MAKE A WISH WITH NENE
ชื่อ ‘พรนับพัน’ ของสาวเนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ ฟังแล้วน่าจะสะดุดหูใครหลายคน ไม่นับความสามารถที่เธอพิสูจน์ตัวตนจนประสบความสำเร็จในประเทศจีน ซึ่งหากอยากจะขอพรให้ตัวเองเพิ่มสักนิดในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เธอจะขอสิ่งใดกันนะ!
หากขอพรให้คนรู้จักตัวตน
“ถ้ามีพร หนูอยากให้คนจดจำในฐานะคนที่มีปณิธานเพียงหนึ่งเดียวและมีแพสชั่นอันแรงกล้าในชีวิต เป็นคนมีจุดมุ่งหมายเดียวจริงๆ ในชีวิต และคิดว่าตอนนี้มันก็ยังไม่สำเร็จ ตอนนี้อายุ 26 แล้ว หนูอยากเป็นศิลปิน มีผลงานของเรา มีตัวตนเราอยู่ในผลงานนั้นๆ ไม่ใช่ที่คนอื่นทำให้ มอบให้ มาวางกรอบไว้ นอกจากนี้ยังอยากมีพรให้ตัวเองมีแรงบันดาลใจ ให้มันไม่มอดไป สามารถคิดงาน คิดไอเดียใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ หนูรู้สึกว่าสิ่งที่มันสุดยอดคือไอเดีย และหนูต้องการไอเดีย! อยากให้คนจดจำประมาณนี้ ไม่ต้องเป็นเนเน่ๆ ที่ต้องไปเหมือนใคร
“หนูอยากให้คนรู้จักในฐานะเนเน่ที่ไม่ใช่ไอดอล ดารา หรือว่าคนดังด้วย หนูอยู่ในวงการนี้เพราะชอบแต่งเพลง ร้องเพลง โดยที่ไม่ได้โหยหาความดังค่ะ อยากให้ผลงานของหนูสามารถเยียวยาจิตใจคนได้ บางทีเราฟังเพลงเพลงหนึ่งแล้วรู้สึกว่า เออ เพลงนี้เหมือนเพื่อนเราในยามเศร้า เพลงนี้มันเยียวยาจิตใจเราจังเลยอะ คิดว่าตัวเองไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แม้วันที่ดาวน์มากๆ หนูจะมีวิธีในการดึงตัวเองกลับมา เลยอยากแชร์วิธีการนั้นให้คนอื่น เพราะบางคนหาทางไม่ได้ที่จะแก้ไขปัญหา ฟังเพลง ฟังทัศนคติเราที่แชร์ไป แล้วอาจจะดีขึ้นเอง”
หากต้องเลือกเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่ศิลปิน
“ตอบยากมาก ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าตัวเองจะไม่เป็นในแบบทุกวันนี้ ไม่เคยเห็นภาพตัวเองที่เป็นแบบอื่น เคยถามตัวเองเหมือนกันนะคะ ในวันที่ท้อในเส้นทางนี้ว่าจะไปทำอะไรต่อ ถ้าไปทำอย่างอื่นก็คือมองภาพไม่ออก ถ้า…ถามตัวเองจริงๆ คงไปเปิดฟาร์มอัลปาก้ามั้ง เป็นคนชอบอัลปาก้า (หัวเราะ) ชอบมาก เป็น spirit animal
“มันจะมีช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อตอน ม.3 น่าจะช่วงอายุ 15 ที่คนจะถามว่าเธอจะไปเรียนต่ออะไร เลยมานั่งคิดถึงชีวิตตัวเองว่าเราอยากเป็นอะไร ตอนนั้นคิดว่าอยากเป็นหมอผ่าศพค่ะ (หัวเราะ) อยากชันสูตรศพ อยากทราบสาเหตุการตาย อย่างศพที่เน่าเนี่ย คือกี่วันแล้ว แล้วไปโดนอะไรมา”
