อีกหนึ่งโชว์ในมิลานแฟชั่นวีกที่เหล่าสายแฟต่างจับจ้องคงหนีไม่พ้น Bottega Veneta ซึ่งได้เปิดฉากการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านผลงานแรกของ Louise Trotter ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนล่าสุด อีกทั้งยังเป็นดีไซเนอร์หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เผยเดบิวต์คอลเล็กชั่นในซีซั่นนี้ ท่ามกลางฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนเก้าอี้หัวเรือของหลากหลายแบรนด์อีกด้วย และนี่คือเรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านคอลเล็กชั่น Summer 2026 ที่แอลไม่อยากให้ทุกคนพลาด

Louise Trotter’s Bottega
หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการประกาศแต่งตั้ง Louise Trotter ขึ้นเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนใหม่ของ Bottega Veneta ผู้จะมารับไม้ต่อจาก Matthieu Blazy ซึ่งได้ทำผลงานออกมาอย่างดิบดีเสมอ และนั่นก็ทำให้เธอกลายมาเป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางเหล่าอำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ในเครือ Kering อีกด้วย Louise มีเวลากว่า 9 เดือนในการเตรียมตัวสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ และในที่สุดเธอก็พร้อมแล้วที่จะสานต่อเรื่องราวของ Bottega Veneta และเผยทิศทางต่อไปในการก้าวนำของเธอ ซึ่งสิ่งแรกที่เธอได้เผยในโน้ตสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ก็คือ
“ฉันชอบที่คำว่า Bottega แปลว่า เวิร์กช็อป สถานที่ซึ่งเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและหลากหลายในอิตาลี มันคือความพยายามร่วมแรงกันของงานฝีมือ ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้รังสรรค์หรือผู้สวมใส่ต่างก็สำคัญทั้งสิ้น นี่คือที่ที่มือและใจกลายเป็นหนึ่งเดียว”
Louise Trotter – Collection Notes

At Bottega Veneta, We Speak ‘Intrecciato’
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามฉันใด เข้ามาที่ Bottega Veneta ก็ต้องพูดภาษา Intrecciato ด้วยฉันนั้น และสำหรับ Louise Trotter เธอก็ได้ตีความหนังถัก Intrecciato ว่าไม่ใช่เพียงเทคนิคการถักแถบสองแถบเข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการอุปมาอุปไมยที่สื่อความหมาย เมื่อสองสิ่งที่ต่างที่มาและเรื่องราวได้สอดผสานกันกลายเป็นความแข็งแกร่งกว่าเคย ซึ่งความคิดสร้างสรรค์และการร่วมแรงร่วมใจกันนี้ก็ได้ปรากฏอยู่บนหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์อย่างยาวนาน




และด้วยคุณสมบัติของการสานหนังที่สามารถจะปรับรูปและขึ้นรูปได้นี่เองที่ทำให้การสานหนังไซซ์คลาสสิกได้ถูกนำกลับมาอีกครั้งพร้อมปรับให้เข้ากับยุคสมัยยิ่งขึ้น ปรากฏอยู่ทั่วทุกอณูของคอลเล็กชั่นนี้นับตั้งแต่หัวจรดเท้า และผสมผสานกับวัสดุอื่นได้อย่างลงตัว ตอกย้ำจิตวิญญาณของความ ‘อ่อนนุ่ม แต่คุ้มค่าต่อการใช้งาน’
Summer and Sensational Fabric
การผสมผสานวัสดุหลากหลายเท็กซ์เจอร์อย่างกลมกล่อมเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่หลายคนคงตกหลุมรักทันทีที่ได้เห็นคอลเล็กชั่นนี้ โดยมีตั้งแต่เทรนช์โค้ตหนังนัปป้า เฟอร์เทียมและผ้าวูลที่ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม ขนฟรินจ์ห้อยระย้า ไปจนถึงชุดราตรีที่ใส่ซับในผ้าฝ้าย พร้อมสร้างเสียงตะโกนให้กับคอลเล็กชั่นนี้ด้วยเส้นใยไฟเบอร์กลาสที่ทำให้ไม่ว่าโมเดลของเราจะเคลื่อนไหวไปทางไหนก็เล่นแสงระยิบระยับจนไม่อาจละสายตาได้! แน่นอนว่าวัสดุนานาชนิดเหล่านี้ได้ถูกนำมาร้อยเรียงกับผ่านการตัดเย็บสุดพิถีพิถันสไตล์อิตาเลียนแบบต้นตำรับงานเทเลอร์ของสุภาพบุรุษเลยทีเดียว




Classes of Bags
เมื่อจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Bottega Veneta คือกระเป๋า เราจึงเหมือนได้เข้าคลาสเรียนประวัติศาสตร์กระเป๋า 101 อีกครั้ง ผ่านการหยิบเอาสไตล์สุดคลาสสิกต่างๆ ให้ฟื้นคืนขีพขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Lauren ในสัดส่วนใหม่, กระเป๋า Knot ที่มาพร้อมซิลูเอ็ตนุ่มนวล, กระเป๋า Cabat ซึ่งถูกลดทอดมาสู่คลัตช์ได้ ขณะที่ส่วนฐานสามเหลี่ยมของกระเป๋านี้ก็ได้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบช่วงไหล่ของเสื้อผ้าในคอลเล็กชันอีกด้วย





’66 – ’76 Soundtrack
หากจะไม่พูดถึงดนตรีประกอบโชว์ในครั้งนี้ก็ดูจะเป็นการมองข้ามความตั้งใจจะถ่ายทอดผลงานศิลปะนี้ให้สมบูรณ์แบบเกินไป เพราะโชว์นี้ได้คว้าตัวเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Steve McQueen มาทำดนตรีให้ โดยเขาได้ตีความว่าแฟชั่นโชว์ในปัจจุบันนี้ก็เปรียบได้กับละครโอเปร่าในยุคปัจจุบัน โดยมีดนตรีช่วยยกระดับอารมณ์ของผู้คนให้เข้าถึงเสื้อผ้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็นดนตรีประกอบที่มีชื่อว่า ’66 – ’76
ความพิเศษของเพลงนี้คือการผสมผสานเสียงร้องและดนตรีบรรเลงจากเพลง Wild is the Wind ซึ่งบันทึกเสียงโดย Nina Simone ในปี 1966 และ David Bowie ในปี 1976 ซึ่งแม้จะมีที่มาและช่วงเวลาที่แตกต่างกันถึง 10 ปี แต่เสียงของพวกเขาก็ได้สอดประสานกันอย่างละเมียดละไมประหนึ่งเป็น ‘การสาน Intrecciato แห่งเสียง’ และแน่นอนว่าเมื่อเห็นปี 1966 แล้วก็จะนึกถึงสิ่งอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากปีที่ก่อตั้งแบรนด์ Bottega Veneta ขึ้นมา และคอลเล็กชั่น Summer 2026 นี้ก็ถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากได้เจาะลึกเรื่องราวที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่เบื้องหลังทุกการสานสายใย (และเส้นใย) จนกลายมาเป็นคอลเล็กชั่น Summer 2026 ผลงานเดบิวต์ของ Louise Trotter ที่ Bottega Veneta เรียกได้ว่านอกจากจะสะกดทุกสายตาแล้วยังอัดแน่นไปด้วยความน่าสนใจ และนี่คือทุกลุคส่งตรงจากรันเวย์ที่แอลได้รวบรวมมาให้ทุกคนแล้ว











































































