หากว่าใครติดตามวงการบันเทิงไทยก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกันว่า ปีนี้ช่างเป็นปีที่วงการบันเทิงไทยเติบโตอย่างสดใสในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ ทีป๊อบ หรือแม้กระทั่งเหล่าเซเลบริตี้ที่กลายมาเป็นซอฟต์พาวเวอร์นำความเป็นไทยไปสู่สายตาทั่วโลก แอลเลยถือโอกาสนี้มามัดรวมหลากปรากฏการณ์ความฮิตตลอดทั้งปีกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง จะมีผลงานเรื่องโปรดของคุณไหม ไปดูกันได้เลย!
Hit The Box Office
ในปี 2024 นี้ แวดวงภาพยนตร์ไทยดูจะเริ่มมีแสงแห่งความหวังอีกครั้ง จากภาพยนตร์มากมายที่เริ่มกลับมาจ่อเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างไม่ขาดสาย ยิ่งไปกว่านั้น หลายเรื่องยังสร้างปรากฏการณ์อย่างถล่มทลายท้าทายความเชื่อที่ว่า คนไทยเลิกเข้าโรงหนัง ดังเช่น ภาพยนตร์ หลานม่า ที่เล่าเรื่องราวของหลานเอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์) ผู้หวังรวยทางลัดด้วยมรดกหลายล้านจากการดูแลอาม่าเหม้งจู (แต้ว อุษา) ในห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต จนเกิดความผูกพันอันเรียบง่ายแต่ทว่าแสนพิเศษให้ผู้ชมต่างรู้สึกรีเลตร่วมกัน กลายเป็นภาพยนตร์ที่หลายครอบครัวเลือกจะยกโขยงไปชมร่วมกัน จนไม่แปลกที่จะกวาดรายได้ไปกว่า 2 พันล้านและโดดเด่นอยู่บนหัวตารางบ๊อกซ์ออฟฟิศทั่วเอเชีย คว้ารางวัลจากหลากหลายเวทีนานาชาติ ตลอดจนสร้างประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่สามารถเข้าสู่รอบ 15 เรื่องสุดท้ายชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม
ขณะที่ หลานม่า นำเสนอเรื่องราวในครอบครัวที่ไม่หวือหวาแต่ว่าซาบซึ้งกินใจ วิมานหนาม กลับหยิบยกเรื่องใกล้ตัวอย่าง ‘สมรสเท่าเทียม’ และผลกระทบทางกฏหมายมาเป็นแรงบรรดาลใจในการเล่าอย่างดุเดือด เข้มข้นจนผู้ชมต้องกลั้นหายใจในทุกขณะ กวาดรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทพร้อมปลุกประเด็นความเท่าเทียมทางเพศสู่หลากหลายประเทศ เช่นเดียวกับ ธี่หยด 2 ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวความหลอนจากเรื่องเล่าเรื่องดัง จนขึ้นแท่นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี ด้วยรายได้กว่า 790 ล้านบาท
นอกจากภาพยนตร์ที่เข้าโรงหนังแล้ว ภาพยนตร์บนสตรีมมิ่งเองก็โดดเด่นไปแพ้กัน เพราะในปีนี้เราได้เห็นคนไทยบนเวทีประกาศรางวัลระดับนานาชาติมากมาย รวมไปถึง ออกแบบ ชุติมณฑน์ กับการคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จาก International Emmy Awards 2024 ผ่านบทบาท เชฟออย ในภาพยนตร์เรื่อง Hunger คนหิวเกมกระหาย
อ่านเพิ่มเติม: ชนะเลิศ! ออกแบบ ชุติมณฑน์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จาก International Emmy Awards 2024
