หนึ่งในกิจกรรมที่ทุกคนทำเหมือนกันทุกวันคือการนอน และการนอนไม่ใช่แค่เพียงการพักผ่อนร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงที่ระบบร่างกายใช้เวลาประมวลผลและฟื้นฟู แต่สิ่งเหล่านี้ต้องมาพร้อมกับการนอนที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน แอลบิวตี้จึงรวบรวม 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนเพื่อการสร้างการนอนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้นแบบทำตามได้ง่าย
The Effect of a Few Hours of Sleep!
เชื่อว่าหลายคนรู้ดีว่าเราควรนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน เพราะเมื่อเราหลับร่างกายจะผลิตโปรตีนและแอนติบอดี้ ซึ่งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย แต่เมื่อเรานอนหลับเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง จึงเหมือนเป็นการลดโอกาสที่ทำให้ร่างกายได้สร้างภูมิคุ้มกันและกลายเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังส่งผลต่ออารมณ์ เช่น เกิดอาการเครียดได้ง่าย วิตกกังวล และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า
Should We Wear Bra During Bedtime?
หากมองเรื่องพฤติกรรม ไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อคุณภาพการนอน เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน แต่หากเลือกที่จะใส่บรานอนควรมองหาบราที่นุ่มสบาย ไม่มีโครง เพื่อลดการเกิดการระคายเคือง หรือกดผิวมากเกินไป ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการตื่นระหว่างคืนจากความรู้สึกไม่สบายตัวได้ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนชุดชั้นในเป็นประจำ ไม่ให้เกิดการสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย
Beware of Social Jetlag
การออกไปสังสรรค์ในวันหยุดสุดสัปดาห์คงกลายเป็นเรื่องปกติ แต่รู้หรือไม่ว่ามันทำให้เกิดอาการ social jet lag ได้ จากการนอนดึกแต่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน สิ่งนี้ทำให้กระทบต่อเวลานอนที่ต่างกันมากเกินไประหว่างวันหยุดกับวันทำงาน จนเกิดอาการ เจ็ตแล็กคล้ายกับเมื่อเราต้องเดินทางข้ามไทม์โซน คือจะรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา อาจรู้สึกเบลอ ไม่กระปรี้กระเปร่า ทางแก้ไขคือไม่ควรสลับเวลานอนไปมา หรือถ้าจำเป็นต้องออกข้างนอกตอนกลางคืน แนะนำให้เป็นคืนวันศุกร์ที่ทำให้เรามีเวลาปรับตัวในการตื่นเช้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะดีกว่า
Introvert VS Extrovert Sleep Habit
จากการศึกษาของต่างประเทศพบว่า ผู้ที่มีบุคลิกชอบเก็บตัว (introvert) มีความเป็นได้ที่จะนำความคิดของพวกเขาเข้านอนไปด้วย ก่อนนอนจึงควรทำใจให้สงบ ปล่อยวางความคิดของตัวเองในช่วงเตรียมเข้านอน ในขณะที่ผู้ที่มีบุคลิกชอบพบปะผู้คน (extrovert) กลับมีความต่างกัน พวกเขาอาจจะรู้สึกกังวลใจที่จะพลาดบางอย่างในช่วงนอนหลับ จึงทำให้นอนไม่หลับ หรือเกิดการตื่นตัวในระหว่างการนอนได้ เคล็ดลับคือเลือกใช้วิธีการจดบันทึกแทนการพูดคุยก่อนเข้านอนเพื่อสร้างความผ่อนคลายให้สมองปลอดโปร่งขึ้น
When You Can’t Sleep, Start Counting Breath!
เปลี่ยนจากการนับแกะมาเป็นนับลมหายใจ เพราะการหายใจมีศักยภาพในการช่วยลดความเครียดตามธรรมชาติจากความผ่อนคลายของร่างกาย หนึ่งในวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือ เริ่มจากหายใจช้าๆ เข้า-ออก 2-3 รอบ และนับ 1-5 ทุกการหายใจออก เมื่อนับถึง 5 ก็นับถอยหลังไปที่ 1 ให้ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนกว่าจะหลับ ซึ่งวิธีการนี้จะคล้ายกับการทำสมาธิก่อนนอนเพื่อลดความคิดฟุ้งซ่านนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการฝึกหายใจอีกมากมาย แต่หากฝึกเองแล้วมีอาการไม่สบายตัวแนะนำให้ฝึกภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
Cuddling Can Help You Sleep Better!
เพราะการกอดทำให้ร่างกายสามารถปล่อยฮอร์โมนเซโรโทนินซึ่งจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น และถ้าอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องกังวล เพราะในปัจจุบันผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (blanket weighted) ได้ถูกพัฒนาให้มีน้ำหนักมากกว่าผ้าห่มทั่วไป เพราะเมื่อวางบนร่างกายก็จะเกิดแรงกดทับเล็กน้อย จึงช่วยบำบัดให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยผู้ผลิตแนะนำว่าควรเลือกใช้ผ้าห่มที่หนักประมาณ 10% ของน้ำหนักตัวผู้ใช้ ทั้งนี้ อาจจะเหมาะกับบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับยาก หรือผู้ที่วิตกกังวลง่าย ซึ่งหากสนใจผ้าห่มชนิดนี้ควรค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเหมาะกับตัวเองหรือไม่
Text: TITTAYA LEKPETCH