การแต่งหน้าและการดูแลตัวเองไม่จำเป็นต้องสวนทางกับการรักษ์โลก ‘Green Beauty’ จึงกลายเป็นแนวทางใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสวยอย่างมีจิตสำนึก ผ่านการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อทั้งผิวและสิ่งแวดล้อม เราจึงขอพาคุณไปรู้จักกับ Green Beauty ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร ต่างจาก Clean Beauty อย่างไร แล้วจะเลือกอย่างไรให้สวยอย่างยั่งยืนได้จริงในชีวิตประจำวัน
What is Green Beauty? ทางเลือกใหม่ของความสวยที่ไม่ทำร้ายโลก
‘ละทิ้งความงาม’ เพื่อ ‘ความยั่งยืน’ คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลายคน และไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดของคนยุคนี้ ทว่าการแสวงหาความยั่งยืนบนความพอดี และเกิดสมดุลของความงามและความยั่งยืนต่างหากที่เป็นคำตอบของสมการดังกล่าว ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของเทรนด์ความงามที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและแนวคิด green beauty การสร้างความงามจากธรรมชาติเพื่อโลกที่ยั่งยืน แต่ก็มีหลายคนตีความกรีนบิวตี้ผิดไป สับสนว่าอะไรคือกรีนบิวตี้ และอะไรคือ clean beauty คอลัมน์นี้ผู้เขียนเลยจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเรื่องกรีนบิวตี้ สวยรักษ์โลกคืออะไร ต้องทำอย่างไร และเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนถึงจะถูก

Green Beauty คือความงามที่ไม่ทำร้ายโลก งามอย่างมีสติทั้งภายในและภายนอก
กรีนบิวตี้เป็นแนวคิดของการเสริมสร้างความงามควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยจะใช้ทรัพยากรที่ยั่งยืนและหมุนเวียนได้ เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม การใช้วัตถุดิบจากชุมชน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม การใช้แพ็กเกจที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล หรือแพ็กเกจนั้นต้องรีไซเคิลได้ และไม่มีการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ รวมไปถึงส่วนผสมเป็นมิตรกับแหล่งน้ำและปะการัง เรียกว่าตั้งแต่การเลือกใช้ส่วนผสมไปจนจบกระบวนการผลิตต้องสร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

เริ่มเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่ากรีนบิวตี้ต่างจากความงามทั่วไปอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไรในโลกที่ฟุ่มเฟือยขยะเช่นนี้ ฉะนั้นเมื่อเราปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมความงามคือหนึ่งในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นต้นเหตุในการกระตุ้นให้เกิดโลกร้อนและขยะต่างๆ มากมาย ทว่าเราสามารถช่วยโลกได้ ด้วยการลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนขึ้น ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์จะสังเกตง่ายๆ 5 ข้อด้วยกัน
1. ดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สิ่งแวดล้อม งดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายควบคู่ไปกับการลดขยะที่ไม่จำเป็นจากบรรจุภัณฑ์
2. เลือกแพ็กเกจรีไซเคิลได้ รักษ์โลก ต้องไม่สร้างขยะ เลือกผลิตภัณฑ์ที่แพ็กเกจทำจากวัสดุรีไรเคิล หรือนำไปรีไซเคิลได้ โดยไม่สร้างขยะทางความงาม
3. ส่วนผสมและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เลือกครีมและเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ดูตั้งแต่กระบวนการปลูก เก็บเกี่ยว จนถึงขั้นตอนการสกัดออกมาว่ามีการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิตไหม
4. ไม่มีการทดลองกับสัตว์ เป็นมิตรกับแหล่งน้ำ เพราะสัตว์ทุกชนิดคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก ความงามในแบบกรีนบิวตี้จะไม่ทำร้ายหรือสนับสนุนให้มีการทดลองกับสัตว์ รวมไปถึงส่วนผสม แพ็กเกจต้องเป็นมิตรกับแหล่งน้ำและปะการัง
5. ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ซ้ำ ไม่ว่าจะ reuse replace หรือ recycle แนะนำให้เริ่มที่การเลือกเครื่องสำอางที่รีฟิลได้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้บรรจุภัณฑ์ซ้ำ หรือเครื่องสำอางแบบ zero waste makeup ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังย่อยสลายได้ 100%
สุดท้ายผู้เขียนเชื่อว่าโลกเราจะสวยและยั่งยืนได้ด้วยความงามตามแบบกรีนบิวตี้นี้ เห็นได้จากผู้บริโภคต่างเริ่มให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างเข้มงวดและรอบคอบมากขึ้น ทั้งยังไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับผิวของตัวเอง แต่ยังใส่ใจกับผลลัพธ์ที่จะไม่กระทบ หรือส่งผลกระทบกับโลกอย่างไรให้น้อยที่สุดนั่นเอง

