึงลูกปัดและเลื่อมต่างๆ นอกจากนี้เธอยังคงเน้นย้ำการใช้โทนสีหลักอย่างขาวและดำแต่นำมาแต่งแต้มด้วยสีชมพู แดง และน้ำเงินที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู ทว่ายังให้กลิ่นอายความสดชื่นและสนุกสนาน ทั้งหมดนี้จึงถูกเล่าออกมาผ่านทีเซอร์ของแบรนด์ที่นำแสดงโดยเฟซอย่าง Nana Komatsu ที่มีทั้งดอกคามิลเลีย ม้าหมุนที่เคลื่อนไหวได้ รวมไปถึงความสนุกสนานของหญิงสาววัยแรกรุ่น ซึ่งในขณะที่โชว์คอลเล็กชั่นนี้ก็มีการฉายภาพของ Nana Komatsu ไปพร้อมๆ กับการเดินบนรันเวย์ของเหล่านางแบบเช่นกัน
Photo: imaxtree