เราอาจจะเคยได้ยินว่าประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อลักชัวรีแบรนด์สูงเป็นอันดับต้นๆ มาโดยตลอด แต่ล่าสุดนี้ Morgan Stanley สถาบันทางการเงินของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดสินค้าลักชัวรีว่าเกาหลีใต้ขึ้นแท่นประเทศที่มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าลักชัวรีเป็นอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าสหรัฐอเมริกาและจีนเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันนี้การใช้จ่ายต่อหัวต่อปีของชาวเกาหลีใต้สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยสูงกว่าการใช้จ่ายของจีนถึงหกเท่า และการใช้จ่ายทั้งหมดจากทั่วทั้งประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 24% ซึ่งคิดเป็นเงินจำนวนราวๆ 550,000 ล้านบาท (16.8 พันล้านดอลลาร์) โดยทาง Morgan Stanley พวกเขาวิเคราะห์ว่าความต้องการสินค้าลักชัวรีของชาวเกาหลีเพิ่มขึ้นจากการที่พวกเขามีกำลังซื้อสูงขึ้น และพวกเขายังมีความปรารถนาที่จะพัฒนาสถานะทางสังคมของตนเองด้วยสินค้าราคาสูง นอกจากนี้พวกเขายังตั้งข้อสังเกตว่าการที่ประเทศเกาหลีหันมากระตุ้นยอดขายด้วยการแต่งตั้งศิลปินและดาราคนดังให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ยิ่งทำให้การขายสินค้าลักชัวรีประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วย
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ BVLGARI กับ Lisa จากวง Blackpink ซึ่งหลังจากที่เธอขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ในปี 2020 ยอดขายก็สูงขึ้นกว่า 119% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2020 ในขณะที่ Rosé เป็นทั้งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์และเป็นเฟซให้กับ HardWear Collection ของ Tiffany & Co. ก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในระยะสั้นๆ นอกจากนี้ทางแบรนด์ก็ยังเปิดเผยด้วยว่า กระแสตอบรับของคอลเล็กชั่นนี้ค่อนข้างเป็นไปในทางที่ดีอีกด้วย
นอกเหนือไปจากยอดขายที่สูงขึ้น ทางแบรนด์และแฟชั่นเฮาส์มากมายต่างก็เชิญดาราศิลปินจากเกาหลีให้มาร่วมชมรันเวย์และคอลเล็กชั่นต่างๆ เช่น Kim Taehyung, Lisa และ Park Bogum กับแบรนด์ CELINE, Aespa กับแบรนด์ Givenchy หรือ Jang Wonyoung สมาชิกวง IVE ที่ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ของ Miu Miu เป็นต้น เนื่องจากศิลปินเกาหลีสามารถช่วยสร้างมูลค่าสื่อให้กับแบรนด์ได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นยอดการพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย ยอดเอนเกจเมนต์ในสื่อออนไลน์ รวมไปถึงเทรนด์บนโซเชียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากฮ่องกงเผยว่า การซื้อสินค้าลักชัวรีไม่ใช่ตลาดขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปจะซื้อ ดังนั้นควรจะวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มคนชนชั้นกลางและสูงขึ้นไปเพียงอย่างเดียวจึงจะเหมาะสม และพวกเขายังคงเชื่อว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนน่าจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากสถานการณ์โควิดสิ้นสุดลง
Source: 1