Green Beauty VS. Clean Beauty ต่างกันอย่างไร?
เมื่อความงามไม่ใช่แค่เรื่องความสวยแต่คือการใส่ใจตัวเองและโลกไปพร้อมกัน ทำให้มีเทรนด์ความงามเพื่อสิ่งแวดล้อมออกมามากมาย จนหลายคนสงสัยและเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่า green และ clean จึงขออธิบายง่ายๆ แบบนี้ว่ากรีนบิวตี้คือความงามยั่งยืนเพื่อโลก ด้วยการเลือกใช้ส่วนผสมไปจนจบกระบวนการผลิต และเลือกบรรจุภัณฑ์ ต้องสร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ส่วนคลีนบิวตี้คือความปลอดภัยต่อผิวด้วยสูตรไร้สารเคมีรุนแรง พาราเบน ซัลเฟต และสารกันเสีย ที่เรียกกันว่า non-toxic beauty ไม่มีสารพิษที่ทำให้ผิวระคายเคือง หรือส่งผลกับผิวในระยะยาว
ELLE Try!
Invati Ultra Advanced Revitalizing Scalp Serum (3,600 บาท) จาก AVEDA

อยู่ในดีเอ็นเอของแบรนด์ตั้งแต่การเลือกส่วนผสมและไม่ทดลองกับสัตว์ เซรั่มช่วยบำรุงหนังศีรษะและปกป้องรูขุมขนจากปัจจัยภายนอก ช่วยให้เส้นผมสุขภาพดี เหมาะสำหรับผมเส้นบาง
Vinoperfect Brightening Dark Spot Serum (3,940 บาท) จาก CAUDALÍE

Caudalíe ทั้งปลูกต้นไม้ทดแทน ลดการใช้พลาสติก ไม่ใช้ส่วนผสมและทดลองในสัตว์ ทำให้ส่วนผสมของเซรั่มลดเลือนจุดด่างดำขวดนี้เข้มข้นไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและปรับสีผิวให้เรียบเนียนด้วย
Luna Sleeping Night Oil (4,520 บาท) จาก SUNDAY RILEY

ออยล์บำรุงผิวสำหรับกลางคืน ช่วยลดเลือนริ้วรอย ความแห้งกร้าน ทำให้ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้น สกัดจากน้ำมันทุกส่วน เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้การผลิตภัณฑ์ขยะจากน้ำมันเป็นศูนย์ (zero waste oil process)
Dr. Weil Mega Mushroom Treatment Lotion (1,800 บาท) จาก ORIGINS

น้ำตบสูตรใหม่ขวดนี้เป็นผลิตภัณฑ์วีแกน 100% และบรรจุภัณฑ์ใช้วัสดุรีไซเคิล 100% เนื้อบางเบา ซึมสู่ผิวเร็ว ช่วยฟื้นฟูผิวให้เเข็งเเรงและเรียบเนียน ทั้งยังลดรอยแดง กระชับรูขุมขน ปรับสีผิวดูสม่ำเสมอ
Gentle & Blance Conditioner Refill (ประมาณ 1,500 บาท) จาก L’OCCITANE

ครีมนวดผมสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่าย ช่วยปลอบประโลมปรับสมดุล พร้อมคืนความนุ่มลื่น และเงางามให้เส้นผม อุดมไปด้วยคุณค่าจากน้ำตาลพรีไบโอติกธรรมชาติ และปราศจากสารที่ไม่เป็นมิตรกับเส้นผม และไม่ทำลายธรรมชาติ