หลังจากที่แอลได้ออกเดินทางไปสัมผัสความงดงามของมวลดอกไม้แห่งอัญมณีท่ามกลางพรรณพฤกษาและความงามเขียวขจีที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติซึ่งเป็นต้นกำเนิดสำคัญของแรงบันดาลใจสำหรับ Van Cleef & Arpels และครั้งนี้เมซงก็ได้นำเสนอการรังสรรค์ผลงานเครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกไม้นานาพันธุ์สู่จิวเวลรี่ 2 บทใหม่ ทั้งในคอลเล็กชั่น Flowerlace และ Fleurs d’Hawaï ที่เบ่งบานเหมือนดอกไม้ที่ผลิบานในสวน วันนี้แอลเลยขอรวบรวม 5 จุดเด่นที่ทำให้ Flora Themed Jewelry จาก Van Cleef & Arpels โดดเด่นไม่แพ้คอลเล็กชั่นไหนๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
#1 Flower and Nature Inspiration
ดอกไม้และธรรมชาติเป็นต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จิวเวลรี่ของ Van Cleef & Arpels มานับตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่ง Van Cleef & Arpels นับตั้งแต่ยุคเริ่มต้น โดยเฉพาะจากชิ้นงานที่กลายเป็นดั่งต้นตำรับของเรื่องราวแห่งกวีพรรณพฤกษานี้ อย่าง เข็มกลัดดอกเดซี ในปี 1907 ที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากพฤกษาธรรมชาติ และนำทางมาสู่การรังสรรค์งานหัตถศิลป์เชิงบทกวีที่เชื่อมโยงกับงานออกแบบด้วยโครงร่างอันชดช้อยเป็นธรรมชาติของดอกไม้ ซึ่งถ่ายทอดไว้ในผลงานนับหลังจากนั้นของเมซงมาอย่างต่อเนื่อง และในคอลเล็กชั่นใหม่นี้เมซงได้กลับมาในงานดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
#2 Figurative Jewelry Pieces
เป็นหนึ่งในจุดเด่นของชิ้นงานจิวเวลรี่ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ธรรมชาติ ที่เน้นการถอดต้นแบบความสวยงามอันพลิ้วไหวและอ่อนช้อย ทั้งยังมีมิติมาจากธรรมชาติที่ดูสมจริง อย่าง ลวดลายลูกไม้ของเครื่องประดับ Flowerlace ที่สร้างความประทับใจด้วยเทคนิคการรังสรรค์และนิยามใหม่ของจิวเวลรี่ที่สะกดสายตาได้จากโครงร่างทองแบบเปิดโปร่ง พร้อมชูความโดดเด่นให้กับประกายแสงสีทองอร่ามที่เจิดจรัสคู่กับอัญมณีน้ำงามอย่างเพชรได้อย่างกลมกลืน ด้วยต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจที่ได้มาจากเส้นโค้งชดช้อยเหมือนกับขดม้วนของริบบิ้นซึ่งจัดวางเรียงร้อยกันกลายเป็นวงกลีบดอก ขณะเดียวกันก็เน้นเผยโครงสร้างที่ให้ความรู้สึกได้ถึงความบางเบา ช่วยให้สวมใส่ได้สบายราวกับเป็นส่วนหนึ่งของผิวกาย คอลเล็กชั่นนี้จึงสะท้อนถึงความเป็นแฟชั่นและจิวเวลรี่ที่นำเสนอคู่กันเป็นดั่งศิลปะแห่งงานตัดเย็บภายในจิวเวลรี่ได้อย่างลงตัว
#3 Variety of Floral Interpretations
เมซงได้สร้างสรรค์คอลเล็กชั่นเครื่องประดับและเรือนเวลาแห่งดอกไม้ไว้มากมาย ทั้ง Frivole, Fleurette, Pâquerette, Lotus, Rose de Noël, Socrate, Cosmos และนาฬิกา Enchanted Nature ตลอดจนผลงานรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงที่ต่างก็มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและถ่ายทอดความอ่อนช้อยงดงามของมวลดอกไม้
#4 New Flowerlace
ตีความใหม่มาจากชิ้นงานมรดก อย่างเข็มกลัด Silhouette ช่วงปลายทศวรรษ 1930 และคอลเล็กชั่น Flowerlace High Jewelry ที่เปิดตัวในปี 2007 กับเวอร์ชั่นล่าสุดของการตีความดอกไม้อันเปลือยโปร่งสะท้อนความบางเบาราวกับริบบิ้น ผสมผสานกับศิลปะงานตัดเย็บของแฟชั่นกูตูร์เข้ากับความมิติและการเคลื่อนไหวมาสู่ความสุกสกาวครั้งใหม่ของโครงกลีบดอกไม้ทองเรืองรองและประดับเพชรที่นับเป็นไฮไลต์ของคอลเล็กชั่นใหม่ซึ่งเปิดตัวในปีนี้
#5 Vibrant Fleurs d’Hawaï
อีกหนึ่งคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ที่สะท้อนแรงบันดาลใจของสวนดอกไม้แห่งฮาวายที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสและมีชีวิตชีวา ด้วยชิ้นงานเครื่องประดับรูปทรงดอกไม้ ตกแต่งด้วยกลีบดอกไม้ด้วยอัญมณีสีทรงหยดน้ำ ทั้ง ซิทริน แอเมทิสต์ โรโดไลต์ อะความารีน และเพอริดอต ตัดกับพวงเกสรประดับเพชร ไฮไลต์ของคอลเล็กชั่นนี้ต้องยกให้กับเครื่องประดับซ่อนเวลาแบบ Secret ที่สามารถพลิกแพลงรูปแบบการสวมใส่ได้หลากหลาย ทั้งเป็นนาฬิกาข้อมือ เข็มกลัด และจี้ ช่วยให้เลือกรูปแบบการใส่ได้เข้ากับลุคที่หลากหลายและมีสไตล์สร้างสรรค์เฉพาะตัว
