เป็นการกลับมาทวงบัลลังก์ความนิยมอีกครั้งของ MIU MIU แบรนด์หรูสัญชาติอิตาลีในการครองอันดับ 1 จากการจัดอันดับแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจาก The Lyst Index ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ หลังจากที่เคยได้รับตำแหน่ง Brand of the Year ของปี 2022 ที่ผ่านมา โดยสิ่งที่ชูกระแสความฮอตและพาแบรนด์ทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งในครั้งนี้มาจากเทรนด์รองเท้า Ballet Flats และกระเป๋ารุ่นไอคอนิกอย่าง Arcadie ที่กำลังฮิตในหมู่สาวๆ ทั้งยังมีการประกาศให้สาวโมโมะขึ้นเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์, ผลงานคอลาบอเรชั่นร่วมกับ Church’s และยอดเสิร์ชเสื้อคาร์ดิแกนของแบรนด์ก็พุ่งสูงขึ้นถึง 44% อีกด้วย
ขณะที่อันดับ 2 นั้นตกเป็นของ Loewe แชมป์เก่าจากไตรมาสที่แล้ว ที่ยังคงทำผลงานได้ดีและน่าประทับใจอย่างการปล่อยแคมเปญ Fall/Winter 2023 ร่วมกับ Taylor Russell ที่มาพร้อมกระเป๋า Squeeze Bag ที่ถูกใจเหล่าสาวก และประกาศโกลบอลแอมบาสซาเดอร์คนใหม่อย่าง Yang Mi นักแสดงสาวตัวแม่จากประเทศจีน ตามมาด้วยแบรนด์ Prada ในอันดับที่ 3 ด้วยผลงานการจัดอีเวนต์ 10th edition of Prada Mode ในกรุงโซล พร้อมเปิดตัวแคมเปญร่วมกับ flower kiosks for FW23 campaign และเปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่อย่าง Arqué shoulder bag
สำหรับอันดับที่ 4 ได้แก่ Bottega Veneta กับการปล่อยสนีกเกอร์รุ่นใหม่และเปิดตัวคอลเล็กชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 ถัดมากับ Versace ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนๆ ด้วยการเปิดตัวกระเป๋าสุดเก๋รุ่น Greca Goddess และคอลเล็กชั่นประจำช่วง Fall/Winter 2023 จนครองอันดับที่ 5 ไปได้ ส่วนอันดับที่ 6 ตกเป็นของ Saint Laurent ที่ได้ทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 7% และมีการปล่อยแคมเปญ FW23 ร่วมกับคนดังอย่าง Rosé BLACKPINK, Kate Moss, Hailey Bieber และ Zoë Kravitz ที่กวาดความสดใจจากผู้คนไปล้นหลาม
สำหรับอันดับ 7 เป็นของแบรนด์หรูอย่าง Moncler และ Valentino ในอันดับที่ 8 ซึ่งมีผลงานทั้งจากการเปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่อย่าง Valentino Garavani VLogo Moon bag และปล่อยคอลเล็กชั่น Black Tie ต่อด้วย Jacquemus ที่ก้าวขึ้นมาจากลำดับ 15 ในไตรมาสที่แล้วสู่อันดับ 9 ได้อย่างน่าประทับใจด้วยผลงานการดึง Gigi Hadid มาเป็นเฟซในแคมเปญใหม่ รวมถึงยังได้ออกแบบลุคให้กับสาวบียอนเซ่ในเวิลด์ทัวร์อีกด้วย
ส่วนแบรนด์สัญชาติอังกฤษ Burberry คว้าอันดับ 10 ไปครอง ซึ่งในไตรมาสที่สามนั้นพวกเขาก็สร้างไวรัลในช่วงลอนดอนแฟชั่นวีกด้วยการทำให้สถานีรถไฟ Bond Street กลายเป็น Burberry Street เพื่อเป็นการโปรโมตโชว์คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024 ของ Daniel Lee นั่นเอง
ตามมาด้วยอันดับ 11 ที่ขยับขึ้นมา 2 อันดับ กับแบรนด์ Diesel เพราะพวกเขาสร้างความร้อนแรงในโชว์ในมิลานแฟชั่นวีกกับการเชิญคนให้มาร่วมงานกว่า 7,000 คนเลยทีเดียว ส่วนอันดับ 12 นั้นเป็นของ Gucci ซึ่งพวกเขาจัดแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนใหม่อย่าง Sabato De Sarno ณ มิลานแฟชั่นวีก พร้อมกับการปล่อยแคมเปญ Gucci Valigeria ที่ได้คู่รักแห่งวงการ Kendall Jenner และ Bad Bunny มาร่วมแสดงด้วย
อันดับ 13 ประจำไตรมาสนี้คือแบรนด์ Dior กับการปล่อยไอเท็มใหม่ที่ใครๆ ก็อยากครอบครองอย่างกระเป๋า Dior Toujours พร้อมกับการจัดงาน Lady Dior Celebration ในกรุงโซล และอันดับที่ 14 นั้นเป็นแบรนด์ Balenciaga ที่ขยับขึ้นมา 2 อันดับด้วยการแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกของแบรนด์ทั้ง 2 คนอย่าง Isabelle Huppert และนักแสดงชาวไทย พีพี กฤษฏ์ ตลอดจนการจัดโชว์กูตูร์ในปารีสด้วยเช่นกัน
ส่วนอันดับ 15 ตกเป็นของแบรนด์สัญชาติอิตาเลียนอย่าง Dolce&Gabbana ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานี้พวกเขาจัดแฟชั่นโชว์ Alta Moda ในแคว้น Puglia ประเทศอิตาลี ได้แต่งตั้งให้หนุ่มโดยองแห่งวง NCT เป็นเฟซของแคมเปญเสื้อผ้าผู้ชายคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2023 และเป็นโกลบอลแอมบาสซาเดอร์ ในขณะที่อันดับ 16 เป็นของเมซง Louis Vuitton ซึ่งพวกเขาทำแคมเปญร่วมงานกับ J-Hope วง BTS และยังทำเสื้อผ้าคัสตอมให้กับ Beyoncé ในทัวร์คอนเสิร์ต ตามมาด้วยอันดับ 17 ของ Kim Kardashian อย่างแบรนด์ Skims ที่รั้งอันดับเดิมไว้เช่นเคย
ในอันดับ 18 นั้นเป็นของ Fendi ที่มีการเป็นตัวคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี่และกระเป๋าใบใหม่ ‘C’mon Bag’ ส่วนอันดับ 19 คือแบรนด์ JW Anderson ซึ่งพวกเขาก็สร้างไอเท็มเด็ดสุดไวรัลอย่างกระเป๋าคลัตช์รูปน้องกบสุดน่ารัก และปิดท้ายที่ Ferragamo ในอันดับ 20 กับความโดดเด่นของแคมเปญ Fall/Winter 2023 ‘New Renaissance’ พร้อมด้วยการแต่งตั้งไอดอลหนุ่มอย่าง Jeno ให้เป็นแอมบาสซาเดอร์ในเกาหลี ตลอดจนการที่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Maximilian Davis ถูกเสนอชื่อให้เป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้าผู้หญิงแห่งปีในประเทศอังกฤษด้วยเช่นกัน