16 เดือนที่รอคอยกับการเดบิวต์ของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนที่ 15 ของปี 2025 ‘Matthieu Blazy’ ผู้ทำให้ทวีดหายไปและดันสีแดงขึ้นเป็นโค้ดใหม่ผ่านลุคฟรอนต์โรว์ที่ CHANEL ของ ‘เบ็คกี้–รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง’ เป็นฟรอนต์โรว์ในโชว์ CHANEL ทีไร เบ็คกี้ไม่พลาดเลือกลุคอาบอิ่มดีเอ็นเอของเมซงแรงกล้าอย่างผ้าทวีด ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ Métiers d’Art 2025 ที่หางโจว, Spring/Summer 2025 และ Fall/Winter 2025
จนมาถึง Spring/Summer 2026 ที่จากเฮดทูโทกลับหาทวีดไม่เจอ แต่เธอกลับปรากฏตัวในลุคแจ็กเก็ตและกระโปรงดินสอสีเบจกับเสื้อตัวในสีแดง เกิดอะไรขึ้นกับลุคไร้ทวีดของเบ็คกี้ สีแดงมาจากไหน Matthieu Blazy คิดอะไร CHANEL ในวันนี้จึงไม่มีภาพจำเหมือนสมัยรุ่นยายและแม่ของพวกเราอีกต่อไป
How Coco Liked Chanel Jacket
วันแรกที่มัตติเยอมาถึงเมซงใหม่ เขาถอดแจ็กเก็ต CHANEL ของตนเองออก ใช้กรรไกรตัดความยาวให้อยู่เหนือสะโพกบนเล็กน้อย เฉือนปกเสื้อออก เปลี่ยนกระดุมใหม่ที่มีความเป็นโลโก้ของแบรนด์น้อยลง แล้วใช้กระดุมสไตล์บาโร้กที่โกโก ชาเนลเคยใช้ในยุค 1960s แล้วเย็บสายโซ่ทองตามขอบอันเป็นเคล็บลับเก่าแก่ของโกโกเพื่อให้ชายเสื้อแกว่งไกวแต่ไม่กระพือเสียทรง และกลายเป็นต้นแบบแจ็กเก็ตที่เห็นในคอลเล็กชั่น โดยเฉพาะสองลุคแรกที่เปิดโชว์ รวมถึงแจ็กเก็ตที่อยู่บนร่างของเบ็คกี้
แจ็กเก็ตใหม่ของ Chanel ถูกตัดเย็บในแบบที่โกโกเคยทำมา เป็นแจ็กเก็ตที่หลวมมากพอจะใส่ขี่ม้าได้ และเท่พอจะทำให้โกโก – ซึ่งเป็นหญิง – แลดูทัดเทียมกับผู้ชาย ขณะเดียวกันเธอก็ยอกย้อนนัก เมื่ออยากจะหว่านเสน่ห์ใส่พวกเขาไปด้วยและนี่คือพาร์ตแรกในแฟชั่นโชว์แรกของมัตติเยอที่ Chanel ที่เขาตั้งชื่อว่า Le Paradoxe
Basic Instinct
