เพราะหนึ่งวันพันเหตุการณ์ที่แท้จริง รู้ตัวอีกทีเราก็กลายเป็นนักสะสมไปเสียแล้ว ทั้งสะสมความเครียด ความวิตกกังวล กลัว ผิดหวัง เสียใจ รวมทั้งความโกรธความเกลียดได้ตลอดเวลา ไม่แปลกใจใครๆ ก็เป็นเดอะแบกที่หัวร้อนง่าย หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ความเครียดทำให้เกิดโรค ที่ทุกวันนี้ก่อโรคในตัวเราเพียบ ทั้งโรคทางใจ ไปจนถึงโรคทางกาย ‘Healing’ หรือการบำบัดจึงเป็นทั้งศาสตร์และกิจกรรมที่ช่วยบำบัดเยียวยาผู้คนที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้รับพลังงานดีๆ ที่ช่วยฮีลลิ่งฮีลใจ หลายศาสตร์ยังช่วยปรับเปลี่ยนแนวคิด (mindset) ในชีวิตประจำวันของใครหลายคนได้อย่างดี ส่งท้ายปีนี้แอลจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 5 กิจกรรม healing ฮีลใจ กับแนวคิดหลักเบื้องต้นในการฮีลที่จะพาให้ทุกคนกลับมาใจฟูอีกครั้งกัน
Sound Healing
เป็นกิจกรรมฮีลลิ่งที่กำลังมาแรงมาก เราจะเห็นการใช้ Himalayan singing bowl หรือหลายคนรู้จักในนาม Tibetan Bowl หรือขันทิเบต ซึ่งทำจากโลหะที่ผสมกันแตกต่างไปตามแต่ละผู้ผลิต และขันอีกประเภทได้แก่ Crystal Bowl หรือขันคริสตัล ทำจากคริสตัลที่แตกต่างและให้เสียงที่ต่างกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรีอื่นๆ ประกอบ ขึ้นอยู่กับนักบำบัด แต่อยู่บนพื้นฐานแห่งการบำบัดเดียวกัน คือการใช้ความสั่นสะเทือนจากคลื่นเสียงจากขนาดของขัน คริสตัล หรือเครื่องดนตรีที่แตกต่างกัน ส่งเข้าสู่ร่างกาย ผ่านทั้งของเหลวและกล้ามเนื้อจึงรู้สึกผ่อนคลาย เบาสบายตัว นอกจากนี้คลื่นเสียงจะส่งความสั่นสะเทือนนั้นเข้าสู่คลื่นสมองในระดับลึก ที่ทำให้เกิดกระบวนการผ่อนคลาย ภาวะอารมณ์ความคิดที่ตึง เครียด ว้าวุ่นและเต็มไปด้วยความคิดเชิงลบค่อยๆ เบาสบายคลายลง ทั้งนี้มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่าเสียงบำบัดมีส่วนช่วยลดอาการเจ็บป่วยทางใจ และอารมณ์ได้อย่างดี อาทิ อาการสมาธิสั้น นอนไม่หลับ ความเครียดสะสม เป็นต้น
Crystal Healing
เราอาจจะได้ยินคำว่าหินเสริมดวงกันอยู่บ่อยๆ แต่ความจริงแล้วศาสตร์แห่งการบำบัดด้วยหินหรือคริสตัล นั้นแพร่หลายมายาวนานแล้ว ซึ่งช่วยบำบัดเยียวยาภาวะอารมณ์ความรู้สึกในจิตใจ ผสานศาสตร์และองค์ความรู้ทางด้านพลังงาน โดยหินหรือคริสตัลที่กำเนิดพร้อมโลก ด้วยกระบวนการและฟอร์มตัวเป็นเวลานานจึงมีพลังงานสะสมภายในตัวของมันสูงและเฉพาะตัว ด้วยเหตุนี้นักบำบัดด้วยหิน จะเลือกหินแต่ละชนิดแต่ละสีเพื่อการบำบัดต่างกัน โดยมากจะเชื่อมโยงร่างกายและจิตใจผ่านระบบจักระทั้ง 7 ของเรา (สามารถเทียบกับการทำงานคล้ายต่อมไร้ท่อในร่างกาย) โดยวางหินตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อฮีล หรือสวมใส่เครื่องประดับหินในวันที่ต้องการฮีลร่างกายและจิตใจเรื่องนั้นๆ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการใช้ศาสตร์อื่นร่วมกับการ crystal healing อีกด้วย Crystal Reiki Healing
Color Therapy
