แม้จะเป็นนักแสดงเจ้าของรางวัล Emmy จากซีรี่ส์ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม Ballroom อย่าง ‘POSE’ แต่ Billy Porter เองก็ยังคงเจอความยากลำบากในเรื่องฐานะทางการเงิน หลังเขาให้สัมภาษณ์ว่าจากการประท้วงหยุดงานร่วมกับ SAG-AFTRA ในครั้งนี้ เขาต้องขายบ้านของเขาไปเพื่อประหยัดเงิน เพราะงานในอนาคตของ Billy ก็ถูกเลื่อนไปหมด
“ใช่สิผมต้องขายบ้าน เพราะเราประท้วงหยุดงานกันอยู่ แล้วจะกลับไปทำงานเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่แหละชีวิตของศิลปินน่ะ ถ้าคุณไม่ได้รวยล้นฟ้า คุณก็ยังต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือนอยู่อย่างนี้ ผมควรจะได้ไปถ่ายหนังเรื่องใหม่ กับรายการทีวีอีกรายการที่จะฉายในเดือนกันยายนแล้ว แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่บอกว่า ‘เราจะปล่อยให้พวกเขาอดอยากจนขายบ้านขายช่องทิ้ง’ คุณก็ทำผมอดอยากแล้ว”
Billy Porter อธิบายถึงสถานการณ์ที่เขากำลังเจอ และยังได้พูดถึงคำพูดจากผู้บริหารในฮอลลีวูดคนหนึ่งที่เคยพูดเอาไว้ว่าทางสตูดิโอของเขาจะไม่เจรจากับ WGA หรือ Writers Guild of America จนกว่าพวกสมาชิกจะหมดตัวไปเอง นอกจากนี้เขายังประณาม Bob Iger ซีอีโอของดิสนีย์ด้วยว่าแม้บริษัทจะมีรายได้จากการมาถึงของสตรีมมิ่ง แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนสัญญาอะไรให้เป็นธรรมต่อคนทำงาน หลัง Bob Iger วิจารณ์ว่าคำเรียกร้องของ WGA และ SAG-AFTRA มันมากเกินไป
“คุณบอกว่าค่าแรงที่เราขอมันเป็นไปไม่ได้ ในขณะที่คุณทำเงินได้มากถึง 78,000 เหรียญต่อวันน่ะเหรอ?”
Billy Porter กล่าวต่อซีอีโอของดิสนีย์
การที่ Billy Porter ออกมาพูดถึงความลำบากที่เขาเจอในตอนนี้ ไม่ใช่เพื่อโจมตีถึงการประท้วงหยุดงานที่ทำให้เขาไม่มีรายได้ แต่เขาต้องการแสดงจุดยืนต่อผู้มีอำนาจว่าเขาจะยังคงสู้ต่อไป แม้ว่าจะต้องเสียบ้านหรือเสียงาน เพราะสิทธิที่จะได้รับค่าแรงและสวัสดิการที่เป็นธรรมต่อคนทำงานในวงการนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาและคนที่ร่วมสู้อีกหลายแสนคนควรได้เช่นกัน
Text: PRYFHA WANNAMAETHANGKKON