หนังที่เกี่ยวข้องกับโลกแฟชั่นมีมากมายหลายร้อยเรื่อง แต่เชื่อว่าเรื่องที่คอหนังหลายคนถูกใจเป็นอันดับต้นๆ ก็คงเป็นเรื่อง The Devil Wears Prada เพราะไม่ว่าจะด้วยนักแสดง แฟชั่น พล็อตเรื่อง ฉากต่างๆ ก็ยังดึงดูดให้ผู้ชมตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ดูเสมอ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ออกฉายมาแล้วกว่า 18 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในโลกป๊อปคัลเจอร์ที่ผู้คนชื่นชอบและให้ความสนใจอยู่ตลอด ครั้งนี้เราจึงได้รวบรวม 5 เรื่องจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ มาดูกันว่าจะมีข้อไหนที่ทำให้คุณต้องทึ่ง!

1.Anne Hathaway เป็นตัวเลือกที่ 9 ในการรับบท Andrea Sachs
แม้จะดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อว่าจะมีใครเหมาะกับบทนี้ได้มากกว่าเธออีก แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า Anne Hathaway ไม่ใช่ตัวเลือกแรก เพราะตัวเลือกแรกคือนักแสดงสาวอย่าง Rachel McAdams ส่วนตัวเธอนั้นเป็นตัวเลือกคนที่ 9 เสียด้วยซ้ำไป โดยเธออยากแสดงในบทนี้มากจนถึงกับไปเขียนตัวอักษรในทรายที่สวนของสตูดิโอแคสต์ติ้งว่า Hire Me (จ้างฉันเถอะ) แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ได้รับบทนี้ไปจริงๆ และบทนี้ก็กลายเป็นตัวละครสุดไอคอนิกที่ทำให้หลายคนจดจำเธอได้มาจนถึงปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม: ผู้เขียนบทเผยว่า หาก THE DEVIL WEARS PRADA มีภาคต่อ ความสัมพันธ์ของ ANDY และ NATE จะไม่ไปต่อ
2. Meryl Streep เลือกแสดงด้วยวิธี Method Acting
การแสดงด้วยวิธี Method Acting หรือการเข้าถึงบทบาทในการแสดงแม้กระทั่งตอนอยู่นอกจอนั้นมีทั้งเสียงชื่นชมและต่อต้าน บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้เข้าถึงตัวละครได้ดีขึ้น แต่บางคนก็มองว่าทำให้อึดอัดเสียมากกว่า อย่างไรก็ตาม นักแสดงอย่าง Meryl Streep ลองรับบทเรื่องนี้และรักษาคาแร็กเตอร์นางพญาของ Miranda เอาไว้ให้ดีที่สุดด้วยการแสดงเช่นนี้ โดยในวันที่เธอพบกับ Anne Hathaway ในวันแรกเธอก็ทักทายอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง แต่เธอก็บอกว่า “นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันดีกับเธอ” อย่างไรก็ตาม หลังจากการแสดงเรื่องนี้จบลงเธอก็ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้การแสดงแบบนี้อีก เพราะตัวละครของ Miranda Priestly ทำให้เธอรู้สึกเครียดและซึมเศร้า ในกองถ่ายเธอไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับเหล่านักแสดงคนอื่นๆ เท่าใดนัก ซึ่งเธอก็มาเปิดเผยหลังจากนั้นว่า เธอเศร้าและก็ต้องปลอบตัวเองว่า ‘ชีวิตเจ้านายก็แบบนี้แหละ’
“ตอนที่ฉันเจอ Meryl เธอกอดฉัน ฉันก็แบบ ‘โอ้พระเจ้า เราต้องมีช่วงเวลาที่ดีในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้แน่ๆ’ แล้วเธอก็แบบ ‘โอ้ที่รัก นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะทำดีกับเธอ'”
Anne Hathaway เล่าถึงประสบการณ์ตอนที่เธอถ่ายหนังกับ Meryl Streep

