หลังจากที่ Victoria’s Secret หายไปจากวงการแฟชั่นเป็นเวลากว่า 4 ปี ในที่สุดปีนี้พวกเขาก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเผยว่าการกลับมาในครั้งนี้จะเป็น Victoria’s Secret ในรูปโฉมใหม่ที่แตกต่างไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“วันนี้พวกเราภูมิใจที่จะนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรที่เต็มไปด้วยทีมที่มีความเป็นผู้นำและพร้อมเฉลิมฉลองให้แก่ชัยชนะของผู้หญิง การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ งานของพวกเราจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อให้ Victoria’s Secret เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าและเพื่อนร่วมงานจะรู้สึกถึงความเคารพ การมองเห็นตัวตน และมีคุณค่า”
The Victoria’s Secret fashion show is coming back THIS year! pic.twitter.com/viL9k7am9r
— linda (@itgirlenergy) March 5, 2023
ก่อนหน้านี้แฟชั่นโชว์ของ Victoria’s Secret เป็นโชว์ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจทั้งในแง่ของเหล่านางฟ้า VS Angels ที่มาร่วมเดินแบบ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร้องเพลงประกอบโชว์ ทว่าในปี 2019 พวกเขาก็ยกเลิกไป เนื่องจากไม่ได้รับความนิยมเหมือนที่เคยเป็น ด้วยสาเหตุที่โชว์ไม่มีความหลากหลายและบนรันเวย์มีแค่เพียงนางแบบคนขาวรูปร่างผอมเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับมีรายงานที่เปิดเผยว่าอดีตผู้บริหารของแบรนด์อย่าง Ed Razek เคยเหยียดเพศ บูลลี่ และคุกคามผู้หญิงอีกด้วย พวกเขาจึงตัดสินใจยกเลิกการทำแฟชั่นโชว์ พร้อมกับปรับตัวตามยุคสมัยด้วยการเริ่มให้ความสำคัญกับความหลากหลายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะด้วยการเพิ่มนางแบบผิวดำ เอเชีย และพลัสไซซ์ในแต่ละแคมเปญหรือคอลเล็กชั่น ฉะนั้นการกลับมาของแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้จึงน่าจับตามองว่าพวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็มีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนเหล่านางฟ้า VS Angels ให้กลายเป็น VS Collective โดยมุ่งเน้นเล่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะการแสดง ภาพยนตร์ สื่อสังคม กีฬา นางแบบผิวดำที่เคยเป็นผู้อพยพ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้โอบรับความหลากหลายและส่งเสริมให้ผู้หญิงมีพลังและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ศิลปินสาวผู้ผลักดันเรื่องความมั่นใจในรูปร่างอย่าง Lizzo ก็ออกมาทวีตถึงการคัมแบ็กของแบรนด์ครั้งนี้ว่า “นี่คือชัยชนะสำหรับความหลากหลายเลยนะ แต่ถ้าแบรนด์ตัดสินใจทำแบบนี้เพราะเคยโดนดราม่า แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะถ้า ‘เทรนด์’ มันเปลี่ยนอีก คือว่า CEO บริษัทเหล่านี้ให้ความสำคัญกับความหลากหลายจริงๆ หรือแค่เห็นแก่เงินเฉยๆ?”
This is a win for inclusivity for inclusivity’s sake
— FOLLOW @YITTY (@lizzo) March 5, 2023
But if brands start doing this only because they’ve received backlash then what happens when the ‘trends’ change again?
Do the CEOs of these companies value true inclusivity? Or do they just value money? https://t.co/ykmcUTLayQ
Photo: Shutterstock
Source: 1