“กรุงเทพเมืองคอนเสิร์ต” คงเป็นคำพูดที่ไม่เกินจริง เพราะในปี 2024 ถือเป็นปีที่เมืองไทยมีคอนเสิร์ตเยอะมาก มีศิลปินตีตั๋วมาจัดแสดงที่ไทยเพียบ ในขณะเดียวกันงานคอนเสิร์ตและเฟสติวัลโดยศิลปินไทยเองก็คึกคักมาตั้งแต่ต้นปี หนึ่งในปรากฏการณ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาแรงจนกลายเป็นกระแสอย่าง T-POP คัมแบ็กได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่แค่งานเพลง แต่กลุ่มศิลปินไทยแทรกซึมรันวงการอื่นอีกด้วย ถ้าไม่เชื่อลองเลื่อนดูโฆษณาทีวีดูสิ ศิลปิน นักร้องไทยเพียบ! ELLE5Things วันนี้แอลจึงชวนทุกคนมาเจาะลึก 5 เรื่องราวความสำเร็จของ T-POP ที่ทำให้กระแสการฟังเพลงไทยบูมอีกครั้ง จนหลายคนหันกลับมาฟังเพลงไทยกันมากขึ้น
Beginning of A New ‘T-POP’ Wave
เราลองย้อนไทม์ไลน์และพบว่า T-POP นั้นกลายเป็นกระแสมาตั้งแต่ช่วงปี 2020 ซึ่งเราแอบตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่การระบาดของ Covid-19 น่าจะเป็นช่วงที่เหล่าคนทำเพลงปล่อยของกันเต็มที่ ผลประกอบการผ่านงานวิชวลและเสียงเพลง ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม โปรดักชั่น มิวสิกวิดีโอทุ่มทุน รวมทั้งความเปิดกว้างของทั้งช่วงวัย สไตล์เพลง ภาษาที่ใช้ และเราจะเห็นความสามารถของบรรดา LGBTQ+ แบบปังแบบสับ จนทำให้เป็นที่รู้จักหลากหลาย ซึ่งกลายเป็นกระแสที่จุดติดและมาแรงจนฉุดไม่อยู่ เพราะไม่ใช่แค่มีเพลงฮิต หรือจัดคอนเสิร์ตบ่อยแต่เหล่าศิลปิน นักร้อง ต่างปรากฏตัวในฐานะอื่นๆ อีกมายมาก อาทิ พรีเซนเตอร์โฆษณา เราจะเห็นทั้ง MILLI, Bowkylion, Tilly Birds หรือ Three Man Down สลับกันอยู่บนโฆษณาเต็มไปหมด รวมไปถึงการถูกเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของแฟชั่นแบรนด์ระดับโลกที่คว้าตัวศิลปินไทยไปมากมาย เช่น พีพี กฤษฏ์ ในฐานะโกลบอลแอมบาสซาเดอร์ของ Balenciaga, บิวกิ้น พุฒิพงศ์ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ Gucci และ เจฟ ซาเตอร์ ในฐานะ Cartier Ambassador เป็นต้น ซึ่งล้วนสะท้อนศักยภาพไร้ข้อจำกัดและหลากหลายของศิลปิน T-POP ได้อย่างชัดเจน
Melodic Lyrics & Dance Challenge
ปัจจัยที่ช่วยซัพพอร์ตให้ T-POP กลับมาฮอตเว่อร์อีกครั้ง น่าจะเป็นกระแสชาเลนจ์จากแพลตฟอร์ม TikTok ที่ตกแฟนเพลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านแฮชแท็กที่ยั่วยวนให้นักสร้างคอนเทนต์และชาวด้อมทั้งร้อง ทั้งเต้นตาม ยอดพุ่งในไทยไม่พอดังไกลถึงต่างแดนไปก็หลายเพลง #วัดปะหล่ะ โดย 4EVE หรือ #HowtoLove ของแอลลี่ ก็เป็นชาเลนจ์ยอดฮิตในช่วงนั้น เช่นเดียวกับเพลง พี่ชอบหนูที่สุดเลย โดย PONCHET และ VARINZ ก็ได้กลายเป็นเพลงไวรัลทาง TikTok จนแม้แต่ศิลปิน K-POP ยังมาร่วมชาเลนจ์กันจนนับไม่ไหว เช่น SEVENTEEN, TWICE, ENHYPEN, NCT และ aespa นอกจากนี้ปัจจัยเหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ต้องยอมรับความสามารถและพลังของศิลปิน T-POP ในช่วง 3-4 ปีมานี้ คือเรื่องของการสร้างสรรค์ทั้งทำนองและเนื้อเพลง ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อเพลงมีส่วนอย่างมากที่ผลักดันให้เพลงนั้นฮิตได้ทั้งบ้านทั้งเมือง เช่น ท่อนที่ร้องว่า “เขารักเธอเท่าไหร่ ฉันรักเธอมากกว่า” จาก 4EVE, “อย่ามาเล่นกับไฟร้อนๆ จะไม่ดี” ในเพลง Fire Boy โดย พีพี กฤษฏ์ (ซึ่งเอ็มวีก็แซบเว่อร์อีกด้วย) รวมทั้ง ‘เลือดกรุ๊ปบี’ ของ เอิ้ก ชาลิสา หรือ ‘มูเตลู’ และ ‘Dejayou’’ โดย PiXXiE ที่เป็นตัวอย่างเพลงติดหูดังเปรี้ยงจนใครๆ ก็ต้องรู้จัก