พาร์ตสองของโชว์ มัตติเยอส่ง Le Jour ชิ้นที่เคลื่อนไหวไปกับชีวิตประจำวัน ซึ่งเข้าใกล้ผิวและสรีระของผู้สวมใส่มากขึ้น เป็นที่มาของคอลแลบแรกในศักราชใหม่ CHANEL x Charvet แบรนด์เสื้อเชิ้ตเก่าแก่แห่งปารีสที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1838 ซึ่งโกโกเป็นลูกค้าที่ใส่เสื้อเชิ้ตของแบรนด์นี้จริงๆ หลังจากชอบขโมยเสื้อเชิ้ตชาร์เวต์ของ Boy Capel ชายคนรักมาใส่อยู่เนืองๆ
มัตติเยอจัดการเย็บสายโซ่ตามขอบเสื้อด้านหลัง เพื่อให้เสื้อทิ้งน้ำหนักและอยู่ทรงเสมอ และเลือกใช้ผ้าคอตตอตอันเป็นผ้าโปรดของโกโก ค่าที่มันแห้งง่ายและราคาถูก เสื้อเชิ้ตผ้าคอตตอนของ CHANEL แน่ละว่าแห้งง่าย แต่ราคาไม่ถูกสมดังใจมาดมัวแซลล์โกโกเป็นแน่ Karl Lagerfeld เองคลั่งไคล้เสื้อเชิ้ตขาวมากถึงขนาดมีมากกว่า 1,000 ตัว และเคยปรารภสมัยยังมีชีวิตอยู่ว่า เสื้อเชิ้ตขาวคือชิ้นที่เขาอยากรื้อสร้างใหม่ที่สุด กระทั่งมาสำเร็จในยุคของมัตติเยอนี่เอง
Zoomed-in Tweed
L’Universel พาร์ตสุดท้ายในโชว์แรกของมัตติเยอที่อิงแอบกับความเป็นแบรนด์สากลของ CHANEL ซึ่งมรดกของเมซงซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ชนิดว่าเห็นที่ไหน คนอนุมานไปก่อนทันทีว่าคงเป็น CHANEL ก็คือ ‘ผ้าทวีด’ทวีดถูกใช้งานหนักและเป็นนางเอกเสมอในทุกคอลเล็กชั่นที่ CHANEL ผ้าหนาหนักที่มักใช้ตัดเสื้อนอกล่าสัตว์ของผู้ชายกลายเป็นผ้าที่โกโก คาร์ลและวีร์ฌินีร์นำมาเล่นแร่แปรธาตุอย่างสำราญใจตลอด 115 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าเป็นภารกิจหัวระเบิดสำหรับครีเอทีฟไดเร็กเตอร์รายที่ 4 ว่าจะทำอย่างไรให้โค้ดเบอร์ 1 ของเมซงไม่กลายเป็นวัสดุบุร่ำบุราณซึ่งสักแต่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ตำนาน’
มัตติเยอไล่หาลายทอผ้าทวีดไปทั่วโลก ทำให้เขาไม่ติดอยู่กับวิธีการสร้างทวีดเท่าที่ค้นพบในยุโรป เป็นที่มาของทวีดเวอร์ชั่นต่างๆ ทั้งแบบโปร่งบาง แบบหนา แบบเปลือยวัสดุให้เห็นก่อนจะถูกทอเข้าด้วยกัน หรือนำเส้นด้ายมาขยุ้มเป็นดอกไม้สามมิติประดับตามเดรสอีกที ‘ทวีด’ ไม่ได้หายไปสักทีเดียว แต่อยู่ในรูปลักษณ์ที่อาจไม่เคยเห็นที่ CHANEL มาก่อนและวันนี้ทวีดไม่ได้เป็นนางเอกยืนพื้นอยู่คนเดียวอีกต่อไป
Chanel = Red?
