เปิดตัวตน ต่อ ธนภพ กับมุมมองการทำงานและชีวิตส่วนตัวสุดเรียบง่าย

คุยกับต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร Friend of Maison ของ Cartier พร้อมเปิดตัวตนในมุมเจาะลึกเรื่องการทำงาน บทบาทการแสดงที่ได้รับ และชีวิตส่วนตัว รวมไปถึงความสามารถที่ไม่มีใครรู้ผ่านบทสัมภาษณ์จากนิตยสารแอล ประเทศไทย ฉบับเดือนธันวาคม พร้อมนักแสดงสาว ณิชา ณัฏฐณิชา และ พีพี ปุญญ์ปรีดี

ELLE : อาชีพในฝัน (หากไม่ใช่นักแสดงในปัจจุบัน)

Tor : ถ้าตั้งแต่เด็กผมเป็นคนเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ เอาที่จำความได้ผมอยากเป็นสถาปนิก ไม่ใช่อินทีเรียร์ ไม่ใช่แลนด์สเคป เป็นสถาปนิกที่สร้างบ้าน รู้สึกเป็นสิ่งที่เราเคยคิดจริงจังกับมันมากที่สุด แต่ผมแอดมิชชั่นไม่ติดก็เลยไม่ได้ไปเรียนตรงนั้น ถ้าตอนนี้คิดว่าเป็นนักลงทุน อย่างเช่นเป็น value investor ในฝั่งของหุ้น เป็นความรู้อีกด้านที่ไม่ค่อยเอาออกมาแชร์ จริงๆ ผมอ่านงบการเงินได้ ในอดีตผมเป็นคนไม่เก่งเลขเลย ตอนมหาวิทยาลัยต้องเรียนพวกแคลคูลัส ผมเรียนแย่มาก เพื่อนต้องคอยแบกเราขึ้นไป พอไม่ถนัดตัวเลข คนเลยชอบรู้สึกว่า เฮ้ย ต่อไม่น่าถนัดอะไรพวกนี้หรอก พอตอนโควิด ช่วงล็อกดาวน์คือช่วงที่ผมเริ่ม สรุปอินและดันเข้าใจ คนอาจเข้าใจว่าพอพูดถึงหุ้นต้องเป็นเทรดเดอร์ละ มันมีมากกว่านั้น กลายเป็นเจอสิ่งที่ชอบโดยที่ไม่คิดว่าจะชอบเหมือนกัน

ELLE : ยังมีบทบาทไหนที่อยากแสดงอีกบ้างต่อจากนี้?

Tor : สมมติว่าถ้าเราเลือกบทได้ ผมอาจคิดถึงความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในแบบ Marvel เพราะตอนเด็กๆ เราอินกับอุลตร้าแมน ไอ้มดแดง มันมีความเขินนิดๆ นะ แต่ก้นบึ้งในใจแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่เคยห่างจากเราเลย ยังคงอินกับอะไรแบบนี้ หรืออาจเข้าไปสู่เรื่องที่เป็นแอนิเมะแล้วเอามาทำเป็น live action การที่เห็นเราแสดงมากๆ อาจเข้าในว่าเราดูหนังเยอะ แต่จริงๆ แล้วผมหนีไปหาการ์ตูนเสียเยอะ

ELLE : ความสามารถที่ไม่ค่อยมีใครรู้ของคุณ

Tor : ส่วนใหญ่คนชอบบอกว่าผมสังเกตคนเก่ง แต่จริงๆ ผมไม่ได้สังเกตคนเก่งหรอก ผมก๊อบปี้เก่ง (หัวเราะ) ชอบเลียนแบบคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มเข้าใจกระบวนการคิด เข้าใจคนที่ไม่เหมือนเรา เวลาเจอคนแปลกๆ ผมรู้สึกว่าไม่เป็นไร ดูเขาก่อน ไม่ตัดสินคนอื่น

ELLE : ถ้าเกิดมีพลังวิเศษขึ้นมา คุณอยากมีพลังแบบไหน เพราะอะไร?

Tor : ผมอยากเปลี่ยนความคิดให้เป็นเรื่องจริง มันดูมีความโกงอยู่นะ สมมติว่าเราเหนื่อย เราแค่จินตนาการว่าเราไม่เหนื่อย ก็จะไม่เหนื่อย

ELLE : สัตว์ประจำตัวของคุณคืออะไร และเพราะอะไร?

Tor : รู้สึกว่าตัวเองเป็นนกฟินิกซ์ ผมเป็นคนที่ตลอดชีวิตการทำงานจนถึงวันนี้ หรือชีวิตส่วนตัวด้วยได้ผ่านอะไรมาเยอะกว่าที่ใครหลายคนคิด สิ่งที่ผมสัมผัสกับตัวเองได้คือผมเป็นคนไม่ยอมตาย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ถ้าล้มผมจะลุกขึ้นมาใหม่ พอดีกับที่ผมพยายามใช้ทุกโอกาสที่เข้ามาจริงๆ ไม่ดูถูกพลังความเต็มที่ของตัวเอง อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้ งานที่ออกมาของเรา คนอื่นสัมผัสได้

ELLE : ตอนนี้คุณอินกับกิจกรรมใดเป็นพิเศษ เพราะอะไร?

