Saturday, November 1, 2025

5 ข้อที่จะทำให้เข้าใจกฎ 7 คะแนน สูตรลับตัวช่วยที่จะทำให้คุณแต่งตัวยังไงก็ดูดี

เราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนเคยเจอเช้าที่ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านานเกินความจำเป็น ทั้งที่เสื้อผ้าก็แน่นเต็มราว แต่กลับรู้สึกว่า ‘ไม่มีอะไรจะใส่’ หรือไม่ก็ใส่แล้วแต่ยังรู้สึกว่า ‘ลุคมันยังไม่สุด’ ปัญหานี้ไม่ใช่เพราะคุณไม่มีเซนส์แฟชั่น หรือเสื้อผ้าคุณไม่ดีพอ แต่อาจเป็นเพราะเราขาดกฎเล็กๆ ที่ช่วยจัดระเบียบความคิดเวลาแต่งตัว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ กฎ 7 คะแนน หรือ The 7‑Point Rule of Fashion ซึ่งกำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิงที่รักแฟชั่นแต่เบื่อกับความรู้สึก ล้น หรือ จืด ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน กฎนี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จ แต่มันคือไกด์ไลน์สนุกๆ ที่ช่วยให้คุณแต่งตัวได้อย่างพอดี แอลจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สิ่งสำคัญที่อยู่เบื้องหลังกฎ 7 คะแนน ไม่ใช่แค่เพื่อแต่งตัวให้ ดูดี แต่เพื่อเข้าใจว่าทำไมลุคบางลุคถึงเวิร์ก

#1 The Viral Rule That Works

    กฎนี้ถือกำเนิดจากคอนเซ็ปต์ง่ายๆ ที่ว่าทุกชุดที่เราสวมใส่ควรมีความพอดีระหว่าง ความเรียบง่าย และ ความโดดเด่น ฟังดูพื้นฐานใช่ไหม? แต่คำว่า ‘พอดี’ ในโลกแฟชั่นกลับเป็นเรื่องยากที่สุดเสมอ เพราะในแต่ละวัน เราอาจจะดูธรรมดาเกินไป หรือล้นเกินเหตุโดยไม่รู้ตัว

    แนวคิดของกฎ 7 คะแนนจึงเสนอว่า ให้เราลอง ‘ให้คะแนน’ กับแต่ละไอเท็มในชุด ถ้าเป็นชิ้นเบสิก อย่างเสื้อยืดเรียบ กางเกงผ้ายืด รองเท้าทรงคลาสสิก ให้ 1 คะแนน แต่ถ้าเป็นชิ้นที่โดดเด่น มีสีสัน ลวดลาย วัสดุแปลกตา หรือเป็นเครื่องประดับที่สะดุดตา ให้ 2 คะแนนจากนั้นนับรวมให้ได้ประมาณ 7 หรือ 8 คะแนน เพราะในระดับนี้ ลุคของคุณจะดูมีเลเยอร์ แต่ไม่ล้น และดูแฟชั่นโดยไม่ต้องตะโกนใส่คนทั้งโลกว่า ‘ฉันอินเทรนด์!’

    ทั้งหมดเริ่มต้นจากไวรัลของคนกลุ่มหนึ่งที่แชร์วิดีโอแต่งตัวในแต่ละวัน พร้อมใส่เสียงพากย์ว่า ’This is a 1-point shirt… 2-point pants… how many points is this outfit? และคำแนะนำคือ พยายามให้ลุคของคุณรวมแล้วได้ประมาณ 7–8 คะแนน แค่ฟังอาจดูไร้สาระ แต่วิดีโอพวกนั้นกลับได้รับยอดวิวหลักล้าน และคอมเมนต์อย่าง “OMG this makes sense now”, “I finally understand why my outfit never looks finished” ก็ทยอยตามมาแบบไม่หยุดหย่อน เพราะช่วยให้หลายคนเข้าใจว่า ‘ลุคที่ดี’ ไม่ได้มาจากการซื้อเสื้อผ้าใหม่เสมอไป แต่มาจากการจัดวางไอเท็มให้บาลานซ์ต่างหาก

    #2 Style Points That Balance Your Look

    ให้ลองมองตัวเองในกระจกเหมือนเป็นบอร์ดแฟชั่นโชว์ แล้วไล่ดูตั้งแต่หัวจรดเท้าว่าคุณใส่อะไรอยู่บ้าง เสื้อสีพื้น, กระโปรงพลีต, รองเท้า, แมรี่เจน, กระเป๋าทรงกล่องสีสด จากนั้นให้คะแนนแต่ละชิ้นอย่างตรงไปตรงมา อย่าหลอกตัวเองว่ากระเป๋าสีครีมเรียบๆ คือ statement piece เพียงเพราะมันราคาแพง

    เสื้อโปโลลายทาง = 2
    กางเกงขาสามส่วนติดเพชร = 2
    เสื้อโค้ตตัวนอก = 1
    เข็มขัดสีขาวและผ้าเช็ดหน้า = 1
    รองเท้าส้นสูงหัวเปิด = 1