@ppkrit_entertainment เดือดทุกองศา ร้อนซ่าทุกท่วงท่า มาเต้นกัน ❤️🔥❤️🔥 #FIREBOY_Dance #PPKritEntertainment #PPKritt ♬ FIRE BOY – PP Krit
From T-POP to TV Show & Series
หากจะยกเครดิตให้ T-POP ทำให้คนไทยกลับมาดูทีวี ซีรีส์ หรือรายการทีวีกันมากขึ้นก็ไม่ผิดนัก เพราะศิลปิน T-POP หลายคนเป็นที่รู้จักมาจากซีรีส์ เช่น ไบร์ท วชิรวิชญ์, บิวกิ้น-พีพี, เจมีไนน์-โฟร์ท หรือ นุนิว ชวรินทร์ รวมทั้งศิลปิน T-POP หลายคนก็ผันตัวไปเป็นนักแสดง ที่ฝากฝีมืออีกด้านเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น แอลลี่ รับบท เดียร์ จากเรื่อง ‘สาธุ’ หรือ เจฟ ซาเตอร์ ที่ทั้งร่วมแสดงและร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘วิมานหนาม’ ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในขณะนี้ ตลอดจนรายการทีวีที่เกี่ยวข้องกับ T-POP โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น 789SURVIVAL ทางช่องone 31 รายการเรียลลิตี้ที่นำเด็กฝึก 24 คนมาร่วมภารกิจมากมาย เพื่อเดบิวต์เป็นบอยกรุ๊ปที่ดีที่สุด จากรายการนี้เราได้ 12 หนุ่มในนามวง ‘BUS’ บอยแบนด์หน้าใหม่อนาคตไกลที่สร้างปรากฏการณ์ห้างแตกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงวง ‘DICE’ ที่มาจากรายการเดียวกันก็กำลังมาแรงขึ้นทุกขณะ ทางด้านรายการ T-POP Stage ทางช่อง WorkPoint เป็นอีกรายการที่เรตติ้งดีไม่มีตก แถมยังจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมเพียบ รวมทั้ง Thailand Music Countdown ช่อง 3 รายการเพลงลิขสิทธิ์จากประเทศเกาหลีใต้
ตลอดจนรายการวาไรตี้หลากหลายรสชาติทางช่องทาง YouTube ที่เหล่าศิลปิน T-POP ต่างตบเท้ากันมาปรากฏตัวอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นรายการสุดฮิตอย่าง ‘คำต้องเชื่อม’ ทางช่องยกกำลัง ที่ให้เหล่าศิลปินมาเล่นเกมเชื่อมคำกัน, รายการ ‘My Ambulove’ ที่จับคู่สองศิลปินให้มาใช้เวลาสุดสวีตร่วมกันบนท้องถนน และรายการ Piano&I ของโต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของเหล่าศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่ความสามารถล้น มาโชว์พลังเสียงให้เราฟังกันแบบเรียงคิว ซึ่งรายการเหล่านี้ก็ล้วนได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลามจนยอดวิวทะลุล้านอยู่บ่อยครั้ง ทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นแค่ตัวอย่างที่ตอกย้ำว่า T-POP ทำให้หลายคนกลับมาเสพบันเทิงไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Thai Music is Back