มากกว่าเรื่องของรายได้หรือรางวัลที่คนไทยเรากวาดมาตลอดทั้งปี เรายังได้เห็นพัฒนาการของภาพยนตร์ไทยในการกล้าฉีกแนวออกมาทดลองอะไรใหม่ๆ ทั้งพล็อตเรื่องที่ก้าวข้ามผ่านกรอบเดิมๆ และเทคนิกการถ่ายทำที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟซีจีจัดจ้านหรือเรื่องราวแฟนตาซีจากห้วงสมุทรสู่อวกาศ อย่าง ตาคลีเจเนซิส และ ยูเรนัส 2324 ที่แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและไม่หยุดทดลองสิ่งใหม่ๆ ในวงการภาพยนตร์ไทย กลายเป็นแสงแห่งความหวังว่าเราจะได้เห็นภาพยนตร์ไทยไปไกลในแนวที่หลากหลายให้ได้เลือกสรรกันยิ่งกว่าที่เคย
Lakorn On The Run
การกลับมาของ ‘จอแก้ว’ ในปี 2024 นี้ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และมีสิ่งที่โดดเด่นทำให้เราพูดถึงและเป็นกระแสบนโซเชียลอยู่ตลอดปี แม้จะมีหลายสถานการณ์ที่วงการละครไทยอาจดูน่าเป็นห่วงไปบางช่วงตอน แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยเองรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านเสมอมา
แม้ปัจจุบันโซเชียลมีเดียจะเข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยอย่างมาก จนทำให้วงการทีวีด้รับความนิยมน้อยลงจากแต่ก่อน แต่ในประเทศเพื่อนบ้าน ละครไทยยังถือว่าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างเช่น ในเวียดนามที่ละครไทยถูกพูดถึง และเป็นที่โด่งดังในหมู่คนเวียดนาม จนเรียกได้ว่าละครไทยอยู่ในชีวิตประจำวันได้เลย รวมไปถึงเพื่อนบ้านอย่าง ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ก็นิยมบริโภคสื่อไทย แม้จะติดเงื่อนไขการออกอากาศบางอย่าง แต่เราก็ยังเห็นกลุ่มแฟนละครไทยจากสองประเทศอย่างเห็นได้ชัดเจน
แม้เศรษฐกิจจะซบเซา แต่กลับยากที่จะปฎิเสธได้ว่าละครเหล่านี้เติมเต็มจินตนาการและความสุขให้กับสถานการณ์บ้านเมืองที่ตึงเครียดในปัจจุบัน และมีไวรัลจากบทละครออกมาเป็นพื้นที่แจ้งเกิดให้กับดารารุ่นใหม่หลายคนจนโด่งดังในชั่วข้ามคืน จากบทละครที่เป็นภาคต่อจาก ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’ ซึ่งในภาคต่อนี้ ประกอบไปด้วย ลออจันทร, ขวัญฤทัย, ใจพิสุทธิ์, ดุจอัปสร และ พรชีวัน
อีกหนึ่งปรากฎการณ์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ กับ ‘สืบสันดาน’ซีรีส์ชุดที่มีความเข้มข้นสะท้อนสังคม ดราม่า ลึกลับ จิกกัด จนได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทะยานขึ้นอันดับ 1 ในแพลตฟอร์ม Netflix มียอดเข้าชมสูงถึง 3.7 ล้านวิวในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และติด 1 ใน 10 ของซีรีส์ที่มาแรงที่สุดจาก 78 ประเทศทั่วโลกที่รับชม
หรือไฮไลท์ละครดังอย่าง ‘หนึ่งในร้อย’ ผลงานจากผู้จัดมือทองอย่าง แอน ทองประสม ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครนำอย่าง ญาญ่า อุรัสยา และ ต่อ ธนภพ จนสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ทุกสัปดาห์ที่ได้ปล่อยออกมา จนมีกระแสแฟนละครลุกออกมาแต่งตัวตามบทบาทนักแสดง รวมถึงการไปตามรอยถ่ายรูปตามแลนด์มาร์กสำคัญต่าง ๆ ในไทย จนทำให้การท่องเที่ยวกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
ส่งท้ายครึ่งปีหลังด้วยละครฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง ‘แม่หยัว’ ละครสะท้อนคนผ่านนักแสดงมากฝีมืออย่างใหม่ ดาวิกา ที่บอกเลยว่ากวาดเรตติ้งละครที่สูงสุดในไทยเป็นอันดับหนึ่งในปีนี้ไปได้อย่างพุ่งทะยานแบบฉุดไม่อยู่
