Monday, April 28, 2025

5 ข้อชวนรู้จักงาน ‘Watches and Wonders’ มหกรรมสุดยิ่งใหญ่แห่งปีที่คนรักนาฬิกาต่างเฝ้ารอ!

ทางฟากแฟชั่นมี ‘แฟชั่นวีก’ ที่ตลอดทั้งสัปดาห์นั้น เหล่าดีไซเนอร์ได้มาเผยโฉมผลงานการรังสรรค์ในคอลเล็กชั่นล่าสุดพร้อมอัพเดตเทรนด์น่าสนใจประจำฤดูกาล ซึ่งถูกนำมาผสมผสานกับดีเอ็นเอประจำแบรนด์อย่างลงตัว เช่นเดียวกับทางฝั่งยนตกรรมที่มีงานมอเตอร์โชว์ให้เหล่าแบรนด์รถยนต์ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมล่าสุด แน่นอนว่าทางฝั่งนาฬิกาเองก็ไม่น้อยหน้า มีสัปดาห์แห่งนาฬิกาด้วยเช่นกัน และนั่นคืองาน Watches and Wonders ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 1-7 เมษายนนี้ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับความยิ่งใหญ่กว่าเคย แอลเลยขอสรุปเรื่องราวของงานมหกรรมเรือนเวลาครั้งสำคัญนี้ให้ทุกคนได้รู้จักมากยิ่งขึ้น

What is ‘Watches and Wonders’?

งาน Watches and Wonders ถือเป็นงานแสดงนาฬิกาประจำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้น ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตลอดหนึ่งสัปดาห์ของงานนี้ หลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลกจะจัดแสดงผลงานนาฬิกาต่างๆ รวมไปถึงคอลเล็กชั่นน่าสะสมและมรดกตกทอดของแบรนด์ อัพเดตดีไซน์และนวัตกรรมล่าสุดที่พิสูจน์ทั้งความสร้างสรรค์และอัจฉริยะแห่งผู้คนเบื้องหลังแวดวงนาฬิกา ตลอดจนเผยโฉมเรือนเวลารุ่นล่าสุดอย่างเป็นทางการ และแม้ว่าเราจะอยู่ในยุคสมัยที่การเปิดตัวนาฬิกาเรือนใหม่จะสามารถทำได้ทุกเมื่อทุกเวลา ต่างจากอดีตที่การเดินทางเป็นเรื่องที่ยากและอินเทอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึงทุกภาคส่วน แต่ก็ยังมีหลากหลายแบรนด์ที่ยังคงเลือกที่จะใช้พื้นที่สำคัญตรงนี้ฉายแสงไปยังนาฬิการุ่นไฮไลต์ ถือเป็นการเฉลิมฉลองแด่วัฒนธรรมการผลิตนาฬิกาอย่างแท้จริง

นอกจากกรุงเจนีวาแล้ว งาน Watches and Wonders ยังได้มีการขยายไปจัดในเมืองอื่นๆ ของประเทศจีนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นงาน Watches and Wonders Shanghai ที่เซี่ยงไฮ้ และ Watches and Wonders Hainan ที่เกาะไหหลำ ถือเป็นการตอกย้ำถึงสำคัญของตลาดอุตสาหกรรมนาฬิกาที่ไม่ได้อยู่เพียงจากฝั่งตะวันออก แต่ยังรวมไปถึงโซนเอเชียด้วยเช่นกัน

From SIHH To Watches and Wonders

ก่อนจะมาเป็นงาน Watches and Wonders ที่เราคุ้นเคยกันในทุกวันนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 ที่กรุงเจนีวาก็ได้มีงาน Salon International de la Haute Horologie (SIHH) ซึ่งมุ่งเน้นการจัดแสดงนาฬิการะดับสูง หรือ Haute Horlogerie ที่ผลิตผ่านกลไกอันซับซ้อนและงานฝีมืออันประณีต โดยมีแบรนด์หรูในเครือ Richemont เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Cartier, Piaget และรวมไปถึงแบรนด์อิสระอื่นๆ ซึ่งผู้ที่สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้ก็จะมีเพียงผู้ได้รับเชิญ อย่างแขกวีไอพี สื่อ หรือผู้ค้าปลีกเท่านั้น

จากจำกัดผู้เข้าชมเพียงเฉพาะกลุ่ม เมื่อเวลาผ่านไปงานนี้เปิดขยายให้เข้าถึงผู้คนที่ชื่นชอบนาฬิกาได้มากยิ่งขึ้น พร้อมความตั้งใจที่จะนำเสนออุตสาหกรรมนาฬิกาสู่โลกทั้งใบ โดยเฉพาะในปี 2020 ที่ได้เปิดรับหลากหลายแบรนด์นอกจากในเครือมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Rolex, Patek Philippe, Chanel, Chopard และอีกมากมาย พร้อมเปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘Watches and Wonders’ ในปีนั้น และแม้งานแสดงจริงๆ จะต้องยกเลิกไปจากการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของเชื้อโควิด-19 แต่งานนี้ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบมาจัดเป็นออนไลน์ ถือเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง ก่อนที่จะได้กลับมาจัดอีกครั้งในปี 2022 พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาร่วมงานได้ด้วยเช่นกัน

Who Can Attend?

