เมื่อศิลปะได้หลอมรวมกับหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกจนเรียกได้ว่าความสวยงามต่างๆ ที่เราเห็นอยู่ในชีวิตประจำวันเราไปแล้วทั้งชิ้นงาน นิทรรศการต่างๆ ภาพยนตร์ที่เราดู รวมถึงการเข้าถึงวงการแฟชั่นอย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งอีกหนึ่งความน่าสนใจอย่างการเกิดคอลลาบอเรชั่นระหว่างศิลปินกับชิ้นงานต่างๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้แอลเลยอยากพาทุกคนมาชม 5 ผลงานคอลลาบอเรชันสุดคาดไม่ถึงระหว่างแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกับศิลปินชื่อดังระดับโลก บางเรือนพลิกกฎของกลไกการออกแบบ บางเรือนระเบิดสีสันแห่งจินตนาการ และบางเรือนเผยแนวคิดลึกซึ้งของศิลปะร่วมสมัย ไปดูกันว่ามีโปรเจ็กต์ไหนที่เปลี่ยนนาฬิกาให้กลายเป็นงานศิลป์บนข้อมือบ้าง?
#1 Audemars Piguet x KAWS
Brian Donnelly หรือที่รู้จักกันในชื่อ KAWS เป็นศิลปินชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างสรรค์สไตล์ศิลปะที่ฉีกออกจากกฎเกณฑ์และมีความโดดเด่นของความล้ำอนาคต ซึ่งเขามีลายเซ็นเด่นชัดจากคาแร็กเตอร์ ตาเป็นกากบาท (XX) และการดัดแปลงตัวการ์ตูนหรือไอคอนในวัฒนธรรมป๊อป ซึ่งเขาได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักสะสมและผู้ที่คลั่งไคล้ในงานศิลป์ล้ำสมัยของยุคปัจจุบัน จากแนวคิดและสไตล์การสร้างสรรค์งานที่ตรงกับทั้ง DNA และความโดดเด่นด้านการสร้างนวัตกรรมของ และในที่สุดก็ได้เกิดผลงานการคอลลาบอเรชั่นกับ Audemars Piguet ที่ทั้งสองขั้วได้มาเจอกันอย่างตัว ซึ่งการเปิดผลงานแรกแห่งความร่วมมือครั้งนี้ ยังใส่ความพิเศษไว้ในนาฬิกาข้อมือรุ่นผลิต โดยได้จำนวนจำกัดเพียง 250 เรือน ด้วยตัวเรือนขนาด 43 มม. ซึ่งไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินจนไม่สามารถใส่เอกลักษณ์ของงานศิลป์จาก KAWS ลงไปได้ ผลงานชิ้นนี้จึงไม่ใช่แค่นาฬิกาแต่คือ ประติมากรรมแห่งเวลา ที่สะท้อนการหลอมรวมระหว่างศิลปะร่วมสมัยกับศาสตร์แห่งเรือนเวลาได้อย่างลงตัว ทุกเส้นสาย สีสัน และรายละเอียดบนหน้าปัดล้วนบอกเล่าตัวตนของ KAWS ในแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้
#2 Franck Muller Crazy Hours
ผลงานจากความร่วมมือที่ถือเป็นก้าวสำคัญครั้งใหม่ของ Franck Muller คอลเล็กชั่นนี้ ถูกนำเสนอที่งาน WPHH อันทรงเกียรติ บนพื้นฐานของเรือนเวลาระดับไอคอน Vanguard Crazy Hours ในตัวเรือน V43 คอลเล็กชั่นสุดพิเศษนี้ถือเป็นการยกย่องแนวคิดอันล้ำสมัยอย่างแท้จริง โดยเน้นย้ำถึงความงดงามอันสนุกสนานที่มีรูปแบบการแสดงเวลาต่างจากเรือนเวลา Crazy Hours เอดิชั่นอื่น ๆ ด้วยการมีวิสัยทัศน์ทางศิลปะของ JISBAR มาส่งเสริมให้เกิดเอกลักษณ์สุดพิเศษ ผ่านดีไซน์หน้าปัดที่ถูกเปลี่ยนโฉมให้เป็นงานศิลปะที่มีชีวิตชีวา รูปลักษณ์ของหลักชั่วโมงแต่ละตัวได้ถูกถ่ายทอดผ่านรูปแบบที่เป็นจักรวาลของ JISBAR ในขณะที่ยังคงรักษาแก่นแท้ของแนวคิดที่ทำให้คอมพลิเคชั่น เครซี อาวร์ส กลายเป็นหนึ่งในไอคอนแห่งวงการนาฬิกา
#3 ALBA x Tikkywow