ปิดท้ายปีกับละครดังอีกเรื่องอย่าง ‘ทิชา’ ที่ได้ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก และ ลูกเกด เมทินี มารับบทนำและฟาดฟันกันอย่างเชือดเฉือน จนทุบสถิคิได้รับความนิยมติดอันดับสูงสุดใน Netflix Thailand หลังจากเปิดตัวมาท
ถึงแม้ผู้ผลิตรวมถึงงบการทำละครไทยยังไม่ได้รับการสนับสนุนมากเพียงพอ แต่ในทรัพยากรที่จำกัดกลับทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนไทยมีความสามารถอย่างมาก และแรงกระเพื่อมเหล่านี้ จะสร้างปรากฎการณให้วงการนี้กลับมาครึกครื้นอีกได้หรือไม่ต้องรอติดตาม
We Love Boys’ Love, Girls’ Love
กระแสซีรีส์วายยังคงเป็นหัวเรือหลักในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างไม่มีแผ่ว โดยเฉพาะในปี 2024 นี้ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของซีรี่ส์ Girl’s Love อย่างเต็มตัว จนแม้กระทั่งในช่องทีวีสาธารณะก็ได้ปรากฏเรื่องราวความรักของพวกเธอมให้เราได้ชมกันแล้วประเดิมด้วยละครแซฟฟิกเรื่องแรกของช่อง 3 อย่าง ใจซ่อนรัก ที่นำแสดงโดย หลิงหลิง คอง และ ออม กรณ์นภัส บอกเล่าเรื่องราวการโคจรกลับมาพบกันของรักเก่าท่ามกลางสังคมที่ยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเธอดี นับเป็นก้าวสำคัญที่เราได้เห็นเรื่องราวของแซฟฟิกโลดแล่นอยู่บนหน้าจอทีวีและสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วทั้งในและนอกประเทศ
นอกจากนี้ รูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลายภายใต้ร่มของ ‘แซฟฟิก’ และความลื่นไหลทางเพศที่ไร้ขอบเขตกำหนดยังได้นำเสนอออกมาอย่างเข้าใจง่ายผ่านซีรีส์ 23.5 องศาที่โลกเอียง ซึ่งนอกจากเราจะได้อมยิ้มไปกับความน่ารักของเหล่าตัวละครแล้ว เพศวิถีของเลสเบี้ยน ทรานส์เจนเดอร์ ไบเซ็กชวล และอีกมากมายที่ถูกเล่าในโทนสบายๆ ไร้ความท็อกซิกน้ันยิ่งตอกย้ำว่าประเทศไทยได้ยกระดับความเปิดกว้างทางเพศไปพร้อมๆ กับซีรีส์วาย ไม่ใช่เพียงแค่ผิวเผิน แต่ยังมุ่งมั่นที่จะมอบข้อมูลให้แก่สังคมอีกด้วย
และขึ้นชื่อว่า ซอฟต์พาวเวอร์ แล้ว จะขาดการนำเสนอความเป็นไทยไปได้อย่างไร! เพราะแสงสปอตไลต์ที่สาดส่องมายังซีรีส์แนว Boys’ Love และ Girls’ Love เช่นนี้จึงไม่แปลกที่หลายเรื่องจะเลือกเอาเสน่ห์แบบไทยๆ ออกมาสู่สายตาผู้ชมที่มีฐานมากกว่าเพียงในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความวิจิตรงดงามฉบับไทยแท้อย่างใน ปิ่นภักดิ์ ซีรีส์แซฟฟิกพีเรียดเรื่องแรกที่ได้รับเลือกจากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นซีรีส์นำร่องในการส่งเสริมสินค้าไทยสู่ระดับโลก มาพร้อมมิวสิกวิดีโอเพลง ‘ชีวี’ ที่พาแฟนๆ มาร่วมค้นพบเสน่ห์รอบกรุง หรือแม้แต่การหยิบเอาซีรีส์เรื่องดังจากต่างแดนมารีเมกเป็นเวอร์ชั่นไทยภายใต้บริบทสังคมสุดยูนีก ที่แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ตะโกนออกมาว่า นี่แหละไทยแลนด์! ดังเช่นในซีรีส์ Cherry Magic และ My Love Mix-Up!