Tor : ยอมรับแต่โดยดีว่าตอนนี้ผมกลับมาติดเกม (อมยิ้ม) สมัยเด็กเกมเคยเป็นส่วนหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญมาก เป็นเด็กติดเกม วันที่ผมเข้ามาทำงานแสดงเนี่ย ผมเคยตัดเกมออกจากชีวิตเพราะจัดการตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างใหม่หมด แล้วมันก็เดินทางมาถึงจุดที่เราคิดถึงเกม กลายเป็นตอนนี้มีคอมมูนิตี้จริงจังกว่าตอนเด็กอีก ผมกลับมาเอนจอยกับเกมมากๆ เกมออนไลน์มันสนุกขึ้นในแง่ว่ามันไม่มีเป็นประเทศแล้ว เราเล่นเป็นทวีป มีโอกาสได้เจอเพื่อนจากหลายประเทศมาก เจอทั้งคนรู้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นใคร

ELLE : ลิสต์ 1 เพลงโปรด 1 หนังสือเล่มโปรด และ 1 ภาพยนตร์/ซีรี่ส์เรื่องโปรดของคุณในตอนนี้

Tor : ‘พบรัก’, อิ้งค์-วรันธร จริงๆ มาจากแฟนคลับแหละครับ คือช่วงที่เรื่อง หนึ่งในร้อย เพิ่งจบ คอนเทนต์จากแฟนคลับจะเยอะ ถ้าไม่เจอเพลงนี้ก็จะเจอเพลง ‘สายตาหลอกกันไม่ได้’ เพลง ‘พบรัก’ เลยเป็นเพลงที่อินมากในช่วงนี้

หนังสือชุด ‘ถั่วงอกและหัวไฟ’ โดยทรงศีล ทิวสมบุญ เป็นหนึ่งในนิยายที่ผมอ่านจบเรื่อง ผมเพลินกับการอ่านเรื่องนี้มาก

การ์ตูนแอนิเมชั่น ‘Dandadan’ ผมรู้สึกว่าครีเอทีฟมันดี เอาคนที่เป็น loser มาเจอกัน ให้เรื่องนี้ดีสุด ณ ตอนนี้ ก่อนหน้านี้ผมให้ Demon Slayer ส่วน One Piece ภาคคนแสดงผมว่าผมให้เหมือนกันนะ

ELLE : คุณคิดว่าจากตัวเอง 100% คุณมีส่วนประกอบของใคร/อะไรอยู่ในตัวบ้าง?

Tor : ครอบครัว 50%, ตัวเอง 25%, งาน 25%

ELLE : แอ็กเซสเซอรี่ส์ที่ขาดไม่ได้เมื่อออกจากบ้าน

Tor : ผมติดนาฬิกามาก ๆ ไม่สามารถออกจากบ้านไปโดยที่ข้อมือว่างเปล่าได้ ไม่ว่าจะอยู่ในชุดนอนหรือชุดอะไรก็แล้วแต่ ถ้าได้ก้าวออกจากบ้านต้องมี เริ่มรู้ตัวว่านี่เสพติดแล้ว Cartier ก็เป็นจุดเริ่มต้นหนึ่ง เพราะเรือนแรกที่ผมมีก็คือ Cartier Tank คิดดูสิว่านาฬิกาอะไรที่เข้าได้กับทุกลุค จะชิลหรือทางการสามารถไปได้หมดเลย สลับสายได้อีก พอได้ใส่บ่อยๆ เลยแน่ใจว่าตัวเองไม่รอดแล้ว บนข้อมือต้องมี

ELLE : ความรู้สึกกับการมาเป็นฟรอนต์แมนของ ELLE กับการร่วมงานกับ Cartier ครั้งนี้

Tor : เหมือนได้กลับมายังสถานที่เดิม ตอนที่มาถ่ายปกกับพี่คิม (คิมเบอร์ลี่) และสกาย (วงศ์รวี) วันนั้นเรายังเป็นรุ่นน้องพี่คิม ซึ่งพี่เขาเป็นส่วนหนึ่งของ Cartier แล้ว จนวันนี้ผมได้กลับมาร่วมกับELLE อีกครั้งหนึ่งโดยได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับ Cartier แล้ว ถือเป็นความทรงจำที่ดี ELLE เองก็เป็นนิตยสารที่ผมติดตาม เห็นผมแบบนี้ผมอินกับแฟชั่นนะ ผมเกิดในยุคนิตยสาร ดังนั้น นิตยสารจึงเป็นศูนย์รวมแฟชั่นสำหรับผมอยู่ดี ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่าผมโผล่ออกมาในหน้านิตยสารอยู่เรื่อยๆ ไม่เคยหายไปไหน

ELLE : ฝากผลงานของตัวเองในช่วงนี้

Tor : มีซีรี่ส์ ‘การุณยฆาต’ ครับ (ร่วมกับเจเจ-กฤษณภูมิ) เป็นซีรี่ส์แนว suspense รู้สึกว่าปีนี้ผมโชคดีมาก คนจะได้เห็นงานที่ผมชอบมากๆ ทุกงาน หลังจากเรื่องนี้ทุกคนอาจต้องรอผมนิดหนึ่ง กำลังมีโปรเจ็กต์บางอย่างที่ซุ่มทำมาพักใหญ่ ยังไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้เลย เป็นการออกนอกคอมฟอร์ตโซนครั้งใหญ่ของผม แล้วผมจะกลับมาในรูปแบบใหม่ซึ่งต้องฝากทุกคนรอเชียร์ด้วยครับ

TEXT: WANSUK KHONGRASEE