เจาะลึกเรื่องราวของ ‘ลิปสติก’ เฉดสีไหนกำลังมา หรือฟินิชชิ่งลุคไหนปังสุด รวมไว้ให้แล้ว!

เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูกาลที่ชวนตื่นเต้นกับลุคใหม่สีใหม่ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 แอลขอพาไปเจาะลึกเรื่องราวของบิวตี้ไอเท็มสุดโปรดอย่าง ‘ลิปสติก’ ทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เนื้อสัมผัสที่เปลี่ยนไป เฉดสีไหนกำลังมา หรือฟินิชชิ่งลุคไหนปังสุด แอลรวมไว้ให้แล้วที่นี่

What Next in Lipstick?

ก่อนจะเข้าสู่เรื่องสีสัน แอลพาไปอัพเดตเรื่องเทคโนโลยีกันก่อน หากย้อนกลับคุณจะจำได้ ลิปสติกน่ะมีให้เลือกไม่กี่เนื้อสัมผัสหรอก แต่ในยุคที่วงการความงามสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ก็นับเป็นประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอย่างเราที่มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น การเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวริมฝีปากด้วยลิปสติกแท่งเดียวพร้อมเฉดสีที่ถูกใจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมยังมีข้อดีทำให้เราได้ลดขั้นตอนการทาลิปสติกโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความแห้งกร้านระหว่างวันเพราะเทคโนโลยีสุดล้ำที่ผสานส่วนผสมคุณค่าบำรุงต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นสูตรที่มีกรดไฮยาลูโรนิก วิตามินอี และน้ำมันสกัดจากพืช เพื่อช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นพร้อมกับให้สีสันที่ติดทนยาวนานขึ้น

ปีนี้ Dior Beauty นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ผ่าน Dior Lip Glow ที่ทางแผนกใช้ความพยายามนานถึง 20 ปีในการศึกษาวิจัยและคิดค้นเรื่องนี้ จุดเด่นอยู่ที่ช่วยขับเน้นค่า pH ตามธรรมชาติของริมฝีปากและสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อทาตามโทนสีธรรมชาติเฉพาะบุคคล เรียกว่าตอบโจทย์การแต่งหน้าแนว minimal beauty สำหรับใครที่ต้องการสีสันแบบไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยเราเลือกลิปสติกให้เหมาะกับโทนผิวผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ง่ายขึ้นในการตัดสินใจซื้อ

Which Texture is Right for Me?

สิ่งที่เน้นย้ำสเตตเมนต์ในซีซั่นนี้คือการถ่ายทอดความเรียบง่าย สบายมากขึ้นทั้งในมุมแฟชั่นและความงามที่ดูเหมือนว่าความแวววาวบนริมฝีปากกำลังกลับคืนมาหลังปล่อยให้ริมฝีปากสีแน่นสดชัดมาพักใหญ่ ก็ถึงเวลาของ ‘ลิปกลอส’ ที่เน้นประกายฉ่ำวาวผิวริมฝีปากดูชุ่มชื่น เน้นความอวบอิ่ม ส่วน ‘ลิปแมตต์’ ยังไม่จางหายไปไหนแต่กลายเป็นตัวเลือกคลาสสิกที่สามารถหยิบขึ้นมาทาได้ทุกวัน

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือเนื้อสัมผัสสไตล์ hybrid ขออธิบายสั้นๆ ว่าคือลูกผสมระหว่างเนื้อสัมผัสต่างๆ ของลิปสติกที่มีตัวเลือกมากขึ้น บางคนอาจจะไม่ชอบความแมตต์ที่ดูแห้งเกินแต่อยากให้มีสัมผัสนุ่มๆ เจือบ้าง หรือเนื้อสัมผัสแบบบาล์มกึ่งลิปสติกที่สามารถใช้ง่ายใช้ได้ทุกวัน ลิปสติกเนื้อสัมผัสนี้เองที่ตอบโจทย์เพราะหลายๆ แบรนด์ต่างคิดค้นสร้างสรรค์ความสวยนี้ให้ตอบทุกโจทย์ความต้องการ อย่างลิปสติกรุ่นใหม่ Rouge Dior Veil มาในเนื้อสัมผัสแบบเวลหรือฟินิชเวลที่เบานุ่มหรูหรา ช่วยเบลอริมฝีปากให้ดูเรียบเนียน เพิ่มระดับความเข้มของเฉดสีได้ตามต้องการ

Trends to Wear Now!

เมกอัพอาร์ติสต์ระดับโลกหลายคนต่างก็ลงความเห็นว่าเฉดสีมาแรงสำหรับการแต่งหน้าในฤดูกาลนี้ต้อง Latte Make-up สิถึงจะอินสุดๆ เคียงไปกับสีประจำปี 2025 อย่าง mocha mousse แม้เฉดสีน้ำตาลจะถูกจัดอยู่ในหมวดคลาสสิกตลอดกาล แต่ความสนุกอยู่ที่การเพิ่มเติมรายละเอียดและแบ่งแยกประเภทให้น่าสนใจขึ้น การแต่งหน้าแนวสีเอิร์ทโทนยังคงมาแรงแต่ถูกลดทอนให้ดูสบายขึ้นเพื่อให้เข้ากับฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และยังเป็นเฉดสีที่เข้ากันได้ดีกับทุกโทนผิว ลิปสติกเฉดสีนู้ด สีชมพูอ่อน และสีน้ำตาลถูกปรับโหมดให้ดูนุ่มนวลด้วยเทคนิคการใช้นิ้วมือหรือแปรงเกลี่ยขอบปากให้ดูเบลอๆ ไม่ต้องคมชัดจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

เฉดสีลิปสติกมาแรงที่แอลอยากให้ลอง

• Cherry Red สีเชอร์รี่ไม่ว่าจะผสานโทนสีแดงหรือน้ำตาล
• Bubblegum Pink เฉดสีสุดป๊อปที่ปรับมู้ดให้ดูอ่อนหวาน
• Metallic Accent เติมประกายกลิตเตอร์นิดๆ ให้ริมฝีปากโดดเด่น

Get the Look!