CHANEL มีภาพลักษณ์เป็นแบรนด์โมโนโครมมาร้อยกว่าปี และแทบจะเป็นเจ้าของสีขาว-ดำ-เบจ แม้ไม่ได้จดสีสามกษัตริย์นี้เป็นเครื่องหมายการค้าก็ตาม โกโกชอบสีทั้งสามนี้ ไม่ใช่เพราะมันเรียบหรูดูคลาสสิก แต่เพราะมันให้สีเหมือนดิน…โกโกยังใช้สีเบจมากมายในงานออกแบบของเธอ เป็นเพราะ Rodier ซัพพลายเออร์ผ้าเจอร์ซีย์ในยุคนั้นเกิดลดสะบั้นหั่นราคาแหลกผ้าสีเบจที่มีล้นสต๊อก เพราะไม่ค่อยมีดีไซเนอร์ใช้ผ้าสีเบจมากนัก
แต่แล้ว SS 2026 กลับเต็มไปด้วยแต้มสีแดง ทั้งแดงเบอร์กันแบบเสื้อตัวในของเบ็คกี้ ไปจนถึงสีแดงอมส้มเหมือนสีดาวพฤหัสที่โคจรอยู่กลางกร็องด์ปาเลส์ โกโกใช้สีแดงเบอร์กันดีบุซับในกระเป๋า เพื่อให้เห็นเครื่องประดับที่เก็บอยู่ในกระเป๋าได้ง่าย แต่มัตติเยอไม่อยากให้สีแดงเลือดหมูถูกซ่อนอยู่ด้านใน จึงจูงออกมาเป็นรหัสสีตีคี่ไปกับสีดำ ขาวและเบจเสียเลย
แต่แล้ว SS 2026 กลับเต็มไปด้วยแต้มสีแดง ทั้งแดงเบอร์กันแบบเสื้อตัวในของเบ็คกี้ ไปจนถึงสีแดงอมส้มเหมือนสีดาวพฤหัสที่โคจรอยู่กลางกร็องด์ปาเลส์ โกโกใช้สีแดงเบอร์กันดีบุซับในกระเป๋า เพื่อให้เห็นเครื่องประดับที่เก็บอยู่ในกระเป๋าได้ง่าย แต่มัตติเยอไม่อยากให้สีแดงเลือดหมูถูกซ่อนอยู่ด้านใน จึงจูงออกมาเป็นรหัสสีตีคี่ไปกับสีดำ ขาวและเบจเสียเลย
ที่สำคัญ เป็นโกโก ชาเนลเองที่ใช้สีแดงและสีแสดทำเดรสสวยสมัยยังมีชีวิตอยู่ มัตติเยอพบเจอหลักฐานมากมายในคลังผลงานเก่าของเมซง โดยเฉพาะเดรสแฟลปเปอร์สีแดงในแฟชั่นโชว์การกุศลในเดือนพฤศจิกายนปี 1926 ที่นิวยอร์ก ซึ่งสื่อแฟชั่นทรงอิทธิพลแห่งยุคชื่นชมเดรสแดงแรงฤทธิ์มากเสียจนตั้งสมัญญาใหม่ให้ว่า CHANEL Red
Becky in New Chanel
ลุคฟรอนต์โรว์ของเบ็คกี้เต็มไปด้วยรากเหง้าดั้งเดิมของ CHANEL จากยุคสมัยของโกโก ชาเนล ผู้ก่อตั้งเมซงอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทั้งยังเป็นผลงานสะท้อนการทำการบ้านหนักและการยึดโยงกับโปรดักต์เป็นที่ตั้งของมัตติเยอ อันเป็นกลยุทธ์ที่เขาประสบความสำเร็จมาแล้วที่ Bottega Veneta
นี่ละคือ CHANEL ในมุมที่ไม่ได้ถูกตอกย้ำมากนักในช่วง 40 ปีที่คาร์ลและวีร์ฌินีร์กุมบังเหียนแบรนด์ จึงไม่แปลกที่หลายคนตาเบิกโพลงว่า CHANEL ที่ฉันเคยรู้จักหายไปไหน เมื่อเติบโตมากับภาพที่คาร์ลและมือขวาของเขาทำไว้มาตลอดชีวิต แต่ชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป เช่นเดียวกับแฟชั่น ที่บางครั้งการเดินหน้าอาจเป็นการเดินกลับไปหาอดีต เพื่อจะไม่ย่ำซ้ำรอยเดิม แต่เพื่อจะทำความรู้จักกับรากเหง้า แล้วเติบโตใหม่ไปในทางของตนเอง
มัตติเยอ บลาซีทำเช่นนั้นอย่างตรงตามตัวอักษร เมื่อเขาทำคอลเล็กชั่นแรกที่ CHANEL ด้วยความคิดว่าการย้อนมองที่รากเดิมในยุคของโกโก ชาเนล แล้วกลับออกมาด้วยความคิดว่า นี่คือผลงานชิ้นสุดท้ายของเขาที่บ้านใหม่หลังนี้ Spring/Summer 2026 คือคอลเล็กชั่นกลับบ้านของ CHANEL
Text: Suphakdipa Poolsap