เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์จากงานนาฬิการะดับโลก อย่าง Watches and Wonders Geneva 2025 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเลยก็ว่าได้ สำหรับกลุ่มนาฬิกาสปอร์ต-แคชชวลเรือนเด่นรุ่นใหม่ๆ จากหลากหลายแบรนด์ ที่นอกจากจะมีทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์แบบสปอร์ตสุดโดดเด่นแล้ว นาฬิกาสไตล์สปอร์ตเต็มตัวเหล่านี้ยังแฝงไว้ด้วยลูกเล่นของสีสันและงานออกแบบ ที่ช่วยเติมลุคแคชชวลทันสมัยซึ่งเหมาะสำหรับสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันและแมตช์เข้ากับหลากหลายสไตล์ได้อย่างดี ชนิดที่ว่ามีไว้คู่กายแค่เพียงเรือนเดียวก็ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบแทบทุกอย่าง
เรือนแรกนี้นับเป็นนาฬิกาข้อมือดีกรีสปอร์ตเต็มตัว อย่าง TAG Heuer Formula 1 Solargraph ที่รุ่นใหม่จับคู่มากับเฉดสีและดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก F1 และให้อารมณ์ของความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งหมดถึง 9 รุ่นโฉมใหม่ กับไลน์อัพของเฉดสีเด่นๆ อย่างสีแดง สีดำ สีน้ำเงิน และสีเหลือง ส่วนรุ่นที่เราแอบเทคะแนนให้นั้นเป็นเวอร์ชั่นหน้าปัดสีขาวโอปอล พร้อมด้วยขอบตัวเรือนดีไซน์ไอคอนิกของคอลเล็กชั่นที่ทำจากวัสดุ TH-Polylight สีเขียว กับคุณสมบัติเด่นๆ ทั้งด้านความเบาและความทนทาน ทั้งยังสามารถสร้างสรรค์ด้วยสีสันต่างๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ลงตัวเข้ากับสเกลนาทีสีเขียวรอบหน้าปัด และสายสเตนเลสสตีลตกแต่งแบบแซนด์บลาสต์ซึ่งให้ลุคเก๋ และรับกับสไตล์การแต่งตัวได้อย่างหลากหลาย สำหรับรุ่นใหม่ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับตัวเรือน 38 มม. อัพเกรดด้านสัดส่วนและรูปทรงเพื่อให้เหมาะกับการสวมใส่ติดข้อมือได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงทำงานด้วยกลไกควอตซ์พลังงานแสง Solargraph ที่นับเป็นครั้งแรกของการใช้กลไกนี้กับคอลเล็กชั่น Formula 1 ด้วย
อีกหนึ่งตัวอย่างของนาฬิกาข้อมือสปอร์ตหรูที่ให้ลุคแคชชวลใส่คู่กายได้ทุกวัน มาในรุ่นใหม่ของ IWC Ingenieur Automatic 35 ด้วยตัวเรือนขนาด 35 มม. สุดกะทัดรัด โดยมีให้เลือกใน 3 เวอร์ชั่นสีและวัสดุ อย่างรุ่นตัวเรือนทองและหน้าปัดสีทอง และอีก 2 เวอร์ชั่นซึ่งมาในลุคสปอร์ตทะมัดทะแมงของตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีล ต่างกันด้วยสีหน้าปัดทั้งโทนสีดำและสีเงิน แต่ตกแต่งด้วยลวดลาย Grid ไอคอนิกของ Ingenieur รุ่นตำนานแบบเดียวกัน จุดเด่นของบรรดารุ่นใหม่นี้ยังรวมไปถึงการปรับสัดส่วนให้โอบรับกับข้อมือได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีความบางแค่เพียง 9.44 มม. ที่ช่วยให้สวมใส่ได้สบายข้อมือ ตลอดจนสายแบบอินทิเกรเต็ดที่ชวนให้ย้อนนึกไปถึงงานออกแบบดั้งเดิมอันเป็นสัญลักษณ์ของรุ่น Ingenieur SL โดย Gérald Genta ช่างนาฬิกาและนักออกแบบนาฬิการะดับตำนานของวงการ
