เดินทางมาถึงช่วงเวลาสิ้นปีกันแล้ว สำหรับใครที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยก็คงมีเวลาได้พักผ่อนกับครอบครัวหรือเซฟโซนของตัวเองกันสักที และช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ก็เหมาะสำหรับการดู ‘ภาพยนตร์คริสต์มาส’ ที่ปล่อยออกมาเพื่อต้อนรับคอหนังฟีลกู๊ดทุกคนด้วยความอบอุ่นส่งท้ายปี วันนี้แอลจึงได้รวบรวมภาพยนตร์คริสต์มาสสุดอบอุ่นหัวใจทั้งหมด 10 เรื่อง มีทั้งสายโรแมนติก แฟนตาซี และคอมเมดี้มาให้ทุกคนได้เลือกชมตามความชอบ รับรองได้ว่าจะดูกับแฟน กับครอบครัว กับเพื่อน หรือใครอยากเอนจอยคนเดียวก็น่าจะถูกใจไม่ต่างกัน ไปดูกันเลยว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง
1.Home Alone (1990)
เริ่มต้นกันที่ภาพยนตร์คริสต์มาสในวัยเด็กของใครหลายๆ คนกับเรื่อง ‘Home Alone โดดเดี่ยวผู้น่ารัก’ กับการเล่าเรื่องความน่าสงสารของเด็กน้อย Kevin ผู้ถูกลืมและทิ้งไว้ให้อยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง ในขณะที่ครอบครัวของเขาไปเที่ยวกันในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งความวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาตื่นเช้ามาอีกทีแล้วพบว่าบ้านมีแต่ความว่างเปล่า มิหนำซ้ำเขายังต้องรับมือกับโจรที่จ้องจะปล้นบ้านด้วย รับประกันได้เลยว่าหากคุณได้ดูเรื่องนี้แล้วจะต้องตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้อย่างแน่นอน
โดยภาพยนตร์ Home Alone นั้นมีทั้งหมด 5 ภาค แต่มีการเปลี่ยนนักแสดงตั้งแต่ภาค 3 เป็นต้นไป และยังมีภาคล่าสุดอย่าง Home Sweet Home Alone ที่เพิ่งปล่อยออกมาในปี 2021 ที่ผ่านมาด้วย ใครที่สนใจรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถดูได้ครบทุกภาคบนแอพพลิเคชั่น Disney+ Hotstar ได้เลย
2.Love Actually (2003)
ถัดมากับภาพยนตร์สุดคลาสสิกที่แม้ว่าจะผ่านไปกว่า 2 ทศวรรษ แต่ใครๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเรื่องที่ดูกี่รอบก็อบอุ่นหัวใจเหมือนกับครั้งแรกที่ได้ชม เพราะเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของกลุ่มคนหลากหลายวิถีชีวิตได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรักในครอบครัวระหว่างพ่อกับลูก รักข้างเดียวของคนแอบรักคู่หมั้นของเพื่อนสนิท รักของนายกรัฐมนตรีกับสาวเลขาคนใหม่ รักของเด็กน้อยที่แอบชอบเพื่อนในคลาส รักแบบเพื่อนระหว่างศิลปินกับผู้จัดการ รักที่กำลังจะระหองระแหงเพราะอีกคนไปตกหลุมรักคนอื่น แต่ทุกเหตุการณ์ดันมาเชื่อมโยงกันในเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสุขและความอบอุ่นในหัวใจในช่วงเวลาสุดพิเศษนี้แน่นอน
3.The Holiday (2006)
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวสองคนที่เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มของตัวเองในช่วงก่อนวันหยุดคริสต์มาส พวกเธอทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะแลกบ้านกับคนแปลกหน้าบนเว็บไซต์ในช่วงวันหยุดนี้เพื่อหนีไปพักใจจากความวุ่นวายที่ถาโถมเข้ามา ตัวละคร Iris ที่อยู่อังกฤษก็บินไปที่อเมริกา ส่วน Amanda ก็บินมาอยู่ที่ชนบทเล็กๆ ในอังกฤษแทน มาถึงตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งคิดว่าภาพยนตร์จะพาเศร้าเกินไป เพราะช่วงเวลาสั้นๆ นี้ นอกจากเธอทั้งสองคนจะได้พบกับความสบายใจที่ตามหาแล้ว พวกเธอยังได้พบกับรักครั้งใหม่มาชุบชูหัวใจด้วย ใครที่ชื่นชอบการดื่มด่ำไปกับบทสนทนาระหว่างตัวละครที่ทำให้ยิ้มได้ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาด
4. Carol (2015)
เติมความอบอุ่นในช่วงสิ้นปีด้วยการย้อนกลับไปช่วงค.ศ. 1950 ท่ามกลางมหานครนิวยอร์ก สถานที่ที่จุดเริ่มต้นความโรแมนติกของ Carol หญิงผู้เพรียบพร้อมในทุกๆ ด้าน และ Therese พนักงานสาวในห้างสรรพสินค้าได้ก่อตัวขึ้น ด้วยความแตกต่างกันอย่างสุดขั้วที่นำพาพวกเธอทั้งสองดึงดูดเข้าหากันด้วยความรักที่ลึกซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาทุกคนค่อยๆ แหวกขนบธรรมเนียมของสังคม สัมผัสความอ่อนละมุนในสายสัมพันธ์ของพวกเธออย่างช้าๆ ราวกับการถ่ายทอดผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ เรื่องราวนี้จะงดงามแค่ไหนก็มีดีกรีการเข้าชิงออสการ์ถึง 6 สาขาเป็นเครื่องการันตี
5.Why Him ? (2016)
ตอบโจทย์สายคอเมดี้กันบ้างกับภาพยนตร์เรื่อง Why Him ? ที่มาพร้อมบทสุดฮาของ Ned คุณพ่อมาดเข้มที่เดินทางแวะไปเยี่ยม Stephanie ผู้เป็นลูกสาว แต่กลับพบว่าลูกสาวมีแฟนหนุ่มอย่าง Laird ที่แม้จะเป็นมหาเศรษฐีแต่นิสัยและดันเรียกได้ว่าเข้าขั้นรับมือยาก เขาจึงต้องสวมบทพ่อตาสุดโหดเพราะไม่อยากปล่อยให้ลูกสาวคบหากับหนุ่มคนนี้ มิหนำซ้ำเขาต้องเจอเรื่องที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็คือ Laird กำลังจะขอลูกสาวเขาแต่งงานด้วย ส่วนทางด้านลูกเขยเองก็ต้องพยายามพิชิตใจพ่อตาแม่ยายภายในระยะเวลาวันหยุดสั้นๆ ใครที่คิดไม่ออกว่าจะเปิดหนังเรื่องไหนดี รู้แค่อยากขำให้เต็มที่ก่อนเข้าปีใหม่ เรื่องนี้จะเป็นคำตอบให้ทุกคนได้ดีเลยทีเดียว
6.A Christmas Prince (2017)
เอาใจเหล่านัก Binge-Watching กันสักเรื่องด้วยภาพยนตร์แฟรนไชส์ 3 ภาคของ Netflix ที่มีชื่อว่า A Christmas Prince (2017) ภาพยนตร์ได้เล่าเรื่องราวความรักของ Amber นักข่าวสาวไฟแรงที่ต้องไปทำข่าวในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสเกี่ยวกับเจ้าชาย Richard ที่มักมีข่าวเสียเรื่องผู้หญิงออกมาบ่อยๆ และเขากำลังจะได้ขึ้นมานั่งครองบัลลังก์เร็วๆ นี้ ซึ่งการสืบเสาะชีวิตของเจ้าชายมันก็ไม่ง่ายดายขนาดนั้น เธอจึงตัดสินใจปลอมตัวเข้าไปเป็นครูให้กับน้องสาวของเจ้าชาย พร้อมใช้โอกาสนี้ในการสืบข้อมูลเกี่ยวกับเขา จนในที่สุดเมื่อเธอได้ใกล้ชิดกับ Richard ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นก็ทำให้ความคิดของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไป และสุดท้ายก็เกินกลายเป็นความรักที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ซึ่งภาพยนตร์นี้ก็ร้อยเรียงด้วยงานเพลงและงานภาพสุดปัง แถมยังครบรสทั้งโรแมนติก ตลก และดราม่า ที่สานต่อเรื่องราวจนมีขึ้นมาอีก 2 ภาคที่ปล่อยออกมาในปี 2018 และ 2019 ใครที่เลือกจะดูเรื่องนี้ก็สามารถดูเพลินๆ ยาวไปจนถึงเคาต์ดาวน์เข้าปีใหม่ได้เลย
7.Klaus (2019)
