Thursday, December 12, 2024

เปิด 5 ผลงานของหนุ่ม ‘กงยู’ กับบทบาทการแสดงที่ทำให้เขาขึ้นชื่อว่าเป็นสามีแห่งเอเชีย!

ช่วงที่ผ่านมาเหล่าคอซีรี่ส์เกาหลีคงใจเต้นกันไม่หยุดกับข่าวคราวของนักแสดงหนุ่มสุดหล่อ กงยู ที่กำลังจะบินลัดฟ้ามาจัดงานแฟนมีตพบปะแฟนคลับชาวไทยกันอย่างใกล้ชิด เพราะหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นที่รักจากผลงานบนหน้าจอเท่านั้น แต่ด้วยความน่ารักด้านทัศนคติและการกระทำต่างๆ ก็ทำให้ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฉายา สามีแห่งชาติ หรือสามีแห่งเอเชีย เป็นคำจำกัดความของกงยูได้ดีที่สุด

ซึ่งเดินทางมาใกล้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์กันทั้งที แอลก็ไม่พลาดมารวบรวม 5 ผลงานทั้งฝั่งซีรี่ส์และภาพยนตร์ของหนุ่มคนนี้ให้ทุกคนได้ไปย้อนดูเพิ่มแรงใจกันในวีกเอนด์นี้ก่อนที่จะไปเจอเขาแบบตัวเป็นๆ กันอีกด้วย

Coffee Prince (2007)

พูดถึงผลงานของกงยูทั้งที จะไม่มีซีรี่ส์เรื่อง Coffee Prince (รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ) ก็คงไม่ได้ เพราะเชื่อว่าเหล่าสาวๆ ที่ติดซีรี่ส์กันงอมแงมในทุกวันนี้ต่างก็ต้องโดนพาเข้าวงการจากเรื่องนี้กันทั้งนั้น ซึ่งเรื่องราวความรักและความฝันของวัยรุ่น 4 คนในร้านกาแฟนี่เองที่ทำให้ชื่อเสียงของสื่อเกาหลีใต้กลายเป็นที่พูดถึงในระดับเอเชีย ฝั่งมิดเดิลอีสต์และอเมริกาใต้ จนสร้างปรากฏการณ์ความฮอตที่ไม่ว่าจะฉายซ้ำกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังเป็นที่รักของผู้ชมอยู่เสมอ แถมยังเป็นหนึ่งในผลงานที่ปลุกกระแสการดื่มกาแฟ ที่ทำให้เกาหลีใต้กลายมาเป็นประเทศแห่งคาเฟ่ในทุกวันนี้อีกด้วย

และสำหรับบทชเวฮันกยอล ที่นำแสดงโดยหนุ่มกงยู ก็ไม่ได้โด่งดังน้อยไปกว่าตัวซีรี่ส์ เพราะผลงานนี้ที่โชว์คาริสม่าอย่างเต็มเปี่ยมนี้พาให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมบนเวที MBC Drama Award ในปี 2007 และกลายมาเป็นพระเอกในดวงใจของคนทั่วทั้งเอเชียนับแต่นั้นแม้จะผ่านมาร่วม 17 ปีแล้วก็ตาม

Train to Busan (2016)

ขอตัดภาพไปในปี 2016 ที่หนุ่มกงยูกลับมาสร้างปรากฏการณ์ในวงการบันเทิงเกาหลีใต้อีกครั้งหลังห่างหายจากหน้าจอไปกว่า 3 ปีเต็ม ซึ่งผลงานแรกในปีนี้ที่เราอยากยกมาคือ Train to Busan ภาพยนตร์แอ็กชั่นสยองขวัญที่พลิกบทบาทการแสดงครั้งใหญ่ของเขา และเป็นผลงานที่สร้างชื่อสร้างภาพจำเรื่องซอมบี้ในแบบฉบับของเกาหลีใต้ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่ามีทั้งความดุเดือดและบ้าคลั่งมากเพียงใด

