เปิดชีวิตของ ‘กระแต แตร’ ที่เริ่มต้นอย่างไม่ง่าย สู่วันที่ไปได้ดีในทุกบทบาท

กระแต-แตร บุญยะเลี้ยง ใช้ร่างสูง 160 นิดๆ หนัก 40 หน่อยๆ ของเธอเป็นนักมวย (ระดับแชมป์) นักร้อง (ตัวมารดา) นักธุรกิจ (พันล้าน) นักแสดง (รุกกี้) และแร็พเปอร์ (ฝึกหัด) ในวัย 37 ซึ่งยังคงทำทุกอย่างด้วยรักและบ้าคลั่งเช่นเคย แอลเลยอยากอาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเธอให้มากยิ่งขึ้น ผ่านคอลัมน์ ELLE Empowering Women ประจำเดือนกันยายนนี้

ELLE: ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา คุณทำบทบาทต่างๆ ควบคู่กันเสมอ เป็นนักมวยนักร้อง เป็นนักร้องนักธุรกิจ เป็นนักธุรกิจนักแสดง นี่เป็นความตั้งใจหรือโชคชะตาพาไป

KRATAE: หลายคนอาจมองว่าโชคชะตาคือ ‘ฟ้าลิขิต’ แต่เรากำหนดเองได้ มันเกิดจากการที่เราโตมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เป็นเด็กต่างจังหวัด บ้านยากจน พอเราไม่มี เราจึงต้องสู้และทำงานหนักกว่าคนอื่น เรามีเป้าหมายชัดเจนมากว่าเราอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร และเราทำสิ่งนั้นต่อเนื่อง

ELLE: ช่วงเปลี่ยนผ่านที่ไปทำสิ่งไม่คุ้นเคย เช่นตอนนี้กำลังจะเป็นนักแสดง รู้สึกกลัวหรือตื่นเต้น

KRATAE: ตื่นเต้น 80 อีก 20 กังวลว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า แต่ไม่เคยกลัวว่าจะทำไม่ได้ ขอลองทำก่อน อย่างตอนเป็นนักมวย เพราะเราเห็นคนข้างบ้านซ้อมมวยน่าสนุก ที่สำคัญเราเห็นว่ามันได้เงินเลยไปลอง เป้าหมายสูงสุดของนักมวยคือได้แชมป์หรือ ถ้าอย่างนั้นเราต้องซ้อมหนัก ไหนลองดูสิ สุดท้ายได้แชมป์มวยไทยหญิง และเราโตมาครอบครัวที่แม่เป็นนักร้อง เรียกว่าร้องเพลงได้ตั้งแต่เกิด ไหนลองเต้นให้สุดสิ จนได้เป็นกระแตในทุกวันนี้ เราทำทุกอย่างแบบไปสุดทาง

ELLE: คงสุดจริงแหละ พอเป็นนักธุรกิจทำแบรนด์บิวตี้ KATHY COSMETICS ขายลิปได้เดือนละ 99 ล้านบาท

KRATAE: (ยิ้ม) แบรนด์ KATHY เริ่มตอนโควิดที่เราไม่มีงาน เริ่มห่วงครอบครัวว่าถ้าวันหนึ่งเราเป็นอะไรไป หรือไม่มีงาน เขาจะอยู่กันอย่างไร และเราอยากเป็นตัวอย่างให้น้องๆ เพื่อให้เขาเดินตาม เราทำแบรนด์เองทุกอย่าง แพ็กของ ทำกราฟิก ยิงแอด ซึ่งทำไปแบบผิดๆ ถูกๆ และทุกวันนี้ยังมีรอยรั่วมากมาย แต่เราเรียนรู้ว่าเรื่องไหนผิดแล้วเราจะไม่ทำผิดซ้ำอีก

ELLE: การที่คุณทำสิ่งแปลกใหม่เสมอ ย่อมได้ทั้งดอกไม้และก้อนหิน

KRATAE: นึกถึงกระแตนึกถึงข่าวดราม่าใช่ไหม เราเลือกว่าเราจะทำแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่าจะโดนอะไร เพราะไม่มีใครบังคับให้เราแต่งตัวเซ็กซี่ ซึ่งเรามองว่าการแต่งตัวโชว์สรีระแสดงถึงความอดทนและวินัยในการดูแลตัวเอง ฉะนั้นคนเรามองไม่เหมือนกัน

ELLE: คุณเลยถ่ายรูปโชว์ผิวแตกลายงาที่บั้นท้าย ไม่รีทัช ลงไปแบบนั้นซื่อๆ เลย

KRATAE: เราอยากรักตัวเองในแบบนั้น เราต้องภูมิใจในตัวเองให้ได้ ผู้หญิงทุกคนสวย แต่คนไหนไม่มั่นใจเยอะมากจะตัวเล็กไปเลย ส่วนคนไหนที่มั่นใจและภูมิใจในตัวเองมากจะมีเสน่ห์น่ามองขึ้นมา