ยิ่งไปกว่านั้น ซีรีส์วายยังได้ทลายกรอบความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าเรื่องราวว่ายวนอยู่เพียงประเด็นความรักวัยรุ่นในรั้วโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น เพราะเราได้เห็นสารพัดพล็อตมาให้เลือกเสพกันได้ไม่ซ้ำ ตั้งแต่แนวแฟนตาซีทะลุมิติแบบซีรีส์ Century of Love หรือมองเห็นอนาคตได้ภายใน 4 นาทีแบบซีรีส์ 4MINUTES ตลอดจนร่วมเปิดแฟ้มฆาตกรรมที่ชวนให้ตั้งคำถามกับประเด็นเปราะบางทางกฎหมายอย่าง การุณยฆาต ก็เรียกได้ว่า คนไทยทำถึงในทุกพล็อตจริงๆ
New (T) POP Revolution
อีกหนึ่งกระแสที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่เราเห็นกันก็คือกระแสเพลง T-Pop ซึ่งเห็นได้จากการเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง TikTok ที่มีการเติบโตสูงขึ้น 3 เท่า โดยการใช้งานในระดับ Global ที่มีการใช้งานมากกว่า 2,000 ล้านครั้งเป็นของคนไทยมากกว่า 1,000 ล้านครั้ง โดยกลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่มาจากช่วงวัยรุ่น
จากสถิติการก้าวกระโดดของวงการเพลง ทำให้มีค่ายเพลงมากหน้าหลายตาลงมาเล่นตลาด T-Pop กันอย่างครึกครื้น มีรายการใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งรายการร้องเพลง เล่นเกมกับเหล่าศิลปินคนดัง รวมไปถึงรายการเซอร์ไววัล ที่ได้รับความนิยมและสร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงไทยจนเป็นไวรัลมาแล้ว
ตัวอย่างกระแสที่มาแรงสุด ๆ ในปีนี้อย่างหนุ่ม ๆ ที่มาจากรายการเซอร์ไววัลอย่างรายการ 789 survival กับ 12 หนุ่มวง BUS because of you i shine ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในปี 2024 ด้วยสถิติศิลปินหน้าใหม่ที่มีรางวัลการันตีให้เห็นอย่างเป็นประจักษ์มากมาย ทั้งการขึ้นอันดับ 1 ใน YouTube Trending หลังปล่อยเพลงเดบิวต์เพลงแรก รวมถึงเมื่อมีการออกงานก็ขึ้นอันดับ 1 Thailand X trends และยังการันตีความดังด้วยรางวัลจากการประกาศรางวัลประจำปีอีกหลายเวที ปรากฎการณ์เหล่านี้ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงการทำทัวร์คอนเสิร์ตใน 4 ภาค 5 จังหวัดของหนุ่ม ๆ BUS ที่บัตรหมดทุกที่นั่งในทุกจังหวัดภายในระยะเวลาไม่กี่นาที
T-Pop ถูกพูดถึงในหลายแง่มุมไม่เฉพาะแต่แนวเพลง คอนเซปต์ของวง หรือรูปแบบของการนำเสนอแต่เพียงเท่านั้น แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดการดึงดูดกลุ่มคนที่เรานิยามว่าเป็น ‘แฟนคลับ’ คือการสะท้อนตัวตนความมีเสน่ห์เฉพาะตัวออกมา เหมือนอย่างวง ‘PERSES’ ที่ทำให้ถูกพูดถึงอีกครั้งด้วยการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเองจนเป็นที่น่าจับตามอง ทั้งในเรื่องของทัศนคติการแสดงออก หนังสือที่อ่าน ของสมาชิกในวงอย่าง ‘เน ณรัณ’ จนทำให้เกิดการพูดถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดีย และเป็นไวรัลจนถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก
ฝ่าย T-Pop หญิงก็ไม่แพ้กัน กับสาว ๆ วง PIXXIE ที่มีกระแสต่อเนื่อง เนื้อหาเพลงติดหู จำง่าย เนื้อหากินใจ พร้อมเอกลักษณ์การแสดงที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ไม่ว่าจะปล่อยเพลงอะไรออกมาก็ได้รับความนิยมและมีไวรัลออกมาให้คนทั่วไปได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ความนิยมยังเผยแพร่ออกไปยังต่างประเทศอีกด้วยเช่นกัน เช่นความนิยมของ PIXXIE ในประเทศจีน ทั้งเพลงที่ถูกนำมา cover รวมถึงการแต่งหน้าตามสมาชิกในวงด้วยลุคต่าง ๆ ก็เป็นเครื่องหมายการันตีความดังของ T-Pop wave ใน พ.ศ. นี้ได้อย่างดีเยี่ยม
เช่นเดียวกันกับสาว ๆ 4EVE ก็ยังคงโดดเด่นและติดกระแส Girl Group ที่น่าจับตามองซึ่งถูกจัดอันดับโดย GRAMMY AWARDS ว่าเป็นหนึ่งในหมวด ‘12 Rising Girl Groups To Know Now’ จากทั่วโลก
