พักหลังมานี้หากใครติดตาม Kim Kardashian จะสังเกตได้ว่าเมกอัพมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ทำให้ภาพรวมลุคของเธอโดดเด่นเป็นอย่างมาก นั่นคือ การปัดแก้มโทนชมพูนมแบบ Baby Doll Blush ที่เริ่มเห็นครั้งแรกอย่างชัดเจนในงานพรีเมียร์ซีรี่ส์ All’s Fair ที่ลอสแอนเจลิส ซึ่งแม้เมกอัพโดยรวมจะเป็นโทนเดิมที่เราคุ้นตา แต่พวงแก้มสีชมพูนมกลับโดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนั้นเราก็ได้เห็นลุคนี้ของคิมบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโซเชียล วันนี้เราจึงจะพาคุณมาเจาะลึกว่าทำไมลุคนี้ถึงฮิต และต้องปัดแก้มยังไงถึงจะได้ Baby Doll Blush แบบ Kim Kardashian?
ลุคนี้เกิดจาก Ariel เมกอัพอาร์ทิสคู่ใจของตระกูลคาร์ดาเชียน ที่ครีเอตให้กับ Kim Kardashian ซึ่งยังคงโทนเมกอัพแบบซิกเนเจอร์ของคิมไว้ทั้งหมด ทั้งผิวเนียนกริบ คิ้วคมเข้ม และสโมกกี้อายเฉียบคม แต่ปรับการปัดบลัชออนให้เป็นจุดโฟกัสใหม่ ด้วยการใช้เฉดสี Baby Pink หรือโทนชมพูเย็น ในตำแหน่งที่ไม่คคุ้นตา จนได้แก้มที่หวานละมุนแบบตุ๊กตา แต่ยังคงความเซ็กซี่สไตล์ Kim Kardashian ไว้อยู่
How To: ปัดแก้ม Baby Doll Blush แบบ Kim Kardashian
เทคนิคนี้ไม่ยาก แต่ถ้าเพิ่มทริกเล็กๆ ต่อไปนี้ รับรองว่าลุคจะออกมาเป๊ะราวกับ Ariel มาแต่งให้เลยทีเดียว


- เริ่มด้วยบลัชครีมหรือบลัชลิควิดบนโหนกแก้ม: หลังลงรองพื้นให้แต้มบลัชแบบครีมหรือแบบน้ำ ที่บริเวณบนโหนกแก้มใกล้หางตา แล้วเบลนด์ออก โดยไม่ลากเกินกึ่งกลางตาดำ เทคนิคนี้จะช่วยให้สีแก้มติดทนและให้ฟินิชแบบผิวฉ่ำตามแบบฉบับคิม
- ใช้คอนซีลเลอร์โทนชมพูปรับให้ใต้ตาสว่าง: เลือกคอนซีลเลอร์โทนชมพูหรือ Color Corrector สีชมพูลงบริเวณใต้ตา วิธีนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาและโหนกแก้มดูป๊อปยิ่งขึ้น
- เซ็ตด้วยแป้งฝุ่นสีชมพู: ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงโทนชมพูเซ็ตบริเวณใต้ตาและโหนกแก้ม เพราะสีชมพูจะทำให้ลุคดูเฟรชและไบรท์ขึ้นอีกขั้น
- ปัดบลัชแบบฝุ่นทับอีกชั้นเพื่อเพิ่มมิติ: ใช้บลัชออนแบบฝุ่นโทนชมพูนมปัดเฉียงตามแนวบนโหนกแก้ม โดยคีย์สำคัญคือไม่ปัดลงต่ำกว่าโหนกแก้ม และไม่ปัดให้เกินแนวกึ่งกลางตาดำ
@purnaah I’ve never had this many requests for a makeup tutorial!!!! 🫶🏽🫶🏽 tag me in your recreations 🥹❤️ products listed @Patrick Ta Beauty medium palette @Makeup By Mario perfect brown liner @loréal paris usa @lorealgroupe extensionist mascara + 3 seconds setting spray @Kulfi serum primer @NARS Cosmetics caramel pot concealer @Huda Beauty corrector in peach and pink pomelo + ube powder + blush palette in baby pink @Too Faced chocolate caramel stick bronzer @Juvia’s Place blush Lilly @Hourglass Cosmetics concealer 6.6 @Haus Labs 330 foundation Dear A coming up roses blush @Charlotte Tilbury bronzer from holiday palette @Tower 28 Beauty Roxy shadow stick makeup by mario travis lipliner @Anastasia Beverly Hills hazelnut lipstick @maccosmetics st germaine lipstick @Gisou lip oil [winter kiss blush, baby pink blush, olive skin, brown skin, baby doll makeup, Barbie makeup, brown girl friendly, Kim k, ariel makeup] #softglam #blush #pink #makeup #kimk ♬ original sound – Sudeshna Haldar
เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามว่า เอ๊ะ! ทำไมคนถึงพูดถึงลุคนี้ของ Kim Kardashian กัน ในเมื่อการปัดแก้มสีชมพูโทนนี้ก็เห็นกันมานานแล้ว บลัชโทน Baby Pink เป็นสีที่นิยมในเมกอัพสไตล์เกาหลีและจีนมานาน แต่ในกลุ่มสาวผิวแทนและการแต่งหน้าสไตล์ตะวันตก เราแทบไม่เห็นเฉดนี้ถูกหยิบมาใช้ให้เด่นๆ เลย เพราะเมื่อก่อนมีความเชื่อว่าโทนชมพูเย็นไม่ค่อยเข้ากับผิวเข้ม แม้ก่อนหน้านี้จะเคยมีช่วงที่บลัชโทนชมพูของ Kylie Jenner และลุคแก้มป๊อปไวรัลมาแล้ว แต่ความต่างคือ Kylie ใช้ในปริมาณน้อยและเน้นตำแหน่งกลางแก้ม ในขณะที่คิมเลือกปัดสูงกว่าเดิม

อีกหนึ่งเหตุผลที่เทรนด์นี้มาแรง มาจากกระแสการปัดแก้มแบบจัดเต็มอย่าง Blush Blindness ที่ได้อิทธิพลจากสาว Sabrina Carpenter ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ฮอนฮิตอย่างมากในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายคนกล้าปัดแก้มแบบจัดจ้านกันมากขึ้น และนั้นถูกใจสาวๆ สาย Clean Girl เป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องลงผิวให้หน้าหนัก ไม่ต้องแต่งตาเยอะ เพียงแค่ปัดแก้มก็สามารถปลุกความสดใสให้ชีวิตมีชีวิตชีวาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งบิวตี้แบรนด์ต่างๆ ยังออกบลัชออนกันแบบเดือนชนเดือน จึงยิ่งทำให้เทรนด์ Blush Blindness ยังคงเป็นกระแสและถูกนำมาครีเอตกับลุคต่างๆ อยู่เสมอ