หากเสกลุคที่ไม่เคยแต่งมาก่อนเลยในชีวิต
“น่าจะเป็นแบบพี่ปาล์มมี่ แบบไม่ใส่รองเท้าบนเวทีอะไรอย่างนั้น อยากแต่งแบบที่เขาชอบเลย ขอมันไว้ก่อน อยากสลัดทุกอย่างทิ้งให้หมด แล้วมาฟังเพลงที่เราร้อง
“หนูไม่เคยแต่งโป๊เลยค่ะ โป๊สุดๆ เลยคือใส่บิกินี่แบบทูพีซ แต่ปิดเต็มๆ เป็นบราเต็มตัว แล้วท่อนล่างเป็นกระโปรง คือมีความอาย ไม่อยากให้คนเห็นเนื้อหนังมังสาเรา ให้คนที่เราไว้ใจเท่านั้นเห็น คือถ้าคนเห็นมากเกินไปจะเกิดการตัดสิน แม่เองก็ไม่เคยมายุ่งเรื่องการแต่งตัวเลย เพราะปกติไม่ได้แต่งโป๊อยู่แล้ว อย่างเกาะอกนี่ก็ใส่ได้ค่ะ แต่จะไม่ได้แหวกลึกอะไรแบบนั้น คือจริงๆ โป๊ได้ แต่หมายถึงว่าต้องถูกที่ถูกเวลาด้วย อย่างทำงานใส่สูทแล้วแหวกอก แต่ถ้าหนูเห็นว่ามันเหมาะ ดูไม่ได้แย่ก็โอเค”
หากขอพรให้เจอคนที่เป็นแรงบันดาลใจ
“ศิลปินในดวงใจที่หนูตอบเกือบทุกที่น่าจะเป็น Taylor Swift คือเขาเก่งมากจริงๆ เป็นสายแต่งเพลงเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขนาดเป็นสวิฟตี้ ไม่เคยไปดูคอนเสิร์ตของเขาเลย ชอบความสามารถในการแต่งเพลง ถ้าได้คุย อยากรู้ทัศนคติของเขาในการใช้ชีวิต มุมมองของเขา คือเพลงมันมีเยอะแยะนะคะ แต่เพลงที่เข้าถึงผู้ฟังได้ ตรงกับความรู้สึกของเรา ณ เวลานั้นๆ ยิ่งเพลงเศร้า คนแต่งต้องหาเรื่องที่เข้าถึงแบบนั้นออกมาให้ได้
“แต่ถ้าเป็นคนไทย หนูจะตอบว่าเจฟ ซาเตอร์ เขาเก่งจริงๆ ต้องยอมเขา อยากคุยกับคนที่เก่งแบบเนี้ย หนูเป็นโรคนิยมคนเก่ง ถ้าได้เจอคนเก่งแล้วรู้สึกตื่นเต้น ยูมีความคิดอะไร ยูคิดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร ทำไมถึงแต่งเพลงแบบนั้นออกมาได้ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสแจมเพลงกัน แต่ได้มีโอกาสร่วมถ่ายเอ็มวีเพลงของเจฟค่ะ ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเขา พูดคุยกับเขา ได้รู้แพสชั่นในการทำงาน พอคุยแล้วคิดว่าทำไมเขาเก่ง อยากเก่งแบบนั้นจัง เขาน่าจะผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน”
หากมอบพรให้เหล่าแฟนคลับ
“ถ้ามีพรจะให้คงขอให้พักผ่อน (อมยิ้ม) คือแฟนคลับหนูไม่ได้เป็นสไตล์ตามติดอะไรแบบนั้นนะคะ ให้พักผ่อนนี่หมายถึงว่าเป็นแฟนคลับเนเน่ได้เนี่ยต้องมีความอดทนสูง เพราะหนูไม่ค่อยอัพเดตโซเชียล เวลาหายจากโซเชียลคือหายไปเลยจริงๆ ดังนั้น แฟนคลับต้องอดทนสูงในการติดตามศิลปินคนนี้ คือบางทีไม่รู้ว่าจะอัพเดตอะไร มีแค่ออกจากบ้าน เลี้ยงหมา กินข้าว ดึกหน่อยก็แต่งเพลง ฉันก็เป็นแค่นางสาวพรนับพันที่เป็นเพื่อนของเธอคนหนึ่ง (หัวเราะ) หนูไม่อยากให้พวกเขามาเหนื่อยอะไรมาก คือเรื่องโซเชียลเนี่ยหนูไม่อยากลงรูปหรือทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวเอง ต้องบีบตัวเองให้ทำทุกวันๆ