การมองเห็นสีที่แตกต่างกันนั้นจะทำงานมีปฏิกิริยาโดยตรงกับต่อมไพเนียลต่อมไร้ท่อในสมองเรา มีส่วนสำคัญเกี่ยวกับภาวะอารมณ์ที่ช่วยยับยั้งอารมณ์ซึมเศร้า ช่วยเรื่องการนอนหลับได้ดี ซึ่งสีที่ใช้บำบัดแบ่งง่ายๆ เป็นโทนสีร้อน เช่น แดง ส้ม เหลือง ม่วง ทำให้เราสดใส กระตือรือร้น ช่วยกระตุ้นความเจริญอาหารได้ด้วย ส่วนสีโทนเย็น เช่น น้ำเงิน เขียว ฟ้า ที่ช่วยสร้างความสงบ สมาธิ ผ่อนคลาย แม้ทฤษฎีสีบำบัดจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ปัจจุบันศาสตร์แห่งสีได้นำกลับมาใช้และเป็นเครื่องมือหนึ่งในการบำบัดอีกหลากหลายโปรแกรมฮีลลิ่งฮีลใจที่ได้ช่วยผ่อนคลายได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคลาสสีน้ำเพื่อการบำบัด การใช้ทฤษฎีสีร่วมกับศาสตร์ของกลิ่น อาหารบำบัด คริสตัลหรือหินบำบัด นักจิตบำบัดด้วยสี รวมทั้งเราสามารถเลือกใช้สีในชีวิตประจำวัน ผ่านการแต่งตัวจากเสื้อผ้า เครื่องประดับ ส่วนผสมในอาหารก็เป็นการบำบัดทั้งกายใจของเราเองได้ง่ายๆ อีกด้วย
Card Reading
หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้ไพ่เพื่อทำนายดูดวงสำหรับสายมู แต่ต้องบอกว่าความจริงแล้วการอ่านไพ่กลายเป็นหนึ่งในศาสตร์แห่งการบำบัด และมักใช้ร่วมกับการบำบัดอื่นๆ อีกด้วย เช่น การเปิดไพ่หลังการ Sound Healing หรือ Reiki เป็นต้น นักอ่านไพ่หลายคนดึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในไพ่ทาโรต์ (Tarot) นอกจากการทำนายดวงตามฟังก์ชั่นทั่วไป ยังดึงความหมายอื่นออกมาช่วยในการฮีลทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ปัจจุบันไพ่ออราเคิล (Oracle) หรือไพ่คำทำนายยังมีหลากหลายสำรับที่ครีเอทมาแตกต่าง และสามารถนำมาใช้เพื่อฮีลลิ่งฮีลใจได้อีกมากมาย เช่น ไพ่ออราเคิลจักระ ไพ่ออราเคิลสีบำบัด ไพ่ออราเคิลคริสตัล ไพ่โยคะบำบัด ไพ่ออราเคิลสารเคมีแห่งความสุข เป็นการฮีลระหว่างนักอ่านไพ่บำบัดและผู้รับการบำบัดที่ฮีลใจได้อย่างดี
Reiki Healing
เป็นหนึ่งในศาสตร์บำบัดด้านพลังงานที่กำลังได้รับความนิยม (และถกเถียง) เพิ่มมากขึ้นทั้งชาวตะวันออกและตะวันตก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นศาสตร์ฮีลลิ่งระดับลึกทางกาย ใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ โดยทำงานร่วมกับระบบจักระเช่นเดียวกับหินและเสียงบำบัด บนจุดมุ่งหมายเบื้องต้นคือการคืนสมดุลพลังงานอีกครั้ง ทั้งนี้ความเจ็บป่วยทางกายใจเกิดจากการบล็อก ซึ่งอธิบายง่ายๆ ว่าการบล็อกก็คือความไม่สมดุลในร่างกายเรา เช่น บางคนเครียดมาก ใช้สมองหนัก ไม่เพียงแต่จะปวดหัว ยังปวดท้อง หรือแน่นอกแน่นใจ โดยฮีลเลอร์จะใช้พลังงานธรรมชาติผ่านมือสู่ร่างกายผู้รับการบำบัด ซึ่งอาจร่วมกับการใช้คริสตัล หินหรือเสียงบำบัด ในการช่วยปรับสมดุลพลังงานในบริเวณนั้นๆ ทั้งที่มากเกินสมดุล หรือพร่องจนอ่อนแรง ให้สมูทเบาสบาย
ELLE Says
- ศาสตร์ฮีลลิ่งไม่ใช่การรักษา เป็นเพียงการบำบัดเยียวยาผ่านองค์ความรู้หลากหลาย เพื่อทำให้ร่างกาย จิตใจเรากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ความจริงแล้วร่างกายเราก็สามารถเยียวยาตัวเองได้
- ตัวอย่างการฮีลด้วยร่างกายตัวเอง เช่น การรองไห้ เป็นการละอารมณ์ความรู้สึกในใจได้ผลในหลายคน หรือการพักผ่อนที่เพียงพอทำให้ ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองในวันที่แสนเหนื่อยล้า รวมทั้งการเปิด playlist โปรดก็ทำให้สบายใจได้เช่นกัน
- หากมีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจโดยได้รับการรักษาจากแพทย์อยู่แล้ว การฮีลลิ่งไม่ว่าแบบใดควรปรึกษาแพทย์จึงจะดีที่สุดนะ
- โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะ
Text : Niornsuk