ด้วยความคุ้นเคยกับแบรนด์ Dior Beauty จึงรู้ดีว่าทีมวิจัยและพัฒนา Dior Science นั้นเพิ่มพูนการพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ความงามให้ล้ำหน้าอยู่เสมอ แน่นอนว่าความมุ่งมั่นนี้ทำให้ทุกคนทั่วโลกต่างก็ได้รับผลลัพธ์อันน่าทึ่งทุกๆ ครั้งที่ดิออร์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
และอีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามระดับสูงที่ได้รับเสียงตอบรับและคำชื่นชมมาโดยตลอดคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ Prestige ซึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะมีส่วนประกอบสำคัญของดิออร์และยังอยู่ในเรื่องราวของคริสเตียน ดิออร์เสมอมานั่นคือกุหลาบ Rose de Granville ดอกกุหลาบในสวนของดิออร์ที่ผลิบานในแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส สวนที่เอาไว้ปลูกดอกกุหลาบโดยเฉพาะ และอยู่ไม่ไกลจาก Les Rhumbs วิลล่าของครอบครัวคริสเตียน ดิออร์ ด้วยคุณสมบัติที่ยังคงความสวยงามต่อทุกสภาวะ แม้จะตระหง่านอยู่บนหน้าผาที่เจอทั้งแรงลม ฝนพายุ หรือแดดจ้า Rose de Granville ก็ยังคงสภาพสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ สวนแห่งนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกแบบควบคุม ยั่งยืน 100% ตรวจสอบย้อนกลับได้ 100% และเป็นของดิออร์ 100%
ทางทีม Dior Science ได้ศึกษาเรื่องราวของกุหลาบสายพันธุ์นี้มาอย่างยาวนานถึง 20 ปี แต่ละองค์ประกอบได้ถูกนำมาพัฒนาเป็นส่วนผสมสำคัญในหลายๆ ผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับ Dior Prestige การค้นคว้าได้ถูกดำเนินไปจนค้นพบว่าดอกตูมของดอกกุหลาบแรกแย้มของ Rose de Granville ดอกกุหลาบตูมที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความยืดหยุ่นและชีวิตชีวา ช่วงเวลาที่ว่านั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ปีละครั้งระหว่างช่วงสิ้นฤดูหนาวและจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ มีเวลาเพียงแค่ 1 วันที่จะเก็บเกี่ยวหน่อกุหลาบแรกตูมที่มีพลังชีวิตสูงสุด และต้องเก็บด้วยมือภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนเข้าสู่กระบวนการสกัดคุณค่าดอกกุหลาบด้วยเทคโนโลยีที่จะคงคุณค่าสารอาหารบำรุงต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
Dior Science ได้คิดและพัฒนา Rosapeptide Premier จากดอกกุหลาบ Rose de Granville และได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรวม Rosapeptide ดั้งเดิมเข้ากับสารสกัด cryo-extract ของดอกกุหลาบตูมดอกแรก โดยมีคุณสมบัติในการปกป้องและฟื้นบำรุงผิวหนังชั้นนอกและช่วยยับยั้งปัจจัยต่างๆ จากภายนอก
ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ใน Dior Prestige Le Nectar Premier เซรั่มเข้มข้นอุดมด้วยประสิทธิภาพการฟื้นบำรุงให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ แน่นกระชับ สภาพโดยรวมของผิวดูเรียบเนียน โทนสีผิวดูสม่ำเสมอ เปล่งประกายสุขภาพดี ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อสัมผัสลงบนผิวจะกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ รู้สึกสบายผิว และอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของดิออร์คือความงามอย่างยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้วัสดุที่มีส่วนผสมรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งมีการใช้แก้วและกล่องกระดาษนับเป็น 89% ของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ดิออร์ได้เปลี่ยนแปลงการใช้เทคนิคปั๊มทองไปใช้การพิมพ์หมึกสีดำออร์แกนิกเพื่อการรีไซเคิลขวดแก้วทำได้ง่ายขึ้น และในขณะเดียวกันก็เป็นการลดขั้นตอนการพิมพ์อีกด้วย บรรจุภัณฑ์ของ The Nectar ทำจากกล่องกระดาษรีไซเคิล 100% และออกแบบให้สามารถรีฟิลได้โดยยังคงความหรูหราเช่นเคย
ELLE Tips
- เพื่อยกระดับให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ควรใช้ Dior Prestige La Micro-Huile de Rose ร่วมกับ Dior Prestige Le Nectar Premier สำหรับผลลัพธ์ผิวที่ดูเปล่งประกายและริ้วรอยแลดูจางลง
- ใช้ Dior Prestige Le Nectar Premium ก่อนทา Dior Prestige La Crème จะช่วยเสริมศักยภาพการฟื้นบำรุงและเพิ่มความนุ่มแน่นให้แก่ผิว
- ผลิตภัณฑ์ Dior Prestige Le Nectar Premier ได้ถูกออกแบบเนื้อสัมผัสมาให้มีโมเลกุลขนาดใกล้เคียงผิวหนังจึงทำให้เนื้อเซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี
