สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าสาวกเคป๊อบไม่ใช่น้อย กับการเปิดตัวบอยกรุ๊ปน้องใหม่ในรอบ 6 ปีของค่ายเพลง BIGHIT หลังจากที่วงรุ่นพี่อย่าง BTS และ TOMORROW X TOGETHER ต่างพากันประสบความสำเร็จในระดับโกลบอลกันมาแล้ว และการกลับมาครั้งนี้กับวงน้องสุดท้องอย่าง CORTIS พวกเขาก็ได้เตรียมที่จะเสิร์ฟสีสันใหม่ๆ ในยุคที่ดนตรีค่อยๆ ทลายเส้นแบ่งและเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน แอลจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับพวกเขามากยิ่งขึ้น
COLOR OUTSIDE THE LINES
นอกจากชื่อวงจะสะดุดตาแล้ว ที่มาของชื่อเองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน กับ CORTIS ซึ่งย่อมาจาก COLOR OUTSIDE THE LINES อันแปลว่า สีสันนอกกรอบ สะท้อนถึงความต้องการที่จะก้าวล้ำเหนือเส้นพรมแดนที่ขีดแบ่งผู้คนทั่วโลกเอาไว้ ผ่านความคิดสร้างสรรค์อันเป็นอิสระ ไม่ยึดติดกับกรอบมาตรฐานต่างๆ และกฎเกณฑ์ที่โลกตั้งไว้

5 COLORS INTO CORTIS
เมื่อคอนเซ็ปต์ของวงคือการข้ามผ่านเส้นแบ่ง เหล่าเมมเบอร์จึงเป็นตัวแทนของ 5 หนุ่มรุ่นใหม่ต่างคาแร็กเตอร์ผู้เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรรค์และพร้อมที่จะถ่ายทอดเรื่องราวอันหลากหลายของตนผ่านผลงานที่ต่างก็มีส่วนร่วมในการผลิตกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในพาร์ทของการแต่งเพลง เรียบเรียงดนตรี การออกแบบท่าเต้น หรือแม้กระทั่งการถ่ายทำวิดีโอและคอนเทนต์ต่างๆ โดยไม่ยึดติดกับบทบาทที่ตายตัว
แม้จะยังอายุน้อย แต่ความสามารถของสมาชิกวงนั้นเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น Martin (2008) หนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-แคนาดา ผู้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าวง และ James (2005) หนุ่มลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน ซึ่งทั้งคู่เคยมีประสบการณ์ร่วมโปรดิวเซอร์ของศิลปินรุ่นพี่ในค่ายมาแล้วมากมาย รวมไปถึงเมมเบอร์คนอื่นๆ ในวงอย่าง Juhoon (2008), Seonghyeon (2009), Keonho (2009) เองก็มีส่วนในการโปรดิวซ์ทั้ง 5 เพลงจากอีพีอัลบั้มเดบิวต์ของพวกเขาอย่าง COLOR OUTSIDE THE LINES ด้วยเช่นกัน





Let’s ‘GO!’ Debut
หนุ่มๆ วง CORTIS ได้เผยโฉมเป็นครั้งแรกพร้อมกับปล่อยมิวสิกวีดีโอสำหรับเพลงพรีรีลิสที่มีชื่อว่า ‘GO!’ เสิร์ฟซาวด์สุดเอกลักษณ์ที่ผสมผสานกลิ่นอายความฮิปฮอปและป๊อบเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยังมีความพิเศษที่เมมเบอร์ทั้งห้าคนต่างมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงนี้ ถือเป็นการประเดิมประกาศศักดาว่า พวกเขาพร้อมแล้วที่จะแต่งแต้มสีสันให้กับโลกในแบบฉบับของตนเอง ก่อนจะเดบิวต์อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ผ่านอีพีอัลบั้มที่มีชื่อว่า COLOR OUTSIDE THE LINES โดยมีเพลงไตเติลคือ What You Want พร้อมกับอีก 4 เพลงที่พวกเขาโปรดิวซ์ด้วยตนเอง รอจับตาดูกันได้เลย!