“ฟีดแบ็กจากแฟนคลับที่ประทับใจน่าจะตอนคอนเสิร์ตค่ะ หนูได้กลับไทย บางคนที่ติดตามผ่านทวิตเตอร์มาหลายปี แล้วเขาได้เห็นเราจริงๆ บนเวที จำได้ว่าวันนั้นร้องเพลงไหนก็ร้องไห้ เพราะเพลงส่วนมากหนูแต่งให้กับแฟนคลับ บางเพลงพวกเขาก็สามารถร้องตามได้ด้วย เพลงส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเพลงจีนหรือเพลงไทยจะเป็นแนวเยียวยาหัวใจทั้งนั้นเลย ในมุมหนูนะ ถ้าเราไม่ใช่ไอดอลที่จะมาอัพทวิตเตอร์ทุกวัน จะพยายามให้มันผ่านบทเพลง”
หากมี guilty pleasure ได้ทำตามใจตัวเอง
“หนูอยากนั่งยานออกไปนอกโลกเลยค่ะ ไปอยู่แบบเงียบๆ แบบเงียบจริงๆ แล้วอยู่กับตัวเอง ใช้เวลาคิด หนูรู้สึกว่าเวลาอยู่กับตัวเองเป็นช่วงที่มีค่ามากที่สุด มันได้คุยกับตัวเองเยอะด้วย ช่วงเวลาที่หนูทำผลงานที่ดีได้คือตอนที่ได้อยู่กับตัวเอง ตอนนี้คือตั้งแต่กลับไทยมาหนูไม่สามารถแต่งเพลงได้อีกเลย เพราะเจอเพื่อน อยู่กับแม่ มีสิ่งเร้าเยอะมาก ไม่ได้มีเวลาเคลียร์จิตใจตัวเอง ตอนอยู่ที่จีนได้อยู่คนเดียว เวลาฟีลลิ่งมามันมาเลยค่ะ แล้วหนูก็ปล่อยมันออกไปผ่านบทเพลง ถ้าขอได้หนูอยากขอเวลาที่ได้กลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง (หัวเราะ) ไม่ใช่อยู่คนเดียวแบบ depressed นะคะ อาจจะขอให้ได้อยู่กับตัวเอง”
ELLE SAYS:
คอลเล็กชั่น PINKTOBER จาก Jaspal ต้อนรับเดือนตุลาคมด้วยเฉดสีชมพูหวานใส สอดรับกับแคมเปญเพื่อช่วยเหลือศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ ที่ถ่ายทอดโดยสาวเนเน่ พรนับพัน ในคอลัมน์ ELLE Crush ของนิตยสารแอล ประเทศไทย ฉบับเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายคอลเล็กชั่น Jaspal Pinktober ตลอดเดือนตุลาคม 2566 นี้ จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ หรือ Queen Sirikit Centre for Breast Cancer Foundation โดยทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ผ่านการซื้อสินค้าจากคอลเล็กชั่น Jaspal Pinktober นี้ ได้ที่ร้าน Jaspal ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือทาง Line: @jaspalthailand และทางออนไลน์ที่ www.jaspal.com