ELLE: กว่าจะมาถึงจุดที่ทั้งคำพูด การกระทำ ความคิด และรูปร่างสอดคล้องกัน เอพิโซดก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร

KRATAE: ตอนเด็กๆ เราไม่มั่นใจเลยนะ (เน้นเสียง) เวลาให้สัมภาษณ์จะคอยเอามือจับผมมาปิดหน้า กลัวหน้าบาน จะออกนอกบ้านทีเปลี่ยนชุดอยู่นั่น เพิ่งมั่นใจในตัวเองเมื่อ 4-5 ปีนี้เอง เพราะ 2 คนนี้ คนแรกคือหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ที่ให้กำลังใจว่าเราทำได้ สองคือพี่โจ้ (โจอี้ บอย) บอกว่าเวลาเราถ่ายรูป ดูรู้เลยว่าเราไม่มั่นใจในตัวเอง เขาบอกว่าเวลามองกล้องให้คิดว่า ‘มาดูฉันนี่! ดูสะโพกฉันสิ! ฉันสวย!’ ทีนี้ก็ปลดล็อกเลย

ELLE: เรื่องงานเพลงมีอะไรที่เตรียมมาเซอร์ไพรส์แฟนเพลงต่อไป

KRATAE: อยากทำเพลงแนวที่ไม่เคยทำ กระแตอาจจะเป็นแร็พเปอร์ ตอนนี้กำลังฝึกแร็พ ฝึกภาษา อยากไปเวทีอินเตอร์บ้าง และพอมาอยู่ BeOnCloud ก็ได้เล่นซีรี่ส์ ต้องเรียนแอ็กติ้งเพิ่มอีก แต่เรามีวันที่เหนื่อยก็จะหนีไปอยู่คนเดียววันเดียว พักนานไม่ได้ เราต้องพยุงพนักงานอีกกว่า 100 ชีวิต ถ้าเราพอเมื่อไรก็น่าจะไปบวชเลย เป็นคนมีสองขั้วในตัว

ELLE: เหมือนในคลิปที่คุณทำ มีโหมดนั่งแพ็กของหัวยุ่ง กับอีกโหมดแต่งตัวปังแล้วมาจับมือกัน

KRATAE: มันมาจากความจริงล้วนๆ และเป็นคอนเทนต์ที่คนชอบเยอะ บอกว่ากำลังท้ออยู่พอเห็นคลิปนี้แล้วฮึบเลย แต่คนเราได้อย่างเสียอย่าง เรื่องเพื่อน สังคม ปาร์ตี้ แฮงก์เอาต์ เราไม่มีเลย จริงๆ แล้วเป็นคนอินโทรเวิร์ต การได้อยู่บ้านเงียบๆ และทำงานคือความสุข 

ELLE: ถ้ามีเด็กผู้หญิงที่ต้องดูแลครอบครัว อยู่ต่างจังหวัด มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ 1 ห่อก็เอามาต้มแล้วใส่ข้าวสวย อยากบอกอะไรกับเขา เผื่อวันนี้เขารู้สึกว่าแต่ละวันก็ผ่านไปยากแล้ว

KRATAE: นั่นมันชีวิตกระแตนี่นา (นิ่งคิด) คำว่า ‘ทำไม่ได้’ จะปิดกั้นความสามารถเรา ถ้าเชื่อว่าเราทำได้ สมองเราจะหาลู่ทางให้เราทำได้ เช่น ถ้าอยากเป็นดาราแล้วคิดหนูไม่สวย ก็ไปทำหน้าค่ะ แต่หนูไม่มีเงิน งั้นไปหาเงินก่อนค่ะ เราเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่คนเรามีเหมือนกันคือเวลา อย่างเวลาเราซ้อมเต้น เขาให้ซ้อม 3 ชั่วโมง เรากลับบ้านไปซ้อมต่ออีก 7 ชั่วโมง อาจจะเพราะเราเกิดมาในครอบครัวที่ไม่มี เลยมีทางเดียวให้ไปคือต้องสู้ บวกกับเราเลือกทำสิ่งที่รักแบบสุดทาง คือทำอย่างบ้าคลั่งและอย่างต่อเนื่อง แล้วสักวันจะสำเร็จ

Text : Suphakdipa Poolsap
Photographer : JOSES
Fashion Editor : Preuksapak Chorsakul
Makeup : Chanajit Dechasatidwong
Hair : Agkarachai Deedphin
Assistant Photographer : Chudchpong Aumponrat , Supasit Sooksawat , Metphumin Ploychayapat
Assistant Stylist : Tidawan Suttchai , Natthapan Janthanachat
Assistant Hair Stylist :Thanawat Nitithanaiyaphong