นอกจากนี้ Meryl ก็ยังเป็นคนเลือกทำผมสีเงินและเลือกออกแบบวิธีการแสดงของตนเอง เพราะทีแรกเธอคิดว่าตัวละครอาจจะต้องส่งเสียงดังเพื่อให้คนเกรงกลัว แต่เมื่อเธอได้เห็นนักแสดงในตำนานอย่าง Clint Eastwood เธอจึงเล่าว่า “เขาไม่เคยขึ้นเสียงเลย แต่เขาพูดเบาๆ ในห้องและทุกคนต้องเอียงตัวมาฟัง เท่านั้นแหละ เขาก็กลายเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดเลยล่ะ” นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมตัวละคร Miranda ถึงพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบ แต่กลับมีความน่าเกรงขามและทรงพลังนั่นเอง
3. ตัวละครต้นฉบับของ Emily ไม่ใช่คนอังกฤษ
การแคสต์ติ้งตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องน่าเหลือเชื่อมากมาย ทั้งนักแสดง Anne Hathaway ที่เป็นตัวเลือกที่ 9, Stanley Tucci กับบทบาทไนเจลก็เพิ่งเซ็นสัญญาก่อนที่จะถ่ายฉากแรกเพียง 3 วัน หรือแม้แต่ Meryl เองก็เกือบไม่รับแสดงหนังเรื่องนี้ รวมไปถึงตัวละครเอมิลี่ที่ได้ Emily Blunt นักแสดงสาวชาวอังกฤษมารับบทเลขาที่เดิมทีแล้วเป็นสาวอเมริกัน ซึ่งในขณะนั้นเธอก็ได้รับสายให้ไปแสดงหนังเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่องแล้ว แต่เธอก็มาแคสต์ The Devil Wears Prada ด้วยสำเนียงบริติช พร้อมกับชุดยีนส์สบายๆ กับรองเท้าแตะ เพราะเธอกำลังจะรีบไปขึ้นเครื่องกลับลอนดอน ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับโดนใจโปรดิวเซอร์อย่างจัง เธอจึงได้รับเลือกให้เป็นเอมิลี่ในที่สุด

4. ไม่ใช่นักแสดงทุกคนจะได้เดินทางไปถ่ายทำที่ฝรั่งเศสเหมือนกับฉากในหนัง
ทั้งๆ ที่ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและกลายเป็นหนังแฟชั่นขึ้นหิ้งที่คนทั่วโลกรู้จัก แต่เบื้องหลังของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะหนังเรื่องนี้มีงบประมาณถ่ายทำที่ค่อนข้างจำกัด ทางสไตลิสต์เองก็ต้องใช้คอนเน็กชั่นหลายอย่างในการหยิบยืมเสื้อผ้าเพื่อมาใช้ในหนังเพื่อให้สมฐานะของบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นอย่างดีที่สุดแม้เดิมทีจะมีงบประมาณเริ่มต้นเพียง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3.5 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เพื่อผลลัพธ์ของงานที่ดีที่สุด สุดท้ายแล้วงบประมาณของคอสตูมในเรื่องนี้ก็จำต้องเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 35 ล้านบาท)

ในขณะเดียวกัน ฉากจบของเรื่องที่อยู่ปารีส ไม่ใช่นักแสดงทุกคนจะได้บินไปถ่ายทำที่ฝรั่งเศส ตัวนักแสดง Meryl ก็ไม่ได้บินไปปารีส เพราะพวกเขาถ่ายทำในสตูดิโอในสหรัฐอเมริกาแทน จะมีแค่ตัวนักแสดง Anne Hathaway, Simon Baker ผู้รับบท Christian Thompson และทีมงานบางคนเท่านั้นที่ได้ไปฝรั่งเศส

5. “Everybody wants to be us.” มาจากไอเดียของ Meryl Streep
ในวันครบรอบ 10 ปีของภาพยนตร์เรื่องนี้ เหล่านักแสดงและทีมงานมาพบปะกันเพื่อเฉลิมฉลองอีกครั้ง และพวกเขาก็เล่าว่าประโยคในตำนานในหนังอย่างคำว่า “อย่าโง่ไปหน่อยเลยแอนเดรีย ใครๆ ก็อยากได้ชีวิตแบบนี้ ใครๆ ก็อยากเป็นเหมือนพวกเรากันทั้งนั้น” มาจากคำแนะนำของ Meryl เพราะเดิมทีบทในฉากนี้จะเป็นคำว่า “ใครๆ ก็อยากเป็นเหมือนฉัน” แต่ตัวเธอกลับมองว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นประโยคนี้น่าจะดีกว่า และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ เพราะถ้าหากพูดถึงประโยคเด็ดในหนังเรื่องนางมารสวมปราด้า ใครๆ ก็จำประโยคนี้ได้กันทั้งนั้น!