ดีไซน์ใหม่ของสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลแบบ 5 ข้อของ Black Bay 58 รุ่นใหม่จาก TUDOR ทำให้ตกหลุมรักอีกครั้งกับนาฬิกาสปอร์ตลุคทันสมัยของแบรนด์นี้ อย่างตระกูล Black Bay และยิ่งเป็นรุ่นที่เติมมาด้วยความเด่นของหน้าปัดสีเบอร์กันดีใหม่ที่เปิดตัวคู่มากับรุ่นนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องหาข้ออ้างใดๆ มาปฏิเสธได้ว่ารุ่นนี้เป็นที่น่าหมายตายิ่งนัก สำหรับความครบเครื่องทั้งหมดของรุ่นก็ยังต้องยกให้กับระบบ T-fit ของตัวล็อกสายที่ช่วยให้สามารถปรับระดับความยาวสายได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม หรือถ้าใครชอบความสปอร์ตชิกยิ่งกว่าก็ยังมีตัวเลือกของสายยาง หรือสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 ข้อมาเป็นชอยส์เพิ่มเติมให้อีกด้วย สีเบอร์กันดีของหน้าปัดช่วยขับให้นาฬิกาโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่ออยู่บนข้อมือและเปลี่ยนลุคเป็นความสวยสะกดสายตาสำหรับใส่ได้ทุกวัน แต่ก็ยังคงไว้ด้วยคุณสมบัติแบบสปอร์ต ทั้งการกันน้ำได้ 200 เมตร เข็มชี้ทรง Snowflake พร้อมด้วยสารเรืองแสง และกลไกซึ่งได้รับการรับรองระดับ Master Chronometer ที่ทนทานต่อสนามแม่เหล็กและคงความเที่ยงตรงของการแสดงเวลา
เติมกิมมิกด้วยเฉดสีใหม่ให้กับนาฬิกาสปอร์ตหรูผสมผสานสไตล์แคชชวลแบบตัวจริง อย่าง Hublot Big Bang One Click Joyful ที่รุ่นใหม่ในปีนี้ยังถูกจับมาเล่นเข้ากับโทนสีแบบกลางๆ สำหรับแมตช์เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและแตกต่างของผู้คน รวมถึงตอบรับกับเทรนด์ของนาฬิกาสปอร์ตสีสดใสที่ไม่ว่าจะผ่านมาแล้วกี่ปีก็ยังคงเป็นที่จับตามองของคนรักเรือนเวลาเสมอ ปีนี้ Hublot ได้เลือกเล่นกับโทนสีกึ่งพาสเทลที่ไม่เน้นความฉูดฉาด แต่มีความเก๋และชิกแบบเรือนเดียวครบ โดยเฉพาะกับคอลเล็กชั่นสปอร์ตหรูที่เป็นหนึ่งไอคอนของแบรนด์ อย่าง Big Bang ซึ่งปีนี้ยังฉลองครบรอบ 20 ปี สำหรับรุ่น Joyful ต่างๆ จึงมีเสน่ห์ของเฉดสีที่มาเป็นตัวชูโรงให้กับแต่ละรุ่น เช่นใน Sky Blue กับโทนสีฟ้าอ่อนที่เรามองว่าเป็นโทนสีดูสบายๆ กำลังดี และช่วยให้มิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับสไตล์การแต่งตัวที่หลากหลายได้ดีอีกด้วย และเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่น One Click ก็ยังมีลูกเล่นของการถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วแค่เพียงคลิกเดียวมาช่วยเติมความน่าสนใจได้อย่างดีอีกด้วย
ไปให้สุดกับนาฬิกาสปอร์ตแคชชวลและมีสไตล์เฉพาะตัวตามแบบฉบับโอเวอร์ไซส์ของ Panerai ที่ในงานปีนี้ ได้เผยโฉมนาฬิการุ่นเด่นจากคอลเล็กชั่นสปอร์ต อย่าง Luminor Marina PAM03323 ที่จับมาคู่กับหน้าปัดสีน้ำเงินอ่อน และตัวเรือนซึ่งจับคู่มากับสายสเตนเลสสตีลดีไซน์ V shaped เรียวรับไปกับตัวเรือนจนถึงตัวล็อกสายแบบเข็มขัดเพื่อให้สัมผัสที่บางเบาและนุ่มนวลกว่า เหมาะสำหรับสวมใส่ได้ทุกวัน รวมถึงความสวยงามของงานการขัดแบบด้านบนข้อสายด้านในที่ตัดกับขอบข้างของสายแบบขัดเงา โชว์ความเด่นในการเล่นกับแสงและสะท้อนลวดลายแบบ 3 มิติ อีกหนึ่งจุดเด่นเช่นกันก็คือระบบปรับความยาวสายได้ที่ช่วยในการปรับนาฬิกาให้อยู่สมดุลรับไปกับข้อมือได้อย่างสะดวกสบายทุกเวลา ยิ่งเหมาะจะเป็นเรือนเวลาสปอร์ตลุคแคชชวลแบบ everyday wear ที่สะท้อนถึงสไตล์เฉพาะตัวและความชื่นชอบนาฬิกาของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดี
ติดตามเทรนด์ของนาฬิกาและผลงานไฮไลต์รุ่นเด่นๆ ในปีนี้ได้ที่แอล ประเทศไทย