Louis Vuitton เดินทางมาถึงเกาหลีใต้อย่างฉันท์มิตร และจะไม่หยุดที่แฟชั่นโชว์ Pre-Fall 2023 นี้เท่านั้น หากเป็นจุดเริ่มต้นระหว่างแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกและประเทศที่ประชากรจ่ายให้กับสินค้าลักชัวรีมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และนี่คือ 10 โมเมนต์จากมุมสังเกตการณ์ชั้นดีที่ฟร้อนต์โรว์
1.The Alliance
Louis Vuitton ลงนามความร่วมมือกับกรุงโซลและการท่องเที่ยวเกาหลี โดยมีแผนว่าจะช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวภูมิทัศน์ริมแม่น้ำฮัน อาทิ เพิ่มแม่น้ำฮันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำในไกด์บุ๊ก Louis Vuitton City Guide ฉบับกรุงโซล ตั้งแผงขายหนังสือในช่วงมีเทศกาลเดินเที่ยวสะพานชัมชู และมีส่วนร่วมทั้งในโครงการระยะสั้นและระยะยาวต่างๆที่อนุรักษ์และพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพ
2.The Set
สถานที่จัดงานครั้งนี้คือสะพานชัมซู ซึ่งอยู่ด้านล่างของสะพานพันโพ เรียกได้ว่าเป็นสะพานสองชั้นแห่งแรกของเกาหลีใต้ โดยชื่อ ‘ชัมซู’ แปลว่า ‘จุ่ม’ ซึ่งก็ตรงตามลักษณะของสะพานชัมซูที่ออกแบบมาให้ลดระดับลงไป ‘จุ่ม’ อยู่ในแม่น้ำฮันได้ เพื่อช่วยชะลอน้ำท่วม และด้วยความที่มีทางเดินทอดยาว 795 เมตรที่เปิดรับวิวแม่น้ำฮัน แลเห็นตึกระฟ้าในกรุงโซลรำไร สะพานนี้จึงเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังและซีรีส์มากมาย อาทิ Itaewon Class ซีรีส์ที่ทำให้คนทั่วโลกโดนเกาหลีใต้ตกในช่วงโควิด
3.The Bond
Louis Vuitton มีสายสัมพันธ์ยาวนานกับเกาหลีใต้ โดยเปิดบูติกแรกในย่านคังนัมเมื่อปี 1991 ก่อนจะสร้างบูติกใหม่สุดอลังการออกแบบโดยซูเปอร์สตาร์สถาปนิก Frank Gehry ในปี 2019 จนถึงปัจจุบันมีบูติกกว่า 35 แห่งทั่วเกาหลีใต้ โดย 18 แห่งอยู่ในกรุงโซล ส่วนในปี 2017 Nicolas Ghesquière ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ฝ่ายเครื่องแต่งกายสตรีแต่งตั้งให้จองโฮยอนเป็นนางแบบของเมซงเป็นครั้งแรก ก่อนที่เธอจะแจ้งเกิดจากซีรีส์ Squid Game ในปี 2021 และกลายเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ในทันที ซึ่งโชว์ครั้งนี้ก็ได้ฮวังดงฮยอก ผู้กำกับ Squid Game มาออกแบบเซตให้ด้วย และหนึ่งในหนังเรื่องโปรดของนิโกลาส์คือ The Host ของผู้กำกับบงจุนโฮที่นำแสดงโดยแบดูนา แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของเมซง!
