Tuesday, January 7, 2025

ตามติดแอลและแอลลี่มุ่งหน้าสู่ทุ่งดอกจัสมินในเมืองกราสส์ ล้วงลึกเคล็ดลับความหอมสุดคลาสสิกของ Chanel N°5

เมื่อ Gabrielle Chanel ปรารถนาที่จะทำน้ำหอมในแบบของตัวเองสิ่งเดียวที่เธอคิดคือน้ำหอมที่มีโครงสร้างที่ชัดเจน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แฝงไว้ซึ่งความละเอียดซับซ้อนเฉกเช่นเดียวกับการทำชิ้นงานกูตูร์อย่างไรอย่างนั้น ปฐมบทความหอมของ Chanel N°5 Parfum จึงเกิดชึ้นในปี 1921 ด้วยฝีมือเพอร์ฟูเมอร์นามว่า Ernest Beaux กรุ่นกลิ่นแนวฟลอรัลและมัสก์ โดยมีท็อปโน้ตเป็นกระดังงา (Ylang Ylang) และอัลดีไฮด์ (Aldehyde) แกนกลางคือ เมย์โรส (Mayrose) และจัสมิน ส่วนเบสโน้ตคือ แซนดัลวู้ดและวานิลลา และเมื่อผลลัพธ์คือความสำเร็จแอร์เนสต์จึงได้ขยายอาณาจักรความหอมออกเป็น N°5 Eau de Toilette (1924) ก่อนที่เวลาล่วงเลยมาสู่รุ่นผู้ปรุงน้ำหอมอย่าง Jacques Polge ที่รังสรรค์ N°5 Eau de Parfum (1986), N°5 Eau Première (2006) และส่งไม้ต่อให้ทายาทรุ่นลูก Olivier Polge ที่ยังเคารพดีเอ็นเอของกลิ่นตำนานนี้จนเกิดเป็น N°5 L’Eau ในปี 2016

และช่วงเวลานี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวดอกจัสมิน ดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ อันประกอบไปด้วย 5 กลีบแสนบอบบาง ที่ 5 กลีบอันสอดคล้องกับเลข 5 ของชื่อน้ำหอมด้วยเช่นกันนี้คือหนึ่งในความพิเศษอันทำให้ Chanel N°5 เป็นน้ำหอมขึ้นทำเนียบคลาสสิกตลอดกาลจนกระทั่งปัจจุบัน นั่นจึงเป็นสาเหตุให้แอลและสาวแอลลี่-อชิรญา นิติพน บินลัดฟ้าสู่เมืองกราสส์ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อค้นพบเบื้องลึกเบื้องหลังดอกไม้ที่สกัดยากที่สุดชนิดหนึ่งอย่างดอกจัสมินนี้

FROM THE JASMINE FIELD

ดอกจัสมินที่นำมาใช้คือสายพันธุ์ Jasminum grandiflorum อันมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัย ก่อนที่จะนิยมปลูกกันในดินแดนเขตร้อนไม่ว่าจะเป็นอินเดีย ตุรกี หรือแม้แต่ประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งในประเทศฝรั่งเศสคือทางตอนใต้อย่างเมืองกราสส์นั่นเอง โดยแต่ละภูมิประเทศมีสภาพอากาศและคุณภาพดินที่แตกต่างกัน ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อกลิ่นที่สกัดออกมาทั้งสิ้น ช่วงยุค ‘50s ปรากฏว่าความนิยมในการปลูกดอกจัสมินและดอกไม้นานาชนิดที่กราสส์ลดลงอย่างมาก การคัดสรรวัตถุดิบระดับคุณภาพโดยเฉพาะดอกจัสมินที่อยู่ในแต่ละขวดของ Chanel N°5 Parfum ที่มีความเข้มข้นสูงสุดจึงเป็นไปได้ยากยิ่ง ในปี 1987 ทาง Chanel จึงได้บรรลุข้อตกลงกับตระกูล Mul ผู้ผลิตดอกไม้รายใหญ่ที่สุดในเมืองกราสส์ เพื่อเป็นหลักประกันว่าวัตถุดิบล้ำค่าชนิดนี้ รวมถึงภูมิปัญญาที่ส่งต่อกันมาถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 5 แล้วจะมีอนาคตที่ยั่งยืน โดยปัจจุบันผู้กุมความลับของกลิ่นหอมคือ Joseph Mul และลูกเขย Fabrice Bianchi ในพื้นที่เขตเปโกมาส (Pégomas) หลังจาก Chanel เป็นหุ้นส่วนและร่วมมือกันควบคุมกระบวนการตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกไปจนถึงการสกัด ได้เพิ่มระดับความคุ้มครองไปจนถึงดอกไม้ชนิดอื่นด้วย คือ ดอกเมย์โรส (1987), ไอริส (2007) ทูเบอโรส และเจอราเนียม (2011) ฟาบรีส เบียงคี บอกกับเราว่า “เราเว้นระยะเพื่อพักหน้าดินโดยจะไม่เพาะปลูกต่อเนื่องกันและวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อทำความเข้าใจภาษาของพืชพรรณเหล่านี้ เป้าหมายของเราคือการผลิตดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมที่สุดและรับประกันว่ายังคงรักษาไว้ซึ่งคุณภาพในแบบเดียวกันนี้ต่อไปทั้งสำหรับวันนี้และวันข้างหน้า”