    รวมกันเป็น 7 คะแนนพอดิบพอดี ลุคนี้ไม่จำเป็นต้องใส่สร้อยเพิ่ม หรือเติมเครื่องประดับอีก ถ้าไม่อยากให้คะแนนพุ่งเกิน 8 เพราะอาจทำให้ลุคดูรกเกินไปโดยไม่รู้ตัวแต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณสวมชุดเรียบๆ เบสิกทั้งหมด เช่น เสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ รองเท้า slip-on รวมได้แค่ 3 คะแนน นั่นแปลว่าลุคยังขาดมิติบางอย่าง อาจลองเพิ่มผ้าพันคอลายสนุกๆ ต่างหูห่วง หรือแว่นตาทรงเรโทร เพื่อยกระดับลุคขึ้นมาจนแตะ 7 คือการ เติมและลดอย่างมีชั้นเชิง คล้ายกับการปรุงรสอาหารที่กลมกล่อมไม่มากไม่น้อยไป

    #3 Every Item Counts

      ความเข้าใจผิดอันดับหนึ่งของคนที่ไม่ชอบกฎในแฟชั่นคือ คิดว่ามันจะจำกัดความเป็นตัวเอง แต่กฎ 7 คะแนนไม่ได้มีไว้เพื่อให้ทุกคนแต่งเหมือนกัน มันมีไว้เพื่อให้ ทุกคนแต่งในแบบของตัวเองได้ ‘ลงล็อก’ มากขึ้น ต่างหูห่วงของคนหนึ่งอาจเป็น 2 คะแนนที่เสริมลุคเรียบๆ ให้ดูเท่ขึ้น ส่วนแจ็กเก็ตหนังของอีกคนอาจเป็นจุดนำสายตาในลุคที่เหลือเรียบมาก และที่สำคัญกว่านั้นกฎนี้ไม่ได้บังคับให้คุณซื้ออะไรเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว มันกลับเปิดมุมมองใหม่ให้คุณเห็นว่าไอเท็มเก่าๆ ที่เคยน่าเบื่อ อาจกลายเป็นหมากสำคัญในเกมการแต่งตัว หากคุณรู้ว่าจะจับมันไปวางตรงไหนในสมการ 7 คะแนนนี้แฟชั่นไม่ใช่การวิ่งตามเทรนด์ แต่มันคือการเลือกใช้สิ่งที่มีให้ดูน่าสนใจขึ้นทุกวัน และกฎนี้ทำให้สิ่งนั้นง่ายขึ้นกว่าที่คิด

      #4 It’s a Rhythm Not a Rule

      แม้จะมีกฎช่วยให้แต่งตัวง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ควรยึดติดกับตัวเลขเกินไป ลุคที่นับคะแนนได้พอดีเป๊ะอาจยังดูไม่ดี หากไอเท็มแต่ละชิ้น ‘ไม่คุยกัน’ เช่น กระเป๋าแนวโบฮีเมียน คู่กับเบลเซอร์มินิมัล และรองเท้าสปอร์ตฟิวเจอริสติก แม้รวมได้ 7 คะแนน แต่ก็อาจดูเหมือนสามลุคที่เดินชนกันบนร่างกายคนเดียว ความลงตัวของลุคจึงต้องอาศัยมากกว่าคะแนน แต่ต้องมีรสนิยม มุมมอง และความกล้าทดลองประกอบกันด้วย

      ยิ่งไปกว่านั้น บางวันคุณอาจรู้สึกอยากได้ ‘คะแนนต่ำ’ เพราะอยากปล่อยลุคสบาย ๆ สำหรับเดินเล่นตลาดนัดวันอาทิตย์ หรือบางวันอาจเต็ม 10 คะแนน เพราะอยากเด่นบนฟลอร์ปาร์ตี้ และนั่นคือเรื่องปกติ ความงามของกฎนี้คือ มันไม่ตัดสินว่าอะไรผิดหรือถูก แต่ให้โครงสร้างที่คุณสามารถเลือกเบี่ยงเบนได้อย่างมีจุดยืน

      #5 Can’t Decide Just Aim for 7

      เมื่อคุณเริ่มมองการแต่งตัวผ่านเลนส์ของกฎ 7 คะแนน คุณจะเริ่มสนุกกับการวางหมากแฟชั่นของตัวเองในแต่ละวันมากขึ้น คุณจะไม่หยิบเสื้อยืดขาวมาเพียงเพราะมันง่าย แต่จะหยิบเพราะคุณรู้ว่ามันช่วยถ่วงน้ำหนักให้แจ็กเก็ตลายเสือดาวที่คุณเลือกไว้ในวันนี้ไม่ดูเยอะเกินไป และเมื่อคุณเดินออกจากบ้านด้วยลุคที่คิดมาแล้วอย่างสมดุลคุณจะไม่ต้องถามใครว่า ‘วันนี้แต่งตัวโอเคมั้ย’ เพราะคุณจะรู้เองว่า มันพอดีสำหรับคุณ แค่นั้นก็พอ ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบ สไตล์ที่ดีไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นพูดว่าใช่ แต่คือสิ่งที่คุณใส่แล้วรู้สึกว่า ‘นี่แหละตัวฉัน’ บางครั้งความมั่นใจทั้งหมดในวันหนึ่งอาจเริ่มต้นจากแค่การรู้ว่า วันนี้คุณแต่งตัวได้ ‘กี่คะแนน’

      source: ELLE US

      Latest Posts

      Don't Miss