4.The Learning
ท่ามกลางแขกทั้งหมดที่ได้รับเชิญมาร่วมชมแฟชั่นโชว์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ 1,600 คน ทางเมซงเชิญนักเรียนแฟชั่น 100 คนในเกาหลีใต้มาร่วมเป็นประจักษ์พยานด้วยตาเนื้อแบบตัวเป็นๆ นอกจากนี้ยังตั้งจอไว้ตามมุมต่างๆทั่วกรุงโซลให้สายแฟได้ชมไลฟ์สตรีมของแฟชั่นโชว์แบบเรียลไทม์ด้วย
5.The Practicality
ผู้กำกับฮวังดงฮยอกจาก Squid Game เลือกสะพานชัมซูเป็นสถานที่จัดแฟชั่นโชว์ก็เพราะหน้าที่ของสะพานอันเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง ซึ่งตรงตามคอนเซปต์ของคอลเล็กชั่น Pre-fall ที่เป็นเรื่องของการเดินทาง ขณะเดียวกันรูปลักษณ์ของสะพานชัมซูก็เป็นโครงสร้างคอนกรีตสามัญธรรมดา โดยที่คุณผู้กำกับไม่ได้แต่งแต้มแสงสีให้มันดู ‘ไซไฟ’ หรือ ‘ฟิวเจอริสติก’ อย่างที่มักจะใช้นิยามงานออกแบบของนิโกลาส์เสมอมา ก็เพราะเขามองว่าเสื้อผ้าก็เป็นเช่นเดียวกับอาหาร คือเป็นสิ่งใกล้ตัวที่สุดที่ผู้คนจะจินตนาการถึงได้ และก็ด้วยความสวมใส่ได้จริงของคอลเล็กชั่นนี้ เขาจึงดึงแฟชั่นลักชัวรีให้คนจินตนาการภาพตัวเองในไอเท็มต่างๆในคอลเล็กชั่นนี้และไปเดินถนนสักเมืองในโลก
6.The Wind
ทุกครั้งที่นิโกลาส์พาคอลเล็กชั่นพรี-ฟอลล์หรือครูสออกไปจัดยังเมืองต่างๆทั่วโลก เขาต้องมั่นใจว่าสถานที่นั้นๆ ต้องมีตัวละครสำคัญที่ช่วยให้คอลเล็กชั่นมีมูฟเมนต์ไม่หยุดนิ่ง หรือ ‘เดินทาง’ อยู่เสมอ และจากวินาทีแรกที่จองโดยอนก้าวออกมาจากอุโมงค์ที่แลดูคล้ายคอนกรีต ผมของเธอก็สะบัดปลิว ขณะที่นางแบบคนอื่นๆ ที่แฮร์สไตลิสต์ไม่ให้รัดผมให้ต่างก็อยู่ในสภาพผมกระจุยกระจายสยายเต็มไปตามแรง ‘ลม’ ผู้ขับเคลื่อนแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ตัวจริง ที่แม้แต่ผู้กำกับฮวังดงฮยอกยังโล่งใจเพราะตอนแรกก็กลัวว่าฝนจะตก แต่กลายเป็นว่าได้ลมมาช่วยพัดให้นางแบบดูราวกับออกเดินทางเที่ยวชมเมือง
7.The Layers
คอลเล็กชั่นที่ชูสีสันสดแปร๋นแบบเทคนิคคัลเลอร์ไม่มีผ้าเนื้อหนา มากสุดคือไบเกอร์แจ็กเก็ตหนังและเสื้อนิตตัวยาว และถ้าคุณเดินทางไปเจอลมหรือสภาพอากาศที่เย็นขึ้นแบบที่เกิดในกรุงโซลรอบนี้ คุณก็ซ้อนเลเยอร์ไอเท็มต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างที่ Marie-Amélie Sauvé สไตลิสต์คู่ใจของนิโกลาส์จับเอาเสื้อนิตสวมทับแม็กซี่เดรส ใส่เบลาส์กับกระโปรงยาวกรอมเท้าและไบเกอร์แจ็กเก็ต หรือใส่แจ็กเก็ตกันลมปิดคอแบบจองโฮยอน ลุคเปิดโชว์ที่เซตมู้ดแอนด์โทนของคอลเล็กชั่นได้เป็นอย่างดีว่างานนี้มีแต่ชิ้นเบาๆ สบายๆ ที่ใส่ง่าย ใส่ได้จริง ไม่ต้องพึ่งพาอภินิหารหรือความเก๋ระดับ 11 จึงจะแคร์รี่พีซของนิโกลาส์ได้
8.The Flats
ไม่มีรองเท้าแม้แต่คู่เดียวในโชว์นี้ที่เป็นส้นสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสูงไม่ได้ คอลเล็กชั่นนี้ขนรองเท้าส้นแบนมาทุกสไตล์ ทั้งบัลเล่ต์ แมรีเจน บู๊ต สนีกเกอร์ และกลายเป็นว่าสนีกเกอร์คือ New High Heels ของ Louis Vuitton ค.ศ.นี้ ด้วยส้นหนาตันที่สูงพอๆกับใส่รองเท้าส้นสูง เป็นการส่งแมสเสจชัดเจนว่านี่คือคอลเล็กชั่นที่ทำเพื่อให้คุณออกเดินทาง และขอให้เดิน เดิน เดินด้วย Happy Feet!
