สัมผัสพลังสดใสของ ‘พีพี ปุญญ์ปรีดี’ นักแสดงสาวดาวรุ่งผู้มาพร้อมยิ้มหวานและความมุ่งมั่นเกินร้อย

‘พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์’ เพียงได้ยินชื่อนี้ก็มีภาพรอยยิ้มพิมพ์ใจของเธอลอยมาแต่ไกล จึงไม่แปลกที่เธอจะกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงสาวน่าจับตาที่เข้ามาครองใจผู้ชมมากมาย จนหลายคนอยากรู้จักให้มากยิ่งขึ้น สำหรับครั้งแรกบนปกนิตยสารแอล ประเทศไทย ฉบับเดือนธันวาคม ร่วมกับต่อ ธนภพ และ ณิชา ณัฏฐณิชา แอลจึงพาพีพีมาเปิดตัวตนและเผยมุมมองต่างๆ มากกว่าที่เคยผ่านบทสัมภาษณ์นี้

ELLE: อาชีพในฝัน (หากไม่ใช่นักแสดงในปัจจุบัน)

PP: คงทำธุรกิจอะไรสักอย่างค่ะ รู้สึกสนุกกับการเจรจาต่อรอง ขายของ ตอนเด็กๆ เคยเอากระดุม 10 กว่าเม็ดในราคา 5 บาท ไปขายเพื่อนเม็ดละ 5 บาท (หัวเราะ) มียุคหนึ่งที่ซื้อไอศกรีมแล้วมีของแถม ก็จะเก็บของแถมไว้สะสม แล้วอยู่ดีๆ เขาเลิกผลิต มันดูมีค่าขึ้นมาทันที เลยเอาไปขายเพื่อนชิ้นละ 20 บาท ทั้งที่ ไอศกรีมราคา 15 บาท แล้วของแถมฟรี ทำให้มี mindset ว่าถ้าเกิดไม่ทำอาชีพนักแสดงคงไปเลือกจับสินค้าอะไรสักอย่างมาขาย ส่วนที่ได้เรียนมาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คือมุมมองต่อโลก ต่อการใช้ชีวิตของคนเรามากกว่า ได้รู้รากฐานของสังคม

ELLE: เคล็ดลับหรือสูตรโกงความงามของคุณคืออะไร?

PP: นอนเยอะๆ ค่ะ สิ่งที่ทำให้ผิวดีที่สุดคือการนอนพักผ่อน เราดูแลตัวเอง เข้าคลินิกมากแค่ไหน แต่ถ้านอนไม่พอยังไงก็โทรม ต้องออกกำลังกายด้วย อันนี้คือเบสิก ถ้าทำไม่ได้จริงๆ การมาสก์หน้าทุกวันก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ

ELLE: ถ้าเกิดคุณมีพลังวิเศษขึ้นมา คุณอยากมีพลังแบบไหน เพราะอะไร?

PP: อยากมีพลังรักษาคน เวลาที่ใครเจ็บป่วย สามารถรักษาให้กลับมาสภาพเดิม ไม่ว่าจะแผลเป็น ถูกยิง ขาหัก ไม่เอาถึงขนาดตายแล้วฟื้นกลับมาได้ ไม่อยากขัดกฎธรรมชาติ เมื่อก่อนตัวเองเป็นภูมิแพ้แล้วป่วยง่าย ไม่ชอบเลยเวลาร่างกายเราป่วย ทุกคนต่อให้ประสบความสำเร็จแค่ไหน หาเงินมาได้แค่ไหน ตำแหน่งเลื่อนขึ้น ครอบครัวสุขสมบูรณ์ แต่ถ้าตัวเองป่วยทุกอย่างจบ ความสุขหายทันที ถ้ามีพลังวิเศษนี้ น่าจะทำให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น

ELLE: สัตว์ประจำตัวของคุณคืออะไร และเพราะอะไร?

PP: กระรอกค่ะ ชีวิตมันอิสระดีค่ะ อยากไปไหนก็ไป น้อยคนที่จะจับเอากระรอกมาเป็นสัตว์เลี้ยง ในต่างประเทศเราจะเห็นกระรอกใกล้ชิดกับคน เราให้อาหารได้ เหมือนกระรอกรู้ว่าคนไหนที่ควรจะเข้าใกล้ ปลอดภัยสำหรับเขา เหมือนกับพีพีตรงที่ถ้าเราอยากคุยกับใคร เราก็แค่เอาตัวเข้าไปใกล้

ELLE: ตอนนี้คุณอินกับกิจกรรมใดเป็นพิเศษ เพราะอะไร?

