ทุกวันนี้เมื่อพูดถึงเรื่องการชะลอวัยหรือ Anti-aging นั้น จากที่หลายๆ คนจะมองถึงการแก้ปัญหาริ้วรอยหรือความร่วงโรยแห่งวัยที่แสดงออกมาบนผิว กลายมาเป็นการมองที่จุดเริ่มต้นด้านในระบบการทำงานของผิว และเริ่มที่จะมองการชะลอวัยนั้น เป็นการยืดอายุความอ่อนเยาว์ของผิวไปโดยปริยาย หรือที่หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเทรนด์ที่ชื่อว่า Longevity นั่นจึงทำให้หลายๆ แบรนด์ความงามเริ่มพัฒนาสูตรของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ตอบโจทย์ตามเทรนด์นี้เช่นกัน รวมไปถึงแบรนด์ความงามสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง LANCÔME ที่ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของ Longevity มาอย่างยาวนาน และล่าสุดก็ได้ยกระดับหนึ่งผลิตภัณฑ์สุดไอคอนิกของแบรนด์ขึ้นไปอีกขั้น กับ ABSOLUE LONGEVITY THE SOFT CREAM รุ่นล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นผ่านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ เพื่อผิวที่อ่อนเยาว์อย่างยั่งยืนในทุกมิติ
“แนวคิดเรื่องความงามคล้ายคลึงกับกระบวนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ในแง่การพัฒนาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด เวลานี้พวกเราอยู่ท่ามกลางอรุณรุ่งแห่งความเปลี่ยนแปลง ยุคแห่งการพลิกโฉมปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ของศาสตร์เพื่ออายุที่ยืนยาว (Longevity Science) การปฏิวัตินี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต เติมเต็มประสบการณ์ และโอบกอดห้วงเวลาในชีวิตโดยสมบูรณ์ ทั้งยังสอดคล้องกับพันธกิจหลักของ Lancôme ตลอด 90 ปีที่ผ่านมาในทุกมิติ ด้วยความตั้งใจในการสนับสนุนให้ทุกปัจเจกโอบรับความงามในแบบของตัวเอง และเปล่งประกายด้วยความมั่นใจในทุกช่วงชีวิต” ฟรองซัวส์ ลีมานน์ ประธาน Lancôme Global Brand กล่าวถึงเทรนด์ล่าสุดในด้านการยืดอายุความอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืน”

เมื่อหัวใจหลักของความงามคือ Longevity Science
ในงานเปิดตัวของ ABSOLUE LONGEVITY THE SOFT CREAM รุ่นล่าสุด เราได้พบกับนายแพทย์ สมิทธิ์ อารยะสกุล หรือคุณหมอโอ๊ค หนึ่งในแพทย์ผิวหนังชั้นนำของไทย และได้พูดคุยถึงเรื่องราวของเทรนด์ Longevity ที่เพิ่งเริ่มต้นมีอิทธิพลในวงการความงาม คุณหมอได้อธิบายเทรนด์นี้กับเราว่า “จริงๆ คอนเซ็ปต์ของ Longevity ไม่ยากเลยครับ มันคือการใช้วิทยาศาสตร์และการแพทย์เข้ามาเสริมกัน เพื่อให้มนุษย์เรามีอายุที่ยืนยาวขึ้นหรือ Life Span ไม่ได้มีเพียงตัวเลขที่มากขึ้น แต่ยังรวมไปถึงระยะเวลาที่สุขภาพเราจะแข็งแรงอย่างมีคุณภาพ หรือ Health Span และเทรนด์นี้ก็หมายรวมถึงทุกส่วนของร่างกาย รวมไปถึงความอ่อนเยาว์ของผิวหน้าด้วยเช่นกัน”


จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ L’Oreal จะมองวิทยาศาสตร์บูรณาการเพื่ออายุยืนยาว หรือ Longevity Science นั้นเป็นเรื่องสำคัญและศึกษามันอย่างละเอียด ผ่านกระบวนวิธีแบบเฉพาะเพื่อศึกษาข้อมูลในองค์รวม หัวใจสำคัญของวิทยาศาสตร์บูรณาการเพื่ออายุยืนยาวของ L’Oréal คือ Longevity AI Cloud ซึ่งเป็นแผนที่ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ โดยแบ่งหมวดหมู่ตามลักษณะสำคัญทางชีวภาพของสัญญาณแห่งวัย 9 รูปแบบ แสดงให้เห็นถึงกุญแจสำคัญ 9 ประการในการปลดล็อกความงามเหนือกาลเวลา วิทยาศาสตร์บูรณาการเพื่ออายุยืนยาวของ L’Oréal มุ่งเน้นทำความเข้าใจสถานะทางชีวภาพของผิวในระดับโมเลกุล เซลล์ และเนื้อเยื่อ เพื่อกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขสัญญาณแห่งวัยและสร้างความงามเหนือกาลเวลาทั้ง 9 ประการ ใช้การคาดการณ์ความเสียหายที่จะเกิดกับผิวก่อนเกิดขึ้นจริง ยับยั้งความชราจากต้นตอ นำไปสู่การปลดล็อกประสิทธิภาพระดับสูงที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลลัพธ์คืออายุขัยเซลล์ผิวที่ยืนยาวยิ่งขึ้น สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้น ผิวสวยขึ้นและคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
กุญแจปลดล็อกความอ่อนเยาว์ครั้งใหม่ – Absolue PDRN™
ด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์บูรณาการเพื่ออายุยืนยาวอย่างละเอียด ทำให้ LANCÔME ได้ต่อยอดพันธกิจทางวิทยาศาสตร์เพื่อความอ่อนเยาว์ที่ยืนยาวด้วยการค้นพบส่วนผสมล่าสุดอย่าง Absolue PDRN™ ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของ ABSOLUE LONGEVITY THE SOFT CREAM รุ่นใหม่นี้
Absolue PDRN™ คือผลลัพธ์จากการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์โดยแท้จริง เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ LANCÔME และได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทคโนโลยี Skin Booster สารสกัดในกลุ่มของหัตถการทางชีวแพทย์ อย่าง ‘PDRN’ ซึ่งได้รับความนิยมในวงกว้างในประเทศเกาหลีใต้เพื่อการฟื้นฟูเซลล์ผิว โดยหัตถการรูปแบบนี้จะใช้วิธีฉีด PDRN เข้าสู่ชั้นหนังแท้ สารดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นทางชีวภาพ เปิดกลไกซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เพิ่มการผลิตคอลลาเจนในผิว และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ


สำหรับ Absolue PDRN™ ของ LANCÔME นั้นยังคงถูกสกัดมาจากดอกไม้ประจำคอลเล็กชั่นสกินแคร์ Absolue อย่างดอกกุหลาบ โดยสกัดมาจาก DNA ของดอกกุหลาบ โดยกว่าจะได้ Absolue PDRN™ ปริมาณ 1 กรัมต้องใช้กุหลาบมากถึง 100 ดอก สารสกัดสำคัญล่าสุดนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถยืดอายุของเซลล์ผิวได้อย่างดี จากการร่วมมือกับ Oxiproteomics สตาร์ทอัพเทคโนโลยีชั้นนำด้านศาสตร์อายุที่ยืนยาวจากฝรั่งเศส ทำการทดลองอย่างละเอียด และได้ค้นพบประสิทธิภาพของ Absolue PDRN™ ที่ทั้งสามารถเพิ่มกระบวนการเมตาบอลิซึมเพื่อยืดอายุเซลล์ สร้างไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ผิว และยังเพิ่มการสังเคราะห์และผลิตคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 อีกด้วย
เมื่อวิทยาศาสตร์และความหรูหรามาเจอกันใน ABSOLUE LONGEVITY
ABSOLUE LONGEVITY THE SOFT CREAM จึงเป็นการผสานศาสตร์แห่งการยืดอายุความอ่อนเยาว์ในผิวอย่างยั่งยืนเข้ากับความสุนทรีย์ของครีมบำรุงผิวอันหรูหรา กับ 3 ส่วนผสมหลักอย่าง Absolue PDRN™ ที่ช่วยในการยืดเวลาแห่งความอ่อนเยาว์ โดยเพิ่มจำนวนไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ กระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึมเพื่อยืดอายุเซลล์ Pro-Xylane™ ที่รับหน้าที่กระตุ้นการสื่อสารของเซลล์ ลดเลือนริ้วรอย ปรับและฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แน่นกระชับและดูอิ่มเอิบ ก่อนจะปิดท้ายด้วย Absolue Perpetual Rose Extract™ ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยรักษาสภาพโครงสร้างเซลล์เพื่อมอบผิวดูสุขภาพดีจากภายใน เรียกได้ว่าเป็นการดูแลผิวในด้านความอ่อนเยาว์ในทุกมิติ เสริมกระบวนการทำงานครอบคลุม 3 ปัจจัยหลักของการเกิดสัญญาณแห่งวัยได้ครบ ทั้งในเรื่องของการกระตุ้นเมตาบอลิซึมให้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กระตุ้นการสื่อสารระหว่างเซลล์ให้ทำงานได้ดีขึ้น และสุดท้ายฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้ดูกระชับ เสริมความความเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย มอบผลลัพธ์ที่ชัดเจนในทุกองค์ประกอบความอ่อนเยาว์ของใบหน้าเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง


ABSOLUE LONGEVITY THE SOFT CREAM ยังมาพร้อมกับเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและนุ่มละมุน ให้ความสดชื่นเมื่อสัมผัสลงบนผิวหน้า และยังมีกลิ่นกุหลาบหอมอ่อนๆ ให้ได้รู้สึกผ่อนคลายและรื่นรมย์ในยามประทินผิว บรรจุมาในกระปุกครีมดีไซน์ใหม่สีทองประทับลายกุหลาบ ลายเส้นที่คมชัดและเน้นส่วนเว้าคอดเล็กสะท้อนการออกแบบที่มีความอ่อนช้อยและล้ำสมัย ตัวกระปุกใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบให้สื่อถึงศาสตร์อายุยืนยาวด้วยบรรจุภัณฑ์แบบรีฟิลที่ใช้งานได้ยาวนาน สะท้อนภาพความนำสมัยและหรูหราของครีมบำรุงผิวรุ่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


