Patek Philippe หนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่ครองใจคนทั่วโลกมานานนับหลายทศวรรษ จัดนิทรรศการ ‘Rare Handcrafts 2024’ งานจัดแสดงที่รวบรวมการสร้างสรรค์ผลงานฝีมือที่หาได้ยากถึง 82 ชิ้น ซึ่งถ่ายทอดความเป็นเลิศด้านเทคนิคและการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมทั้งยังตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาดั้งเดิมแห่งเจนีวาอันยิ่งใหญ่ ด้วยการการสาธิตทักษะความเชี่ยวชาญด้านศิลปะงานฝีมือที่หาได้ยากจากช่างฝีมือแกะสลัก ช่างฝีมือเคลือบลงยาอินาเมล ช่างฝีมือแกะสลักลวดลายแบบกิโยเช่ และช่างฝีมือฝังประดับด้วยไม้ ณ ซาลอนอันมีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์ของปาเต็ก ฟิลลิปป์ ที่ Rue du Rhône ให้เหล่าคนรักเรือนเวลาได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม
ยิ่งไปกว่านั้น Rare Handcrafts 2024 ยังนำเสนอความพิเศษล้ำเลิศทางด้านการสร้างสรรค์ การสะท้อนถึงแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจที่หลากหลาย ผ่านการนำเสนอลวดลายศิลปะแบบดั้งเดิมผนวกกับกิจกรรมสันทนาการร่วมสมัยอย่างลงตัว ตลอดจนแรงบันดาลใจทางด้านวัฒนธรรมจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยมีการนำเสนอที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่
All the constellations of the zodiac
เริ่มต้นที่บริเวณส่วนกลางงาน ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับการต้อนรับจากกลุ่มของนาฬิกาข้อมือคาลาทราว่าที่โดดเด่นเป็นเลิศจำนวน 12 เรือน ซึ่งมีหน้าปัดที่รู้จักในชื่อของ Au blanc de Limoges กับการนำเสนอกลุ่มดาวอันเป็นสัญลักษณ์ของจักรราศีต่างๆ โดยการประดับตกแต่งเหล่านี้มาจากทักษะการแกะสลักแบบเก่าแก่ดั้งเดิม ที่ถูกนำมาตีความในรูปแบบที่ทันสมัยร่วมกับการนำเสนอที่สะท้อนให้เห็นถึงมิติของกลุ่มดาว
In tribute to the beauties of nature
ในส่วนที่หันหน้าออกไปยังทะเลสาบเห็นวิวที่งดงามของท่าเรือเจนีวา เป็นพื้นที่ที่ใช้ในการจัดแสดงผลงานที่ยกย่องความงดงามของธรรมชาติ อาทิ ดอกไม้ สัตว์ และทิวทัศน์ โดยคอลเล็กชั่น 2024 นี้เน้นความสำคัญไปที่นกกระยางสีขาวซึ่งมีความอ่อนช้อยสง่างาม ที่นำเสนอผ่านผลงาน 4 ชิ้นที่ใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น นาฬิกาพก รุ่น 995/143G-001 ‘Portrait of White Egret’ ใช้เทคนิคการฝังประดับด้วยไม้ขนาดเล็กที่สะท้อนความละเอียดประณีตขั้นสูง , นาฬิกาข้อมือโกลเด้น อีลิฟต์ รุ่น 5738/50R-001 ‘The Japanese Garden (Nihon teien)’ นำเสนอการเล่นของแสงเป็นประกายภายใต้ท้องฟ้า และนาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ รุ่น 5738/50G-035 ‘Springtime in Holland’ ที่สร้างสรรค์ให้เกิดแสงระยิบระยับของน้ำ