เมื่อสัปดาห์แห่งเรือนเวลามาถึงมักมีความพิเศษที่ซ่อนอยู่ภายในงานเป็นประจำทุกๆ ปี เช่นเดียวกับปีนี้ ที่ไม่เพียงแต่่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เหล่านักสะสมที่ได้รับเชิญ ไปจนถึงสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจต่องาน Watches and Wonders เพียงเท่านั้น แต่บุคคลทั่วไปก็สามารถเข้ามาชื่นชมความสวยงามของการจัดงานครั้งนี้ได้ โดยได้มีการจำหน่ายบัตรเพื่อเข้าชมให้กับรอบบุคคลธรรมดาได้สัมผัสประสบการณ์และชื่นชมความสวยงามจากหลากหลายแบรนด์นาฬิกาทั่วโลกอีกด้วย ทั้ง Premium Package ที่จะพาเจาะทุกองศาของงาน ไปจนถึง One Day Ticket , Two Day Ticket และ Three Day ticket

ความพิเศษของเราเมื่อได้เข้าร่วมงาน Watches and Wonders ไม่เพียงแต่จะได้ชื่นชมความสวยงามจากเรือนเวลาแต่งานยังใส่ใจรายละเอียดด้วยการมอบประสบการณ์สุดพิเศษประหนึ่งว่าคุณคือลูกค้าระดับวีไอพี รวมถึงการได้รับการบริการจากเลาจน์ที่มีทั้งเครื่องดื่มและอาหารหลากหลาย และไฮไลต์สำคัญคือการที่เราทุกคนจะได้มีผู้นำทัวร์ที่คอยแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับนาฬิกาให้ตลอดการเข้าชม อีกทั้งของขวัญพิเศษที่งานได้จัดเตรียมไว้ให้ นับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่ได้มีเพียงแค่การซื้อบัตรเข้างานหรือได้รับของขวัญสุดพิเศษ แต่นับเป็นการซื้อประสบการณ์ให้เหล่านักสะสมรวมถึงแฟนๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้อินไปกับประวัติศาตร์ของเรือนเวลาในแต่ละเมซแบบเต็มเปี่ยม!

About This Year

ปีนี้นับว่าเป็นปีที่จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การรวมตัวของแบรนด์นาฬิกาเพราะอาจพูดได้ว่า นอกจากแบรนด์ที่หลากหลายมากขึ้นโดยมีมากถึง 60 แบรนด์ ยังมีความ ‘แปลกใหม่’ มากขึ้น จากผลงานการออกแบบที่น่าจับตามองและเป็นมาสเตอร์พีซที่หลายคนโปรดปรานและอยากเป็นเจ้าของ อีกทั้งกิจกรรมภายในงานที่รวบรวมไว้แบบอัดแน่น ให้คนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมได้ 

ความพิเศษของปีนี้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอในของแต่ละแบรนด์ผ่านผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีไกด์ที่จะพาเราออกเดินไปยังจุดต่างๆ และเปิดประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟอีกครั้งด้วย LAB ที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักในทุกรายละเอียดของการ ‘กว่าจะมาเป็นเรือนเวลา’ ในทุกองศาและชิ้นส่วน ทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ ไปจนถึงงานฝีมือที่ถูกทำขึ้นในทุกฝีเย็บและการสร้างนาฬิกา 1 เรือน  

The Highlights

ไฮไลท์สุดพิเศษจากเวทีแห่งเรือนเวลา ปีนี้ Watches and Wonders 2025 กลับมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ด้วยจำนวนแบรนด์ที่เข้าร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 60 แบรนด์ นำโดย BVLGARI ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน พร้อมกับการเสริมทัพจากแบรนด์อิสระสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ไม่ว่าจะเป็น Christiaan van der Klaauw, Genus, Kross Studio, MeisterSinger, Armin Strom และ HYT อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของปีนี้คือการเปิดเวทีให้กับเจเนอเรชั่นใหม่ของวงการเรือนเวลา ผ่านผลงานของผู้ฝึกงาน และช่างฝีมือรุ่นใหม่ที่ถูกนำเสนออย่างโดดเด่นทั้งในงานหลักและกิจกรรม In the City ที่จัดขึ้นทั่วเมืองเจนีวา

แน่นอนว่างานนี้ขาดการเปิดตัวเรือนเวลารุ่นพิเศษไม่ได้ เริ่มจาก Vacheron Constantin ที่สร้างความตื่นตาด้วย Les Cabinotiers Solaria Ultra Grand Complication – La Première นาฬิกาที่มาพร้อม 41 ฟังก์ชันสุดซับซ้อน ขณะที่ Patek Philippe ปล่อย Calatrava ref. 6196P-001 ที่ดีไซน์เรียบหรูแต่ทรงพลัง ส่วน Tudor ก็นำเสนอ Black Bay 68 และ Pelagos Ultra ที่อัปเกรดดีไซน์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น และปิดท้ายด้วย Rolex กับ Land-Dweller นาฬิกาสปอร์ตเรือนใหม่ที่เป็นไฮไลต์ของปีนี้ จึงเป็นงานที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ ทั้งในแง่ของการเข้าร่วมของแบรนด์ใหม่ การเน้นย้ำถึงเยาวชน และการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ

Latest Posts

Don't Miss