อีกหนึ่งเรือนเวลาแสนพิเศษที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เกิดจากการร่วมมือระหว่างแบรนด์ กับ Tikkywow หรือ พิเชฐ รุจิวรารัตน์ ได้ถ่ายทอดพลังความสนุกและสีสันอันจัดจ้านผ่านดีไซน์ที่มีชีวิตภายใต้ชื่อ King Kobura โดยชื่อนี้ได้แรงบันดาลใจจากงูเห่า ซึ่งศิลปินนำมาตีความใหม่ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความลื่นไหลและพลังแห่งการเคลื่อนไหว ราวกับเรือนเวลาที่เลื้อยพันอยู่บนข้อมืออย่างมีชีวิต ด้วยลายเส้นคมกริบและโทนสีสดในสไตล์ Japanese city-pop ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ผลงานชิ้นนี้จึงสะท้อนแนวคิด The Reflection of Japan ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ผสมผสานกลิ่นอายของญี่ปุ่นเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ร่วมสมัยของศิลปินไทยได้อย่างน่าประทับใจโดยจำกัดแค่ 800 เรือน
#4 HUBLOT ARSHAM SPLASH
Hublot ได้ต่อยอดจากความสำเร็จของนาฬิกาพกที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรุ่น MP-16 Arsham Droplet สำหรับผลงานล่าสุดนี้ได้กลับมาสร้างนิยามใหม่ให้กับกฎเกณฑ์การออกแบบนาฬิกาอีกครั้งร่วมกับ Daniel Arsham โดยถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากพลังแห่งสายน้ำ รูปทรงตามธรรมชาติ ซึ่งผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง Art of Fusion อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hublot และวิสัยทัศน์ด้านโบราณคดีในเชิงจินตนาการของศิลปิน ซึ่งได้การตีความวัตถุร่วมสมัยให้กลายเป็นเสมือนโบราณวัตถุ เสมือนการเชื่อมต่อระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และนี่คือนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ Daniel Arsham ออกแบบให้กับ Hublot ซึ่งได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์อันสร้างสรรค์ของ Arsham ในทุกรายละเอียดของความโค้งที่ลื่นไหล มาพร้อมตัวเรือนขนาดพอเหมาะ 42 มม. โดยสามารถชื่นชมความงามของกลไกได้ผ่านหน้าปัดแบบเปิดและฝาหลังกระจกคริสตัล แซฟไฟร์
#5 Piaget Andy Warhol
หลังจากที่ Piaget ได้เปิดตัวความร่วมมือกับ Andy Warhol Foundation for the Visual Arts อย่างเป็นทางการ พร้อมตั้งชื่อเรือนเวลาทรงคุชชั่นในตำนานว่า Andy Warhol Watch ไปเมื่อพฤศจิกายนปี 2024 ซึ่งมาปีนี้ Piaget และมูลนิธิได้ต่อยอดความร่วมมืออีกครั้ง ผ่านนาฬิกาแคปซูลคอลเล็กชั่นรุ่นพิเศษ ในชื่อ Andy Warhol Watch ‘Collage’ Limited Edition ซึ่งนอกจากจะผลิตจำกัดเพียง 50 เรือนทั่วโลก ยังถ่ายทอดวิสัยทัศน์และตีความงานศิลป์ของ Andy Warhol ได้อย่างวิจิตรบรรจง ซึ่ง Andy Warhol เป็นศิลปินชาวอเมริกันผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20 และเป็นอีกหนึ่งผู้นำกระแส Pop Art หรือศิลปะที่นำภาพจากวัฒนธรรมสมัยนิยมมาสร้างใหม่ให้กลายเป็นงานศิลป์ โดยความพิเศษของเรือนเวลานี้มาพร้อมตัวเรือนขนาด 45 มม. ผลิตจากเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัต วัสดุล้ำค่าอย่างหน้าปัดที่โดดเด่นด้วยการฝังหินมีค่าถึง 4 ชนิด คัดสรรมาเพื่อรำลึกถึงนาฬิกาของ Warhol ในปี 1973