โดยในพื้นที่ส่วนนี้ ยังมีการจัดแสดงเรือนเวลาที่ฉายภาพความสวยงามของเมืองและทิวทัศน์ทางน้ำ เช่น โปสการ์ดโทนสีซีเปียร์เก่าของท่าเรือเจนีวา ที่สร้างสรรค์จากการวาดภาพขนาดเล็กบนการเคลือบลงยาอินาเมล , ภาพวิวของสะพาน Rialto ในเวนิส โดย Canaletto , ทิวทัศน์ของทะเลสาบ Thun อันได้รับแรงบันดาลใจจาก Ferdinand Hodler จิตรกรชาวสวิสที่ยิ่งใหญ่ นำเสนออยู่บนนาฬิกาข้อมือเวิลด์ไทม์ มินิท รีพีทเตอร์ และนาฬิกาพกรุ่น 992/184G-001 ‘Lake Geneva in Winter’ ที่มีพื้นหลังภาพสร้างสรรค์ด้วยการสลักลวดลายด้วยมือแบบกิโยเช่ แสดงให้เห็นภาพท้องฟ้าที่มีการกระจายแสงและลวดลายของคลื่นจากทะเลสาบ
อีกทั้งยังมีการนำเสนอโลกแห่งพันธ์พืช ผ่านการสร้างสรรค์ที่เป็นเลิศด้วยการใช้รูปร่างและสี ไม่ว่าจะเป็นภาพดอกฮอธอนที่กำลังบาน ซึ่งประดับตกแต่งอยู่บนนาฬิกาตั้งโต๊ะรูปทรงโดม , ด้านหลังของนาฬิกาพกรุ่น 995/144J-001 ‘Bear and Salmon’ ที่มีความงดงามเหมือนจริงอย่างยิ่ง สร้างสรรค์ด้วยการฝังประดับด้วยไม้ขนาดเล็กจำนวน 315 ชิ้น และการฝังชิ้นไม้บางๆ ที่เล็กกว่านั้น 75 ชิ้น ร่วมกับการวางแผ่นไม้ที่มีสีแตกต่างกัน 38 ชนิด เพื่อให้เกิดพื้นผิวและลายเส้น
นอกจากนี้แล้วปาเต็ก ฟิลลิปป์ ยังมีการเปิดตัวนาฬิกาตั้งโต๊ะรูปทรงโดมเรือนแรกที่มีการประดับตกแต่งด้วย การฝังประดับด้วยไม้ขนาดเล็กที่สร้างสรรค์ออกมาพิเศษเฉพาะ 3 เรือน ในรูปแบบของปลาคาร์พ (carp) และดอกบัวอุบลชาติ (water lily) อีกเช่นกัน
Celebrating Human Endeavor
สุดท้ายกับซาลอนในส่วนที่มองออกไปสู่ Rue du Rhône จัดแสดงตัวอย่างผลงานที่เป็นตำนานแห่งความมุ่งมั่นพยายามของมนุษย์ ตั้งแต่ศิลปะ ประเพณี และกีฬา ซึ่งใช้เทคนิคที่หลากหลายมาผสมผสานอย่างอิสระ อาทิ นาฬิกาข้อมือคาลาทราวา รุ่น 5089G-129 ‘Morning on the Beach’ นำเสนอภาพวาดของนักเล่นกระดานโต้คลื่นที่สร้างสรรค์ด้วยการฝังไม้ขนาดเล็ก , นาฬิกาตั้งโต๊ะรูปทรงโดม รุ่น 20155M-001 ‘American Trains’ ที่มีภาพหัวจักรไอน้ำและตึกสูงในนิวยอร์ก และภาพของหน้าต่างที่ส่องสว่างด้วยแผ่นโลหะเงินที่แวววาวเป็นประกาย หรือ นาฬิกาข้อมือคาลาทราวา 4 เรือน มีหน้าปัดแสดงภาพรถอเมริกันที่มีความงดงามในช่วงทศวรรษที่ 1960 ร่วมกับภาพทิวทัศน์ของชายฝั่งด้านตะวันตกในประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้านความชื่นชมหลงใหลในกีฬา