โดยหนุ่มกงยู รับบทเป็น ซอกอู คุณพ่อนักการเงินซึ่งเป็นตัวแทนของคนที่เห็นงานสำคัญกว่าครอบครัว จนกระทั่งถึงวันเกิดของลูกสาววัยประถม ที่เขาตัดสินใจให้ของขวัญเธอเป็นการพาไปเยี่ยมคุณแม่หรืออดีตภรรยาที่ปูซานด้วยการนั่งรถไฟ ซึ่งทำให้พ่อลูกคู่นี้ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ไวรัสซอมบี้แพร่ระบาดที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความกดดันในรถไฟขบวนนี้

ความสำเร็จของ Train to Busan นั้นการันตีด้วยการได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องกว่า 10 นาทีจากการฉายรอบพรีเมียร์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 69 ซึ่งนับเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างกระแสตอบรับร้อนแรงที่สุดจากเหล่านักวิจารณ์ในปีนั้นเลยก็ว่าได้ และในปี 2024 ชื่อภาพยนตร์เทรนทูปูซานก็ยังติดอันดับท็อป 14 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุดตลอดกาลในเกาหลีใต้ด้วยยอดเงินกว่า 93 พันล้านวอนหรือราวๆ 2,400 ล้านบาท

The Age of Shadows (2016)

ถัดจาก Train to Busan ไม่ถึงครึ่งปี ผลงานภาพยนตร์เรื่อง The Age of Shadows หรือ คน ล่า ฅน ในแนวประวัติศาสตร์-แอ็กชั่นทริลเลอร์จากหนุ่มกงยู ก็มาสร้างแรงสะเทือนในวงการหนังเกาหลีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากใครยังไม่เคยดู ต้องบอกว่านี่เป็นตัวแทนเข้าชิงออสการ์จากประเทศเกาหลีใต้ในหมวดหมู่ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ ที่ใครๆ ต่างก็ต้องยอมรับว่าเอาชนะผู้ท้าชิงเรื่องอื่นๆ มาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยเรื่องราวของการต่อสู้กอบกู้เอกราชเกาหลีจากการปกครองของญี่ปุ่นในช่วงปี 1920 หรือจะเรียกว่าเป็นหนังสายลับปลดแอก ที่นำเสนอแนวคิดชาตินิยมผ่านห้วงอารมณ์ของตัวละครอย่างแยบยลก็ว่าได้

ซึ่งถึงแม้กงยูอาจจะถูกจดจำจากเรื่อง Train to Busan มากกว่าในปีนั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นผลงานที่ทำให้กงยูได้โชว์ความสามารถในการเป็นนักแสดงที่เหนือชั้น ด้วยสีหน้า แววตา การสื่ออารมณ์ที่แตกต่างไปจากผลงานอื่นๆ ที่มักมาในแนวอบอุ่น และถูกยอมรับในฝีมือขึ้นไปอีกขั้นนั่นเอง

Guardian: The Lonely and Great God (2016)

ส่วนทางฝั่งซีรี่ส์ส่งท้ายในปี 2016 ลากยาวจนมาถึง 2017 นักแสดงหนุ่มคนนี้ก็มาสร้างปรากฏการณ์ความไวรัลได้อย่างน่าประทับใจไม่ต่างกัน กับผลงานโรแมนติกแฟนตาซีเรื่อง Guardian: The Lonely and Great God หรือที่ทุกคนเรียกติดปากกันว่า Goblin ซึ่งหนุ่มกงยู มารับบท คิมชิน หรือด็อกแกบี (Goblin ในภาษาเกาหลี) ที่ถูกสาปให้มีชีวิตเป็นอมตะมาแล้วกว่า 939 ปีจนต้องจมอยู่กับความเศร้าที่คนรอบตัวต้องจากไปเรื่อยๆ โดยแสดงนำร่วมกับอีกสองนักแสดงมากความสามารถอย่างคู่หูยมทูต อีดงอุค และนางเอกสาวคิมโกอึน ผู้ปลดคำสาปนี้