PP: ชอบออกกำลังกาย Weight Training แต่ด้วยงานเลยหยุดออกกำลังกายไป 3 เดือนเลยค่ะ พอจะไปเริ่มใหม่มันจะเหนื่อยกว่าเดิม แล้วหมดคอร์สพอดี เลยเพิ่งไปลงคลาส Reformer Pilates  จริงๆ ถ้าถามว่าอินกับอะไร น่าจะอินกับร่างกายตัวเองมั้งคะ ว่าร่างกายทำอะไรได้บ้าง

ELLE: ลิสต์ 1 เพลงโปรด 1 หนังสือเล่มโปรด และ 1 ภาพยนตร์/ซีรี่ส์เรื่องโปรดของคุณในตอนนี้

PP: ‘Perfect Two’, Auburn เป็นเพลงที่น่ารักดี ชอบทำนอง ชอบเสียงเขา ถ้าเธอเป็นอันนี้ ฉันจะเป็นอันนี้ คนเราไม่ต้องมีครบทุกอย่างก็ได้ ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ 100% ไม่ต้องเติมเต็มซึ่งกันและกัน แต่ถ้ามันช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้มันก็ดี

Chicken Soup for the Soul 1 โดย Jack Canfield และ Mark Victor Hansen เป็นหนังสือเล่มแรกที่พีพีอ่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้ มีหลายตอนเกี่ยวกับแง่คิดดีๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดูเหมือนจะผิดพลาดแต่กลายเป็นสิ่งดีหรือเรื่องราวดีๆ อีกสิ่งได้ หรือสิ่งที่ทำแล้วไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ที่เราคาดไม่ถึงก็ทำให้คนมีความสุขได้เหมือนกัน เริ่มจากที่ความคิดตัวเราเองก่อนเลย

Coco ค่ะ ชอบเรื่องนี้มาก มันทำให้เห็นว่าทุกอย่างมันไม่จีรังยั่งยืน เราเกิดมาแล้วตายไป ชีวิตมันวนเวียน คนจำเราได้ วันหนึ่งคนก็ต้องลืม ต่อให้จำไปได้ตลอด คนที่จำเราได้ก็ต้องมีจากไปเหมือนกัน สุดท้ายความทรงจำนั้นมันก็หายไปอยู่ดี มันคือเรื่องความรักความผูกพันของครอบครัว และความไม่เข้าใจของเด็กด้วย สุดท้ายเด็กคนนั้นก็เข้าใจว่าครอบครัวสำคัญที่สุด เรื่องนี้สอนเราในหลายมิติมากๆ

ELLE: คุณคิดว่าจากตัวเอง 100% คุณมีส่วนประกอบของใคร อะไรอยู่ในตัวบ้าง?

PP: แม่ 30%, สิ่งแวดล้อมรอบตัว 30%, งาน 20%, แฟนคลับ 5%, ตัวเอง 15%

ELLE: ไอเท็มแฟชั่นที่ขาดไม่ได้เมื่อออกจากบ้าน

PP: โทรศัพท์มือถือค่ะ มันคือชีวิตของเราเลย มันคืองาน ต้องดีลงาน คุยงานผ่านโทรศัพท์ จะมีเอาไว้ดูฟีดแบ็กของงานบ้าง แต่ถ้าไม่ต้องเอามาใช้เพื่องานอะไรก็จะไม่ติดโทรศัพท์เลย บางทีลืมไว้บ้านด้วยซ้ำ

ELLE: แอ็กเซสเซอรี่ส์ที่ขาดไม่ได้เมื่อออกจากบ้าน

PP: จำพวกตุ้มหู แหวน กำไลค่ะ พวกเครื่องประดับ เพราะเป็นผู้หญิงเลยต้องมีอะไรวิบวับหน่อยตามข้อมือข้อแขน ชอบชิ้นที่สามารถใส่ได้ประจำทุกวัน กับทุกชุด ชอบโทนสีไวต์โกลด์ ไม่ก็โรสโกลด์ เคยลองไม่ใส่แล้วมันรู้สึกโล้นโล่งเกินไป

ELLE: ความรู้สึกกับการมาเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลของ ELLE และการร่วมงานกับ Cartier ครั้งนี้

PP: ดีใจและตื่นเต้นสุดๆ นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ได้ขึ้นปกกับ ELLE และ Cartier เป็นความใฝ่ฝันมานานมาก และสิ่งที่คิดมันเกิดขึ้นจริงแล้ว (ยิ้ม) Cartier เป็นแบรนด์ที่เราใฝ่ฝันถึงมานานมาก จนวันหนึ่งได้ร่วมงานกัน เคยตามศึกษาประวัติเขาตั้งแต่ต้นกำเนิดเลย ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสได้มาทำงานตรงนี้ค่ะ I have no words to say ถ้าเกิดวันนี้มีงานอะไร แล้วทาง ELLE ติดต่อมา หนูจะเคลียร์ทุกอย่างให้หมดเลยค่ะ หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกนะคะ (หัวเราะ)

ELLE: ฝากผลงานของตัวเองในช่วงนี้

PP: ต้นปีหน้ามีละครพีเรียดเรื่อง แสนรัก ทางช่อง 3 เล่นกับพีค-กองทัพ รับบทเป็นราณี ได้เล่นตั้งแต่เด็กจนแต่งงานมีครอบครัวเลย จะออกดราม่าหน่อย ภาพยนตร์อีก 2 เรื่องคือ Happy Monday สวัสดีวันจันทร์ เล่นกับพี่โอบ-นิธิ เรื่องราวเกี่ยวกับการวนลูป อีกเรื่องเป็นเกี่ยวกับผีคือ ตาม Follow เล่นกับพี่เก้า-นพเก้า แล้วมีเพิ่งถ่ายจบไปอีกเรื่องหนึ่งซึ่งออนแอร์ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยค่ะ ยังไม่สรุปชื่อเรื่อง