หลายคนคงคิดว่าเทรนด์สีผมก็เหมือนๆ กันไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี แต่หากลองสังเกตเทรนด์ช่วงหลังนี้จะเห็นว่าเลเยอร์ของสีนั้นเปลี่ยนไป ไม่เพียงแค่เป็นโทนสีที่สว่างแต่ยังดูมีมิติและเล่นกับแสงได้ดี เสริมให้ลุคโดยรวมดูแซ่บและคูลยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการอาศัยเทคนิคที่หลากหลาย เช่น บาลายาจ (balayage) ไฮไลต์ และการฟอกสีนั่นเอง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากของหนุ่มสาวในหลายประเทศ
The Dimension of Hair Colour
สีผมเหมือนกันแต่ทำไม่เหมือนกัน เคยไหมเวลาไปทำสีผมที่ร้านเรามักจะเซฟรูปสีผมของเหล่าเซเลบริตี้หรืออินฟลูเอนเซอร์เป็นตัวอย่างให้ช่าง แต่เมื่อช่างประเมินเส้นผมของเราทำไมดูเหมือนมีหลากหลายขั้นตอนที่ต้องเตรียมก่อนจะลงสีได้ โดยเฉพาะสีโทนสว่าง ก็เพราะแต่ละโทนสีนั้นมีวิธีการทำที่ต่างกัน ยิ่งสีที่อยากได้ต่างจากพื้นสีผมเดิมเท่าไร ยิ่งต้องอาศัยเทคนิคและความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่การผสมสีไปจนถึงการกำหนดค่าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งค่านี้มีผลอย่างมากกับผลลัพธ์ของสี รวมถึงสุขภาพของเส้นผมเช่นกัน อย่างโทนเทาหม่น บลอนด์ โทนพาสเทลต่างๆ จะต้องมีการฟอกสีผมเพื่อล้างพื้นสีเดิมก่อน โดยเฉพาะสีผมของคนไทยนั้นจะมีพื้นสีผมดำหรือน้ำตาลเข้ม หากไม่ฟอกสีผมแต่ต้องการมีสีโทนสว่างแบบตรงปกถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก
Do All Hair Colours Require Bleach?
สีไหนที่ต้องฟอกสีผม โดยพื้นฐานแล้วให้จำง่ายๆ ว่าสีไหนก็ได้ที่ต้องการความสว่างมักต้องฟอกสี คล้ายกับทฤษฎีการผสมสี หากเราเทสีลงบนกระดาษขาวก็มักจะได้สีนั้น แต่หากผสมลงบนกระดาษสีสีที่ได้ก็มักจะเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับหลักการทำสีผมนั่นเอง การฟอกสีผมจึงกลายเป็นหนึ่งในขั้นตอนจำเป็นเพื่อหักล้างสีก่อนย้อมสีผม เนื่องจากบางสีอย่างสีบลอนด์อ่อนหรือเทาควันบุหรี่จะต้องล้างเม็ดสีออกให้เส้นผมกลายเป็นสีทองหรือเฉดขาวก่อนทำสีผม นั่นหมายความว่าอาจจะต้องฟอกอย่างน้อย 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน แต่ข้อควรระวังคือยิ่งฟอกผมมากผมยิ่งเสียมาก จึงควรมีการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ และปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
What’s Balayage Hair?
บาลายาจและไฮไลต์ไม่ใช่การฟอกสี หากเคยเห็นสีผมที่ดูไล่ระดับเหมือนผ่านทำสีผมหลายสีผสมกัน เช่น สียอดฮิตย่าง Dirty Blonde หรือสีที่เหลือบเฉดบลอนด์ต่างๆ นั่นคือการอาศัยเทคนิคการทำบาลายาจ หรือการกวาดสีเพื่อไล่ระดับของสีให้ดูเป็นธรรมชาติและดูมิติยิ่งขึ้น นอกจากจะได้สีที่ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้นแล้ว เวลาโคนผมขึ้นใหม่ก็จะแลดูกลมกลืนเหมือนการไล่สีอีกมิตินั่นเอง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนว่าอยากได้สีผมสไตล์แนวบาลายาจหรือไม่ แต่ถ้าอยากได้ช่อผมที่มีสีต่างออกไปจากพื้นสีผมในจุดที่ต้องการ เรามักจะเลือกวิธีการทำแบบไฮไลต์มากกว่าการทำบาลายาจ เพราะจะเป็นการใช้ฟอยด์อะลูมิเนียมกับความร้อนในการเปลี่ยนสี ซึ่งทั้งสองเทคนิคอาจต้องอาศัยการฟอกสีผม ขึ้นอยู่กับการประเมินเส้นผม เฉดสี และพื้นผมของแต่ละคน
Does Chemistry Affect Hair?
ยิ่งลงเคมีมากยิ่งเสี่ยงทำลายเส้นผม การทำสีผมนั้นต้องมาคู่กับการบำรุงเส้นผม นี่คือกฎที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ เพราะไม่ว่าจะย้อมผมเองด้วยน้ำยาย้อมผมที่หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป หรือทำที่ร้าน ต่างก็ต้องบำรุงเช่นกัน โดยเฉพาะการทำสีผมที่สว่างมากๆ จนเปลี่ยนพื้นสีผมเดิมยิ่งต้องใส่ใจเส้นผมให้มากขึ้น เนื่องจากเส้นผมจะมีความเปราะบางและอ่อนแอจากการทำลายเม็ดสีเดิม การเลือกคุณภาพของยี่ห้อน้ำยาย้อมผมก็เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญแต่ก็ไม่ควรละเลยการดูแลเส้นผมหลังการทำ เพราะนอกจากทุกคนจะปกป้องเส้นผมจากการถูกทำลายโดยสารเคมีแล้ว ยังเป็นการคงสีผมให้อยู่นานขึ้น ดังนั้น หากรักการทำสีผมก็ต้องรักคุณภาพของเส้นผมด้วย
The Major Hair Problems
ปัญหาใหญ่ของคนทำสีผมสว่างมักต้องเผชิญ 2 สิ่งคือ สีผมหลุดง่ายและโคนผมใหม่งอก โดยเมื่อทำสีผมไปสักระยะหนึ่ง เช่น สีชมพูเทาหม่น เฉดชมพูมักจะหลุดออกง่ายจนกลายเป็นสีบลอนด์เหลืองและความหม่นจะหายไป ยิ่งหากสระผมบ่อยหรือเจอแสงแดดแรงๆ ก็มีโอกาสที่สีจะเฟดหรือซีดลง ซึ่งไม่ใช่คุณคนเดียวที่เจอปัญหานี้ เพราะฉะนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผมทำสีจึงเป็นสิ่งที่ช่วยคงสีผมให้สวยได้นานขึ้น อีกหนึ่งปัญหาคือเมื่อโคนผมใหม่งอก สีผมจะเป็นสีตามธรรมชาติของแต่ละคน เรา แนะนำว่าอย่ารอให้โคนผมยาวเกิน 2 นิ้วแล้วค่อยไปเติมสี เพราะมีโอกาสที่สีนั้นจะไม่สม่ำเสมอทั้งศีรษะหรือสีด่างได้
Do You Know?
สีผมแบบกล่องที่ทำเองได้มีข้อดีคือง่ายและราคาไม่สูง แต่ก็เหมาะกับการทำสีทั่วไป แต่ผลลัพธ์นั้นมีความเป็นไปได้ที่ค่าสีจะไม่ตรงเหมือนกับสีผมของนางแบบบนกล่อง เนื่องจากพื้นสีผมแต่ละคนมีความต่างกัน รวมถึงบางสีอาจต้องอาศัยการฟอกสีโดยเฉพาะเฉดสว่าง
ELLE Says: สำหรับคนที่ย้อมสีผมครั้งแรกแนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญมากกว่าการย้อมด้วยตัวเอง เพราะต่อให้สีจะหลุดไปแล้วแต่เม็ดสียังคงติดอยู่ ทำให้หลายคนเจอปัญหาอยากย้อมผมดำแต่ไม่ติดสีดำ หรือสีอาจเพี้ยนได้เมื่อต้องการเปลี่ยนสีผมใหม่
ELLE Recommend
Color Perfecting Shampoo with Hibiscus Flower Extract แชมพูสำหรับผมทำสีและไฮไลต์เพื่อคงประกายสีจากการสระซ้ำ (200 มล. 2,750 บาท) จาก SISLEY
No. 0 Intensive Bond Building Hair Treatment ซ่อมแซมเส้นผมตั้งแต่โคนจดปลายแล้วล้างออก (155 มล. 1,490 บาท) จาก OLAPLEX
Invati Advanced Thickening Conditioner ครีมนวดบำรุงเส้นผมให้เงางาม (200 มล. 1,820 บาท) จาก AVEDA
Collection Restorative Hair Mask มาสก์บำรุงเส้นผมเพียงสัปดาห์ละครั้ง (1,490 บาท) จาก ACT+ACRE
Hair Oil ใช้เพียง 1-3 หยด ชโลมลงบนผมเปียกหมาดๆ (45 มล. 1,220 บาท) จาก OUAI
TEXT: TITTAYA LEKPETCH