นาฬิกาพก รุ่น 995/142J-001 ‘Billiard Balls’ หยิบยกแรงบันดาลใจจากบิลเลียด โดยมีฝาหลังที่ประดับตกแต่งด้วยการเคลือบลงยาอินาเมลแบบกรองด์ เฟอ ครัวซอนเน จากการใช้เส้นทองคำ 72.10 เซนติเมตร และการเคลือบลงยาอินาเมลแบบโปร่งแสง กึ่งโปร่งแสงและทึบแสง 40 สี พร้อมการสลักลวดลายด้วยมือ หน้าปัดสร้างสรรค์ผ่านการฝังประดับด้วยไม้ขนาดเล็ก โดยมีฐานทำจากทองคำที่ประดับด้วยด้วยลูกขาวที่ทำจากอัญมณีอาเกตสีขาว และไม้คิวที่ทำจากทองและไม้มะคัสซาร์ อีโบนี
ตลอดจนการได้รับแรงบันดาลใจจากแสตมป์ไปรษณีย์ที่มีรูปทรงกลม บนนาฬิกาข้อมือคาลาทราวา รุ่น 5089G-119 ‘Southern Brown Kiwi’ ซึ่งเป็นการนำเสนอหนึ่งในงานฝีมือหาได้ยากที่มีค่ามากที่สุดและเก่าแก่ที่สุด โดยเทคนิคของการแกะสลักลายเส้นได้นำมาใช้ในการแกะสลักใบพืชที่เป็นพื้นหลังและนกที่ทำจากทองคำขาวบนหน้าปัด รวมไปถึงนาฬิกาตั้งโต๊ะรูปทรงโดม รุ่น 20157M-001 ‘The Muses’ สะท้อนถึงการสร้างสรรค์อันเป็นเลิศของ Alphonse Mucha จิตรกรชาวเช็ก (ปี 1860-1939) และนาฬิกาตั้งโต๊ะรูปทรงโดมอื่นๆ ที่นำภาพวาดของจิตรกรชื่อดังมากถ่ายทอดลงบนเรือนเวลาได้อย่างน่าประทับใจ
นอกจากนี้ แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจที่กระตุ้นจินตนาการผู้ออกแบบและช่างฝีมือที่มีทักษะความเชี่ยวชาญ ยังได้แก่ ศิลปะแบบทิกิของหมู่เกาะทางแปซิฟิก, หลังคาสไตล์บูร์กันเดียน, โอลิมปิคเกมส์ที่กรุงปารีสปี 1924, ดีไซน์แบบแมนดาลัส เสื้อผ้าฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงที่รู้จักในชื่อ Toile de Jouy และ นิทานของ Jean de La Fontaine
สำหรับนิทรรศการ ‘Rare Handcrafts 2024’ เปิดแสดงแก่สาธารณะในวันที่ 13-17 เมษายน 2024 ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 นาฬิกา (เข้าชมรอบสุดท้ายได้เวลา 17.00 นาฬิกา) ที่ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซาลอน เลขที่ 41 ถนน Rue du Rhône ในเจนีวา โดยสามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าก่อนเข้าร่วมงานได้ผ่านเว็บไซต์
และผลงานทั้งหมดจะถูกนำมาจัดแสดงอีกครั้งในวันที่ 7-16 มิถุนายน 2024 ที่ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซาลอน ถนนบอนด์ กรุงลอนดอน เพื่อเป็นการสถาปนาสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงบูรณะ โดยนิทรรศการทั้ง 2 งานนี้จะเป็นโอกาสเฉพาะพิเศษสำหรับผู้เยี่ยมชมที่จะได้ชื่นชมสิ่งสร้างสรรค์ที่เป็นเลิศทั้งหมดก่อนที่จะนำส่งคืนกลับไปยังสถานที่สะสมส่วนตัวทั่วโลกต่อไป