เราเดินทางเข้าไปในพื้นที่เพาะปลูกดอกจัสมินตั้งแต่เช้าตรู่ โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงตุลาคมของทุกปี จะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวดอกไม้ชนิดนี้ เกษตรกรในพื้นที่จะเริ่มเด็ดแต่ละดอกด้วยมือ นำมาใส่ลงตะกร้าหวายที่คลุมไว้ด้วยผ้าพอหมาดเพื่อเก็บรักษาความสดของดอกไม้ไว้ ด้วยความชำนาญของทั้งสองมือผู้เก็บเกี่ยวยังสามารถเด็ดดอกจัสมินได้เพียง 350 กรัมต่อชั่วโมง (เฉลี่ยได้ 2 กิโลกรัม ต่อวัน) ซึ่งกว่าจะได้ดอกจัสมิน 1 กิโลกรัม ต้องใช้ถึงประมาณ 10,000 ดอก ฟาบริสสาธิตการเด็ดโดยใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้รูดดอกให้หลุดจากขั้วอย่างแผ่วเบาโดยใช้ทั้งสองมืออย่างชำนิชำนาญ และเมื่อในอุ้งมือแต่ละข้างมีอยู่ราวสิบกว่าดอกถึงนำเอาใส่ตะกร้า เขาอธิบายถึงความสัมพันธ์ของอากาศและปริมาณน้ำที่เหมาะสม และเผยถึงตอนฝนตกที่จำต้องโรยหินกรวดจากขนาดใหญ่และปริมาณมากจากทางไหลของน้ำสู่ขนาดและปริมาณลดหลั่นกันลงมา เพื่อสกัดกั้นแรงน้ำไหลอันสามารถทำลายส่วนเพาะปลูกดอกจัสมินได้

TO THE EXTRAORDINARY SCENT

หลังจากการเก็บเกี่ยวสิ้นสุดลง (เวลา 7.00 น. – 13.00 น.) เกษตรกรต่างต่อแถวเข้าคิวนำดอกไม้มาในพื้นที่ชั่งน้ำหนักโดยเทใส่ลังโลหะเจาะรูรอบด้านจนดูโปร่งเพื่อให้ลมผ่านทำให้ไม่อับชื้นจนดอกไม้เสียคุณภาพ ผู้ดูแลส่วนนี้จะคิดน้ำหนักและประเมินอัตราค่าเก็บเกี่ยวให้เป็นรายคน จากนั้นดอกไม้ในแต่ละลังจะถูกลำเลียงสู่โรงงานสกัดที่อยู่ห่างจากส่วนเพาะปลูกไม่ถึง 5 นาที ในอุณหภูมิห้องปกตินั้น คนงานจะเร่งรีบเทดอกไม้ลงในแทงก์ทันทีเพื่อเริ่มกระบวนการสกัดโดยใช้ตัวทำละลายที่ระเหยได้ หรือ volatile solvent กระบวนการจะกินเวลาร่วมหลายชั่วโมง และต้องทำซ้ำถึง 3 ครั้ง ส่วนดอกที่สกัดเอากลิ่นออกไปนั้นจะไม่เสียเปล่า เมื่อทำความสะอาดเอาสารระเหยออกไปด้วยระบบไอน้ำจะถูกนำกลับสู่ท้องทุ่งเพาะปลูกเพื่อใช้เป็นส่วนผสมของปุ๋ยต่อไป