ทางด้านฝั่งแอนิเมชั่นก็มีภาพยนตร์น่าสนใจไม่แพ้กัน กับเรื่องราวท่ามกลางฉากหลังของนอร์เวย์ช่วงศตวรรษที่ 19 นำโดย Jesper ลูกชายเจ้าของสำนักงานไปรษณีย์ที่ค่อนข้างไม่เอาไหน จึงถูกผู้เป็นพ่อลงโทษให้ไปอยู่ในเมืองที่ไร้ความสะดวกสบาย มีแต่ความรกร้าง ผู้คนก็แบ่งพรรคแบ่งพวก และต้องส่งจดหมายให้ครบ 6,000 ฉบับด้วยตัวเองภายใน 1 ปีถึงจะกลับมาได้ ซึ่งโชคชะตาก็ได้พาเจสเปอร์ไปพบกับ Klaus ชายที่อาศัยอยู่เพียงลำพังและทำงานประดิษฐ์ของเล่นเพื่อสร้างความสุขให้กับเด็กๆ พวกเขาจึงตัดสินใจร่วมมือกันออกส่งของขวัญให้กับเหล่าเพื่อนตัวน้อย จนเมืองนี้กลับมามีรอยยิ้มขึ้นมาได้ แต่นั่นก็ทำเอาผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไม่พอใจจนกลายเป็นการผจญภัยที่ฝากข้อคิดไว้ให้ผู้ชมได้อย่างตราตรึง
ซึ่งหลายคนดูแล้วคงนึกถึงหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำวันคริสต์มาสอย่างซานตาคลอส แต่จะมองว่าเรื่องนี้เป็นแค่การ์ตูนสำหรับเด็กเท่านั้นก็ต้องตอบว่าไม่ใช่เลยล่ะ
8.Holidate (2020)
แม้คนทั้งโลกจะรักวันหยุด แต่คู่พระนางของเรื่องนี้เป็นคู่ที่เกลียดวันหยุดเป็นที่สุด เพราะนางเอกของเรื่องอย่าง Sloane มักถูกแม่ของเธอจับคู่ให้เธอกับผู้ชายในทุกวันหยุดทั้งๆ ที่เธอไม่ต้องการจะออกเดตกับใคร แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับ Jackson ชายที่ไม่ชอบความสัมพันธ์แบบผูกมัด พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะมาออกเดตกันแบบปลอมๆ เพื่อตบตาคนในครอบครัวในทุกวันหยุดตามชื่อเรื่อง Holidate ที่มาจากคำว่า Holiday + Date ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ประเภทเพื่อนกันแค่วันหยุดก็เริ่มสั่นคลอน เพราะทั้งเขาและเธอเริ่มจะมีใจให้กันจนได้ แต่อะไรๆ มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะยังมีเรื่องวุ่นๆ อีกมากมายให้ทุกคนมาตามดูความรักของทั้งคู่ต่อจากนี้กัน
9.Love Hard (2021)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Natalie นักเขียนสาวผู้อับโชคเรื่องความรักได้พบเจอหนุ่มที่ถูกใจบนแอพพลิเคชั่นหาคู่ จนบินข้ามรัฐกว่า 3,000 กิโลเมตรในช่วงวันคริสต์มาสเพื่อไปเซอไพรส์เขาคนนั้น ซึ่งแพชชั่นแห่งความรักนี้ก็ดันส่งเธอมาพบว่าผู้ชายที่เธอคุยด้วยกลับไม่ใช่สุดหล่อในโปรไฟล์ แต่เป็น Josh ชายอีกคนที่ไปขโมยรูปเพื่อนของเขาอย่าง Tag มาใช้เป็นรูปตัวเอง! บอกเลยว่าแค่พล็อตไม่กี่บรรทัดนี้ทุกคนก็คงนึกภาพออกแล้วว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อจากนี้จะวุ่นวายขนาดไหน Natalie จะได้คบกับ Tag ตัวจริงไหม หรือ Josh จะเอาชนะความโกรธคว้าใจนาตาเลียได้หรือเปล่า แล้วจะมีเรื่องอะไรที่แฝงอยู่หลังความหรรษาของความสัมพันธ์ของพวกเขาอีก ชาวคนรักหนังรอมคอมและสายปัดขวาต้องดูด่วน
10.The Princess Switch 3: Romancing the Star (2021)
ปิดท้ายกับภาพยนตร์แฟรนไชส์ The Princess Switch 3: Romancing the Star พบกับเรื่องราวสุดวุ่นวายของแฝดคนละฝา เจ้าหญิง Margaret และเพื่อนสาวที่หน้าตาเหมือนกับเธออย่าง Stacy พร้อมกับลูกพี่ลูกน้องสุดแสบ Fiona พวกเธอทั้งสามคนกลับมาร่วมมือกันเพื่อตามหาสิ่งของสำคัญที่หายไปในวันคริสต์มาส และภารกิจในครั้งนี้ก็ทำให้ Fiona ได้พบเจอกับเรื่องที่เธอไม่คาดคิดอีกด้วย จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามชมกันได้เลยบน Netflix!