การกลับมาของ T-Pop ไม่ได้มีเพียงวงที่กล่าวมาข้างต้น แต่ความนิยมนี้สร้างแรงกระเพื่อมให้นักลงทุนอีกหลายคนหันมาสนใจตลาดนี้กันมากขึ้น อีกทั้งแพลตฟอร์มอย่าง TikTok ได้เข้ามามีบทบาทและได้รับความนิยมในช่วงปีที่ผ่านมาอย่างมากจนทำให้มีชาเลนจ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เพลง HIT ME UP – TIMETHAI ที่ได้รับความนิยมจนมียอดวิวสูงถึง 43 ล้านวิว หรือเพลง เมร่อน – JUEPAK Ft. จ๊ะ นงผณี x GUNNER ที่ได้รับยอดวิวสูงถึง 81 ล้าน เพราะเกิดจากการกระจายและส่งออกผ่านแพลตฟอร์มดังอย่าง TikTok จึงเห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ชอบที่จะมีส่วนร่วมจึงแสดงออกมาผ่านการทำชาเลนจ์ และสิ่งเหล่านี้ก็ส่งผลดีต่อตัว
ศิลปินเองอีกด้วยเช่นเดียวกัน
เด็กรุ่นใหม่กลับมาให้ความสนใจใน T-Pop อีกครั้ง ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการดนตรีไทยอีกหลาย ๆ อย่างด้วยเช่นกัน จนทำให้เริ่มมีแรงสนับสนุนจากหลาย ๆ ส่วนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็รสถานที่ต่าง ๆ ให้การสนับสนุนและให้พื้นที่คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในการเจอศิลปิน รวมไปถึงการใช้เพลงจากศิลปินในวงการ T-Pop โปรโมทซีรีส์ รวมไปถึงการเริ่มใช้โฆษณาสินค้า ทิศทางของวงการนี้จะเป็นอย่างไรในอนาคตต่อ และประเทศของเราจะต่อยอดสิ่งเหล่านี้ไปอย่างไรอีก ต้องรอติดตามได้เลย
Cutesy Celebrities
ปิดท้ายแบบปังๆ กับ 2 คน (?) ดังที่ระเบิดปรากฏการณ์ความน่ารักในปี 2024 กับน้องหมีเนย Butterbear และน้องหมูเด้ง ฮิปโปแคระจากสวนสัตว์เขาเขียวที่ไม่เพียงเป็นไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ต แต่ยังขยับขยายอิทธิพลไปขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยและอีกหลากหลายวงการอีกด้วย!
เริ่มต้นด้วย Butterbear มาสคอตหมีเนยสุดน่ารักผู้ถูกค้นพบจากสกิลการเต้นที่ไม่ธรรมดา ก่อนจะกลายมาเป็นไอดอลสาววัยสามขวบเจ้าของเพลงฮิตที่เต้นกันทั่วประเทศ พร้อมร่วมงานกับศิลปินดังมากมาย กลายมาเป็นแฟชั่นไอคอนวัยใสไปร่วมอีเวนต์แฟชั่นกับแบรนด์ดังระดับโลก เป็นพรีเซนเตอร์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนจัดงานแฟนมีตติ้งกระทบไหล่กับเหล่ามัมหมีและขึ้นเวทีงานประกาศรางวัลปลายปีมากมาย
และเซเลบริตี้คนล่าสุดที่ขโมยหัวใจผู้คนทั่วโลกจนนาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นก็คือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระที่ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้รู้จักสายพันธุ์แสนพิเศษนี้เท่านั้น แต่ความน่าเอ็นดูเฉพาะตัวนี้ยังกลายเป็นไวรัลระดับนานาชาติ ชนิดที่ว่าแม้แต่นิตยสาร TIME ยังมอบคำนิยามว่า “เธอคือไอคอน เธอคือตำนาน และเธอคือโมเมนต์สำคัญ” ตลอดจนครองใจคนดังทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าไอดอลเกาหลีที่แพ้ทางความน่ารักเข้าอย่างจัง และด้วยเหตุนี้นี่เอง เธอจึงได้นำเม็ดเงินมาสู่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างมหาศาล พาให้บรรยากาศในสวนสัตว์ที่อาจเคยเงียบเหงากลับมาคึกคัก เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมสวนสัตว์นานาประเภทที่ก็ได้ถูกค้นพบความน่าเอ็นดูตามไปด้วย
เรียกได้ว่าตลอดปี 2024 ที่ผ่านมานี้ วงการบันเทิงไทยได้ก้าวข้ามผ่านมรสุมลูกใหญ่มาสู่ยุคที่เตรียมจะงอกงามเบ่งบาน และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าในปีหน้าและอนาคตที่จะมาถึงนี้ คนไทยเราจะพาอุตสหกรรมนี้ไปได้ไกลขึ้นพร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ใหม่ๆ ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับบุคลากรทั้งในเบื้องหน้าและเบื้องหลัง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้รับการสนับสนุนมาเป็นแรงผลักดันให้ซอฟต์พาวเวอร์นี้ทรงพลังยิ่งกว่าเคย
TEXT: Rathatip Khamnurak
Tikumporn Chaiyakote