จากการรวมเอาเรื่องราวทั้งความรักที่กินใจ ความแฟนตาซีจากตำนานเทพเจ้า การนำประวัติศาสตร์ชาติมาผสมผสานได้อย่างกลมกล่อม และที่สำคัญคือการถ่ายทอดองค์ประกอบเหล่านี้ผ่านฝีมือของเหล่านักแสดง จึงทำให้ซีรี่ส์ Guardian: The Lonely and Great God ดังเปนพลุแตกด้วยความสดใหม่ของตัวบทจนขึ้นชื่อว่าเป็นซีรี่ส์แรกที่สามารถคืนกำไรในรอบ 10 ปีของสถานีโทรทัศน์ tvN จากเรตติ้งกว่า 14.633% ซึ่งยังครองอันดับท็อป 6 ในปี 2024 ได้ แถมหนุ่มกงยูยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวละคร คิมชิน เป็นบทที่ดีที่สุดสำหรับเขา และจนถึงตอนนี้ กอบลิน ก็ยังกลายเป็นชื่อเล่นของกงยูตลอดมา

Kim Ji-young: Born 1982 (2019)

สุดท้ายกับผลงานเรื่อง Kim Ji-young: Born 1982 ภาพยนตร์จากหนังสือนิยายเรื่อง คิมจียอง เกิดปี 82 ที่สร้างแรงกระเพื่อมด้านสิทธิสตรีไปทั่วทั้งเกาหลีจากเรื่องราวของเพศหญิงที่ถูกกดทับโดยไร้ซึ่งอำนาจในการต่อสู้ตั้งแต่เกิด โดยถึงแม้ว่าตัวหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็น จองยูมี ที่มาถ่ายทอดชีวิตนามว่าคิมจียอง แต่หากกล่าวถึงหนึ่งในบทของกงยูที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในสายตาแฟนคลับแล้ว จองแดฮยอน สามีของคิมจียอง อาจจะเป็นชื่อตัวละครที่ขึ้นมาในหัวของใครหลายคนก็เป็นได้

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าเกาหลีใต้เป็นประเทศที่อยู่กันด้วยระบบชายเป็นใหญ่ซึ่งฝังรากลึกมานาน จนทำให้ผู้คนมักมองเรื่องการกดขี่เพศหญิงไม่ว่าจะในบทบาทลูกสาว พนักงาน ภรรยา ลูกสะใภ้ หรือในร่างของมนุษย์คนหนึ่งเป็นเรื่องธรรมดาไป การที่นักแสดงชายระดับท็อปของชาติมาแสดงนำในภาพยนตร์ที่ต่อต้านระบบปิตาธิปไตยนี้จึงเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองในกว้างด้วยความกล้าหาญ เพราะนี่เปรียบเสมือนการประกาศว่าเขาเป็นชายเกาหลีที่สนับสนุนแนวคิดฝั่งเฟมินิสต์ ซึ่งกงยูก็ยังถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า จากที่ปกติเขามักใช้เวลาคิดนานในการเลือกรับบทใดบทหนึ่ง แต่สำหรับเรื่องนี้ เขาตกลงโดยทันที

และอันที่จริงตัวละครหรือผลงานต่างๆ ที่ทำให้ผู้ชมจำภาพของนักแสดงหนุ่มคนนี้ได้ก็ยังมีอีกมาก จนกล่าวได้ว่าเส้นทางในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ของเขาเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงคนหนึ่งตามที่หลายๆ คนอยากเป็น ซึ่งแฟนคลับที่มีอยู่มากมายทั่วโลกก็น่าจะรอคอยผลงานเรื่องต่อไปของเขาอยู่อย่างแน่นอน

Latest Posts

Don't Miss