9.The Straps
เช่นกันที่ไม่มีกระเป๋ารุ่นใดเลยที่ทำให้คุณต้องสละมือไปประคอง กอด กระเตง หรือหนีบมันไว้ นี่คือคอลเล็กชั่นสำหรับการเดินทางที่กระเป๋าทุกรุ่นมาพร้อมหูให้คล้องแขน และสายให้สะพายคาดตัวหรือคาดไหล่ เพื่อให้มือไม้ได้เซลฟี่หรืออย่างน้อยก็ทำท่ามินิฮาร์ตได้สะดวก
10.The Guests
ท่ามกลางเพลย์ลิสต์ทั้งเพลงพื้นเมืองของ ‘ซามุลโนรี’ วงเครื่องดนตรี 4 ชิ้นของเกาหลี ได้แก่ กลองจังกู กลองพุก กับแกวงกวารีและจิงที่มีลักษณะเหมือนฆ้อง เมื่อประกอบกันจะให้เสียงคล้ายธรรมชาติ อาทิ เสียงฝนตก ฟ้าผ่า เสียงลมผสมกับเพลงเคป๊อปรุ่นปู่อย่าง Already Now ของซันอุลลิมที่ออกมาในปี 1977 และเพลงตะวันตก อาทิ Le Pont Mirabeau เวอร์ชั่นเล่นสดที่บันทึกมาจากโรงละคร Théâtre de l’Athénée ในกรุงปารีส ซึ่งเมื่อเพลงสุดท้ายจบลง น้ำพุก็พวยพุ่งตลอดแนวสะพานพันโพที่อยู่ด้านบน โดยที่สะพานพันโพบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊กส์ว่าเป็นสะพาน้ำพุที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 1,140 เมตร สายน้ำสะท้อนแสงไฟสีน้ำเงิน อันเป็นสีหลักของคอลเล็กชั่นสุดตระการตา
ฟร้อนต์โรว์ที่มาชมแฟชั่นโชว์เคล้าวิวแม่น้ำฮันถึงกับหยุดปรบมือราวกับแมวน้ำไม่ได้เมื่อเจอกับภาพนี้ ทั้งแบดูนา, Jaden Smith, Chloë Grace Moretz, แทยอนจากวง Girls’ Generation, ยูตะจากวง NCT, มินกยูจากวง Seventeen, ซอนมี, เยจีจาก ITZY, ฮวาซาวง Mamamoo, เฟลิกซ์จาก Stray Kids และที่ขาดไม่ได้คือฮเยอิน วง NewJeans แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของเมซง ซึ่งยกพลกันไปแดนซ์กระจายในอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่ได้วง LE SSERAFIM มาเพอร์ฟอร์มกันสดๆไปจนดวงอาทิตย์ขึ้นมาสวัสดีวันอาทิตย์สีแดงกันคาตา
Words: Suphakdipa Poolsap