เริ่มจากเฉดสีมาแรงบนริมฝีปากกับสี Cherry อย่างบนรันเวย์โชว์ของ Versace ที่ทำให้เราเห็นภาพการทาลิปสติกเฉดสีเชอร์รี่เจือสีน้ำตาลเข้มดูง่ายขึ้น เพิ่มความมั่นใจ แถมยังช่วยขับผิวให้ดูสว่าง Stella McCartney กับริมฝีปากเฉดสีน้ำตาลที่เสริมลุคในโชว์นี้ให้ดูคลาสสิกและหรูหรา หรือจะใช้สีน้ำตาลคลาสสิกนี้มาครีเอตลุคหวานเหมือนบนรันเวย์โชว์ของ Chanel ที่ใช้ลิปกลอสสีนู้ดธรรมชาติมาสร้างความแวววาว ซึ่งก็เป็นอีกเทรนด์ความงามมาแรงบนริมฝีปาก

และการกลับมาของสีชมพูที่หลายๆ สื่อให้นิยามว่า Sandy-Liang Pink ดีไซเนอร์รุ่นใหม่มาแรงกับโชว์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะเมกอัพลุคบนริมฝีปากสีชมพูบับเบิ้ลกัมผ่านเท็กซ์เจอร์แบบแมตต์ ด้วยเทคนิคการใช้ลิปสติกหลากหลายแบรนด์มาเบลนด์กันเพื่อให้ได้สีสันป๊อปนี้ขึ้นมาจนกลายเป็นเทรนด์ใหญ่ประจำฤดูกาลนี้

Easy to Apply: เปิดโหมดเข้าสู่เทคนิคการทาลิปสติกประจำซีซั่นให้โดดเด่น

• เริ่มจาก ‘ลิปกลอส’ ที่กำลังมาแรงสุดๆ เทคนิคการทาลิปกลอสไม่ว่าจะเฉดสีไหนให้เริ่มจากบริเวณกึ่งกลางริมฝีปากไล่ออกไปด้านมุมปากเพื่อให้เนื้อสัมผัสแวววาวกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใครที่เลือกทาลิปสติกสีเข้มแล้วอยากเติมกลอสหน่อยๆ อย่างนางแบบของ Gucci ให้เลือกใช้กลอสแบบใส ริมฝีปากจะได้ดูอวบอิ่มฉ่ำน้ำ

• ส่วนใครที่กำลังกังวลว่าลิปสติกเนื้อแมตต์จะทำให้ริมฝีปากแห้งระหว่างวัน ให้ใช้ลิปบาล์มบำรุงเป็นขั้นตอนแรกก่อนแล้วค่อยทาลิปสติกสีโปรดลงไป เทคนิคนี้จะช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งมาก

• Blurred Lip ยังคงอยู่ในกระแส ลองเลือกลิปสติกเนื้อสัมผัสแบบซอฟต์แมตต์หรือซาตินแมตต์จะช่วยให้ครีเอตลุคนี้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือการใช้นิ้วค่อยๆ แตะลงบนขอบปาก เพราะเราไม่ต้องการความคมชัด ให้นิ้วเป็นอุปกรณ์เกลี่ยสีให้กลมกลืนกับผิว

• ต้องยอมรับว่าเฉดสีชมพูไม่ได้เหมาะกับทุกโทนสีผิว หากอยากทาลิปสติกเฉดสีชมพูลองหาเฉดที่ทำให้ผิวดูสว่างโดยอิงจากอันเดอร์โทนเฉพาะบุคคล ตั้งแต่โทนเย็น โทนอุ่น และโทนกลาง

ELLE Top Picks!

Dior Addict Lip Glow สี Pink (Cool Tone) ลิปบาล์มสูตรใหม่มาพร้อมเฉดสีชมพูสดใส (1,700 บาท) จาก DIOR

Rouge Dior Veil สี 860 Bagatelle สีน้ำตาลที่แฝงอันเดอร์โทนสีแดงสัมผัสแบบเวลเบาสบายผิว (1,850 บาท) จาก DIOR

Rouge Allure Velvet Les Perles สี 447 Naturelle ลิปสติกเนื้อสัมผัสแบบกำมะหยี่เฉดสีนู้ดละมุน (1,950 บาท) จาก CHANEL

Rosy Lip Glossy Enhancer สี Rose Confetti ลิปกลอสผสานเฉดสีชมพูน่ารัก (2,800 บาท) จาก HERMÈS

Lip Shine สี Beige Glace ลิปสติกเนื้อแวววาวผสานกลิตเตอร์เม็ดละเอียด (3,300 บาท) จาก HERMÈS

Lip Glass สี Liquid Lurex ลิปกลาสสุดไอคอนนิกมาในเฉดสีทองเมทัลลิก (1,100 บาท) จาก M.A.C

Pure Color Explicit Slick Shine Lipstick สี Heat of the moment ลิปสติกเฉดสีแดงเชอร์รี่ (1,800 บาท) จาก ESTÉE LAUDER

Lust Gloss™ สี Love Potion ลิปกลอสโทนสีชมพูหวานประกายเมทัลลิก (1,300 บาท) จาก PAT MCGRATH LABS