ส่วนที่แยกออกมาอันมีลักษณะเหมือนแวกซ์อันเต็มไปด้วยโมเลกุลของกลิ่นจะกักเก็บไว้ในส่วนที่เรียกว่า evaporator และเมื่อผ่านกระบวนการจะลงเหลือในส่วนที่เรียกว่าคอนกรีต (concrete) ซึ่งด้วยลักษณะคล้ายแวกซ์ก็จะค่อยๆ แข็งตัวได้ในอุณหภูมิห้อง ซึ่งจากที่เราเห็นนั้น แค่ส่วนคอนกรีตเพียง 1 กิโลกรัม ทางคนงานเล่าให้ฟังว่าต้องใช้ดอกจัสมินถึง 350 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับต้องใช้ดอกจัสมินถึง 2.83 ล้านดอก! การผ่านกระบวนการจนกลายสภาพเป็นคอนกรีตทำให้สามารถกักเก็บความหอมไว้ได้อย่างนั้นอย่างยาวนานแม้ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ

การที่เพอร์ฟูเมอร์จะนำมาใช้เป็นส่วนผสมของตัวน้ำหอมได้นั้น ต้องนำเอาคอนกรีตมาผสมกับแอลกอฮอล์และวางทิ้งไว้ในเครื่องทำความเย็นในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส นั่นทำให้แวกซ์ยังแข็งตัวอยู่ แต่แอลกอฮอล์ที่ผสมรวมกับโมเลกุลของกลิ่นหอมจะกลายเป็นของเหลว จากนั้นจะผ่านกระบวนการกรองเอาแอลกอฮอล์ออกซึ่งต้องกรองหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้เหลือส่วนที่เรียกว่าแอบโซลูต (absolute)ของดอกจัสมิน หัวใจสำคัญที่นำมาผสม Chanel N°5

THE LEGACY AT ITS BEST

ก่อนลาจากท้องทุ่งแห่งเปโกมาส พื้นที่อันทรงคุณค่า เมอซิเออร์โอลิวิเยร์ โพลช์ ได้เปิดโอกาสให้เราดมกลิ่นหอมส่วนประกอบหลักของน้ำหอมประจำเมซงตั้งแต่จัสมินและเมย์โรส (Chanel N°5), ไอริส พัลลิดา (Chanel N°19), ทูเบอโรส (Gabrielle) และเจอราเนียม โรแซต (Boy Les Exclusifs Eau de Parfum) ก่อนที่จะให้เราดมกลิ่นน้ำหอมรุ่นต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของดอกไม้เหล่านั้นอยู่ในขวด ก่อนที่จะทิ้งท้ายให้เรารับทราบถึงความสำคัญของแหล่งเพาะปลูกที่ร่วมมือกับตระกูล Mul แห่งนี้ว่า “Chanel เป็นแบรนด์เดียวในเมืองกราสส์ที่มีโรงงานสกัดน้ำหอมอยู่ในพื้นที่เพาะปลูกดอกไม้ครับ นั่นทำให้เรารังสรรค์กลิ่นจากดอกไม้และควบคุมขั้นตอนเพื่อให้ได้กลิ่นที่ดีที่สุดตามต้องการได้แต่ต้นจนจบกระบวนการ โดยร่นเวลาการขนส่งตัวดอกไม้สดสู่การสกัดกลิ่นให้น้อยที่สุด ดอกไม้จึงยังมีความสดใหม่ ความซับซ้อนและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นจึงไม่ลดทอนลงไประหว่างทาง เป็นดั่งพันธกิจเพื่อความดีเลิศ จึงเห็นได้ว่าการคงไว้ซึ่งคาแร็กเตอร์ของกลิ่นหอมในทุกขั้นตอนคือเป้าหมายหลักของเรา”

Latest Posts

Don't Miss