นับเป็นหนึ่งในเทศกาลแห่งปีที่หลายๆ คนตั้งตาคอยกับงาน Wonderfuit ที่ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลดนตรี แต่ยังจะพาทุกคนก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ที่ดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรมมาบรรจบกันให้ความอยากรู้อยากเห็นนำพาคุณมาสู่ช่วงเวลาแห่งความน่าทึ่งและอัศจรรย์ใจ วันนี้แอลจะพาทุกคนไปเก็บตกภาพความประทับใจพร้อมแนะนำกิจกรรมไฮไลต์ต่างๆ ของงานในปีนี้กัน
Art & Architecture
งานศิลปะที่ Wonderfruit ถือกำเนิดขึ้นเป็นผืนผ้าใบที่มีชีวิตและมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแสดง ดนตรี ไปจนถึงศิลปะต่างๆที่ผสานเข้ากับจิตวิญญาณผู้คนด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการเฉลิมฉลองการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ทุกชิ้นงานได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง เชื่อมโยงช่วงเวลาแห่งการอยู่ร่วมกันและแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งปีนี้ Wonderfuit ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชิ้นงานที่เติบโตเคียงข้างกันมา พร้อมเปิดตัวผลงานใหม่ที่จะจัดแสดงครั้งแรกใน Dhyana และ Indigo World ตามมุมต่างๆ ในงานก็จะมีเหล่าชิ้นงานศิลปะรีไซเคิลต่างๆ ให้ทุกคนได้สำรวจพร้อมถ่ายภาพ เช็กอินกันอย่างเพลิดเพลิน
INTERMISSION
โปรแกรมประจำปีที่เปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่และศิลปินท้องถิ่นที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงในประเทศไทย ได้ก้าวสู่วงการดนตรี โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายในการค้นหาเสียงเพลงและนักดนตรีบุคลิกใหม่ๆ ด้วยการมอบโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ได้ขึ้นเวทีโชว์ความสามารถ พร้อมสร้างท่วงทำนองใหม่ๆ ให้กับ The Fields โดยศิลปินเหล่านี้ได้ขึ้นแสดงที่ Ziggurat พร้อมทั้งยังจะได้รับคำปรึกษาจาก Howie B. อีกด้วย
Molam World
หมอลำเวิลด์ คือการยกเอาวัฒนธรรมอีสานมาสู่ใจกลาง The Fields เชื่อมโยงกับ Theatre of Eats และและฟาร์มทาวเวอร์แห่งใหม่ พร้อมทั้งหมอลำบัสและแกลอรีจาก Jim Thompson Art Center ที่ร่วมเฉลิมฉลองจิตวิญญาณแห่งอีสานในรูปแบบใหม่ๆ ไปจนถึงการสรรเสริญประเพณีอันรุ่งโรจน์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ผ่านอาหาร เครื่องดื่ม เวิร์กช็อป และการติดตั้งงานผลงานศิลปะในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรมแห่งนี้
มากไปกว่านั้น ผู้มาเยือนสามารถพบกับการแสดงหมอลำที่หลากหลาย คัดสรรโดยดีเจ Maft Sai จาก ZudRang Ma Records ที่นำเสนอสัมผัสอันมีเอกลักษณ์ของชาวอีสานตลอดระยะเวลาหลายวัน พร้อมรับฟังศิลปินระดับตำนานแสดงเคียงคู่กับศิลปินยุคใหม่ เพื่อนำเสนอเครื่องดนตรีหลากหลายและบทเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากยุคสมัยและสังคมที่แตกต่างกัน
Eating in The Fields
Wonder Kitchen การเดินทางแห่งรสชาติที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากทั่วโลก
Wonder Kitchen นำเสนอการเดินทางทางอาหารที่ถ่ายทอดเรื่องราวของโลก โดยขยายพื้นที่เป็นสถานที่หลักสำหรับเชฟเทเบิลและเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารพร้อมจิบไวน์
Open Kitchen เปิดตัวร้านอาหารนั่งทานชั้นสอง
ใครที่ได้ไปงานมาก็คงจะสังเกตเห็นอาคาร 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ใจกลาง The Fields ซึ่งก็คือ Open Kitchen ที่ออกแบบโดย ผศ.บุญเสริม เปรมธาดา ให้เป็นพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมที่ต้อนรับทุกคนด้วยการออกแบบแบบเปิดโล่งและการใช้วัสดุรีไซเคิลจากโรงงานยาสูบใกล้เคียง
ปีนี้ Open Kitchen ได้พัฒนาเป็นร้านอาหารที่ให้บริการบนชั้นสอง ซึ่งผู้มาเยือนสามารถจองล่วงหน้าหรือแวะมารับประทานเมนูที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นและสูตรอาหารครอบครัวที่สืบทอดมาในรูปแบบของ แม่ครัวไทย ล้อมรอบด้วยบรรยากาศความสวยงามของ The Fields ส่วนชั้นล่างนั้นเป็นที่ตั้งของ Life’s Market by Pa Chan ที่นี่มีการชิมอาหาร เวิร์กช็อปงานฝีมือ การสนทนา และการแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาที่ส่งต่อกันมาหลายรุ่น
SLOW WONDER
Slow Wonder คือการร่วมมือกันระหว่าง Wonderfruit และกลุ่มการบริการเชิงประสบการณ์อย่าง Slowness เกิดเป็น Jungle House ร้านอาหารแบบนั่งรับประทานที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง Ab Rogers ที่เวียนกลับมาสู่ The Fields อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษ ไวน์ชั้นเลิศ และดนตรีที่สะท้อนถึงความงามในจังหวะชีวิตที่ให้ความรู้สึกช้าลง บนพื้นที่ข้างชายหาดในบรรยากาศที่เงียบสงบ
ไม่เพียงเท่านั้น หมู่บ้านริมทะเลสาบยังมีทางเดินเชื่อมไปยังชายหาด ที่ซึ่งผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับ Beach Bar ที่เสิร์ฟของว่างและเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนเก้าอี้อาบแดดหรือการเพลิดเพลินกับมื้ออาหารร่วมกับผองเพื่อน
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากงาน Wonderfuit 2024 เท่านั้น แอลจะพาทุกคนไปประมวลภาพจากงานที่ผ่านมากันว่าจะยิ่งใหญ่และสนุกสนานแค่ไหน