Saturday, November 1, 2025

นี่คือ 5 สิ่งที่เราเรียนรู้ผ่าน ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ มรดกล้ำค่าที่กลายมาเป็นความร่วมสมัย

เพราะชุดไทยไม่เพียงเป็นเครื่องแต่งกาย หากยังสะท้อนถึงรากเหง้าและอัตลักษณ์ความเป็นชาติ งานนิทรรศการ ‘ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม’ จึงจัดขึ้นเพื่อเชื้อเชิญให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการแต่งกายแบบไทย เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของ ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ ทั้ง 8 แบบ และร่วมภาคภูมิใจในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังคงร่วมสมัย

#1 The Objective

นิทรรศการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์การแต่งกายแบบไทย โดยมุ่งให้คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวเห็นคุณค่า รวมถึงเกิดแรงบันดาลใจในการสืบสานวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน

#2 The Beginning  

ปี 2503 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เยือนต่างประเทศ ในฐานะพระราชินีผู้เป็นดั่งตัวแทนของชาติ พระองค์ทรงเห็นว่าการปรากฏพระองค์จำเป็นต้องมีเครื่องแต่งกายที่แสดงเอกลักษณ์ชัดเจน จึงเริ่มต้นแนวคิดการออกแบบเครื่องแต่งกายแบบใหม่ที่ผสานความงามแบบไทยโบราณกับความร่วมสมัยสากล จากพระราชดำริครั้งนั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้เชี่ยวชาญค้นคว้าการแต่งกายในราชสำนักโบราณ แล้วนำมาประยุกต์เข้ากับการตัดเย็บสมัยใหม่ เพื่อสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายที่สง่างามและใช้งานได้จริง ก่อนพัฒนาเป็น ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นต้นแบบของชุดประจำชาติไทยที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

#3 Key of ‘Chud Thai’

หัวใจของนิทรรศการนี้คือการจัดแสดงฉลองพระองค์จริงทั้ง 8 แบบ ซึ่งแต่ละชุดไม่เพียงสะท้อนความงดงามเชิงศิลป์ของการออกแบบและการทอผ้าเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงสถานะ กาลเทศะ และบริบททางสังคมในแต่ละยุคสมัย ความแตกต่างของรูปแบบทำให้ ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ กลายเป็นมากกว่าการแต่งกาย หากแต่เป็นภาษาที่ใช้เล่าเรื่องราวอัตลักษณ์ไทยได้อย่างชัดเจนในทุกโอกาส ตั้งแต่ชีวิตประจำวันจนถึงพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่

ชุดไทยเรือนต้น: ถือเป็นชุดที่เรียบง่ายที่สุดในบรรดาชุดไทยพระราชนิยม ใช้ในโอกาสไม่เป็นทางการ เสื้อเป็นแบบคอกลม แขนยาวสามส่วนหรือยาวตรง ตัดจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย สวมกับผ้านุ่งแบบป้ายยาวจรดข้อเท้า มักเลือกใช้ผ้าไหมพื้นหรือผ้าซิ่นที่มีลายขวางหรือลายเชิงบริเวณชายผ้า เหมาะสำหรับการแต่งกายทั่วไป นิยมใช้เครื่องประดับเพียงเล็กน้อย เช่น ต่างหูหรือเข็มกลัดขนาดเล็ก

ชุดไทยจิตรลดา  ลักษณะทั่วไปคล้ายชุดไทยเรือนต้น ลักษณะเด่นที่ต่างกันคือเสื้อแขนยาวจรดข้อมือ คอตั้งเล็กน้อย ทำจากผ้าไหมเรียบหรือไหมยกดอก สวมกับผ้านุ่งป้าย ใช้ผ้าไหมพื้นหรือผ้ายกที่มีลวดลายละเอียดแต่ไม่เน้นความหรูหราเกินไป เครื่องประดับที่เหมาะสม ได้แก่สร้อยคอเส้นบาง เข็มกลัด หรือกำไลที่ช่วยเสริมความสุภาพเรียบร้อย

ชุดไทยอมรินทร์ โครงสร้างคล้ายกับชุดจิตรลดาแต่เป็นทางการมากกว่า เหมาะกับงานพิธีการหรืองานในช่วงค่ำ ต่างกันตรงที่ตัดจากผ้ายกไหมแกมลายหรือยกทองทั้งตัว เสริมด้วยการสวมใส่เครื่องประดับ

ชุดไทยบรมพิมาน ใช้สำหรับพระราชพิธีหรืองานกลางคืนที่ต้องการความเป็นทางการสูง โดยจะเป็นเสื้อแขนยาว คอกลมชุดติดกันทั้งตัว และนุ่งจีบพร้อมสวมเข็มขัดทับ เครื่องประดับที่สวมใส่มักเป็นชุดเต็ม เช่น สร้อยคอ เข็มกลัด ต่างหู และกำไลตามเหมาะสม

ชุดไทยศิวาลัย เป็นชุดแบบเดียวกับชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มสะพักทับอีกชั้น โดยชุดนี้สามารถใช้ได้ในงานพระราชพิธีทั้งกลางวันและกลางคืน

ชุดไทยดุสิต เป็นชุดที่ใช้ในงานพิธีเต็มยศในตอนกลางคืน ลักษณะจะเป็นเสื้อคอกว้าง ไม่มีแขน ตัดเย็บด้วยผ้ายกไหม หรือยกทอง ผ้านุ่งเป็นผ้านุ่งจีบ ปักด้วยดิ้นเงิน ดิ้นทอง หรือลูกปัด

ชุดไทยจักรี อีกหนึ่งชุดที่ใช้ในงานพิธีกลางคืน ท่อนบนเปิดไหล่หนึ่งด้านเป็นสไบเย็บติดกับท่อนล่างที่เป็นผ้านุ่งจีบ สามารถเลือกใช้เป็นผ้าไหมยกทองทั้งตัวหรือยกเฉพาะเชิงก็ได้

ชุดไทยจักรพรรดิ  เป็นชุดใช้สำหรับงานพิธีเต็มยศในตอนกลางคืน ท่อนบนจะเป็นการห่มผ้าสองชั้น โดยชั้นในส่วนมากจะเป็นสไบจีบและห่มสะพักทับ ส่วนผ้านุ่งจะเป็นผ้านุ่งยกทองจีบหน้าเช่นเดียวกับชุดไทยจักรี สวมทับด้วยเข็มขัดและเครื่องประดับเข้าชุด

#4 The Royal Endorsement

นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมไทยแล้ว ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ทั่วโลกเห็นเอกลักษณ์และความวิจิตรของงานฝีมือไทย พระองค์ทรงวางรากฐานการแต่งกายประจำชาติไทยที่ทั้งสง่างามและร่วมสมัย สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ผู้หญิงไทยบนเวทีโลก

#5 The Experience 

นิทรรศการเปิดให้ชมตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ในพระบรมมหาราชวัง เวลา 09.00–16.30 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 15.30 น.) ด้วยบัตรเข้าชมราคาเริ่มต้นเพียง 50 บาท คุณจะได้สัมผัสฉลองพระองค์จริงอย่างใกล้ชิด เรียนรู้เรื่องราวการออกแบบ และซึมซับแรงบันดาลใจที่จะทำให้ ‘การแต่งกายแบบไทย’ ไม่ใช่แค่เรื่องของอดีต แต่เป็นส่วนหนึ่งของอนาคต

Latest Posts

Don't Miss