ไม่ใช่แค่กระแสเพลงป๊อบไทยที่กำลังบูม แต่นี่เป็นการปลุกกระแสอุตสาหกรรมเพลงไทยได้อย่างสง่างาม เราจะเห็นความไหลเลื่อนทางดนตรีที่มีส่วนผสมความครีเอต เก๋ และอนุรักษ์ไว้อย่างลงตัว ในยุคที่ ‘ค่ายเพลง’ แทบจะไม่แบ่งแยกตายตัว (เหมือนอดีตที่เป็นมา) ในทางกลับกัน เป็นยุคแห่งความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นการคอลแลบกันระหว่างศิลปินต่างค่าย ศิลปินต่างเจเนอเรชั่น หรือแม้แต่งานคอลแลบกับศิลปินคนละรุ่นคนละแนว เราจะได้ยินทั้งท่อนแรพ ท่อนหมอลำ ท่อนภาษาเหนือ ใต้ อีสาน และท่อนภาษาต่างประเทศ แล้วแต่ละเพลงฮิตติดหู ยอดวิว ยอดแชร์ ยอดคัฟเวอร์พุ่งแรงไม่หยุด ไม่ว่าจะโปรเจกต์ The Test of Time ที่ RS MUSIC ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ จับมือกับ XOXO Entertainment ค่ายเพลงของนักร้อง T-POP ดาวรุ่งมากมาย ขนเหล่านักร้องน้องใหม่นำเพลง Kamikaze ในตำนานกลับมาร้องอีกครั้ง ทั้ง 4EVE กับเพลง ‘มีอีกไหม’ ของ 3.2.1 และ ATLAS กับเพลง ‘แฟนใหม่’ ของ K-OTIC หรือเพลง ‘เมร่อน’ จือปาก X จ๊ะ นงผณี เป็นอีกเพลงที่ได้ยินตลอดสงกรานต์ที่ผ่านมา รวมทั้งคอนเสิร์ตเอาใจด้อมอย่าง 4 Queens (อิ้งค์ วรันธร, วี วิโอเลต, โบกี้ไลอ้อน และ ส้ม มารี) และ The Kingdoms (ไบร์ท วชิรวิชญ์, เจฟ ซาเตอร์, นนท์ ธนนท์ และ เดอะทอย) ก็ประสบความสำเร็จชนิดที่ต้อนเอฟซีต่างประเทศมาเพียบ
T-POP is the New Soft Power
แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมาเราจะมีศิลปินไทยส่งออกไปต่างประเทศอยู่บ้างกรุบกริบ แต่ T-POP ยุคนี้คือส่งออกต่อเนื่องไม่มีแผ่ว นอกจากเอฟซีซีรีส์ไทย(ในหมู่ด้อมต่างแดน) อย่างที่เป็นกระแสแรงเกินต้านที่มิตรรักแฟนเพลงแทบทุกวัยรู้จัก คือแรปเปอร์สาว MILLI ที่ทั้งไปร่วมแสดงโชว์เพลง (และกินข้าวเหนียวมะม่วง) บนเวที Coachella มิวสิกเฟสติลวัลระดับโลก สาว ๆ PiXXiE ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมด้วยเพลงฮิตมากมาย โดยเฉพาะ “ไม่ได้ก็ไม่เอาแล้ว” ที่โด่งดังไปไกลถึงเมืองจีน จนแม้แต่นักแสดงสาวดาวรุ่งอย่าง จ้าวลู่ซือ ยังเอาเวอร์ชั่นจีนมาร้อง หรือคอลแลบเพลงกับศิลปินเกาหลีทั้งเพลง Mirror Mirror หรือ The Weekend ในขณะที่สาวแอลลี่ ที่ร่วมงานกับ Gray แรปเปอร์เกาหลีในเพลงเดบิวต์ และ Pink Sweat$ กับเพลงล่าสุด นอกจากนี้ T-POP ได้ไปร่วมรายการต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น 4EVE หรือ PiXXiE ได้ไปเยือน Show it All รายการเรียลลิตี้ของประเทศจีน ส่วนเจฟ ซาเตอร์ ก็เข้าร่วมรายการ Call Me by Fire SS3 เรียลลิตี้เพลงที่ประเทศจีน และคว้า 2 รางวัลกลับไทย
นอกจากการได้ไปโชว์ความสามารถในหลายประเทศจนทำให้ T-POP แพร่หลายมากขึ้นแล้ว ด้วยยุคสมัยแห่งความสร้างสรรค์ ศิลปิน T-POP หลายคนยังใส่กลิ่นอายความเป็นไทย ทั้งเสื้อผ้า รำไทย ภาษาถิ่น (ลองย้อนกลับไปฟังเพลงของมิลลิจะเห็นภาพชัด) อันเป็นเอกลักษณ์ ในทั้งโชว์ และเพลงไว้อย่างลงตัวและมีสีสัน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีอนาคตไกล ชวนให้ลุ้นว่าอุตสาหกรรมเพลงไทยจะไปได้ไกลมากขึ้นไปอีกหลังจากนี้
Text : NIORNSUK