THE TIMELESS SCENT
น้ำหอมระดับตำนานที่ขึ้นทำเนียบคลาสสิกมานานนับศตวรรษ กลิ่นหอมที่สร้างสรรค์โดย Gabrielle Chanel ไอคอนระดับตำนานผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่น ก่อกำเนิดน้ำหอมกลิ่นแรกของตัวเองให้เป็นตัวแทนของผู้หญิงมาทุกยุคทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน ด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนสุดคาดเดาจากการผสมผสานองค์ประกอบของดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ร้อยเรียงกลิ่นหอมสกัดออกมาจนได้กลิ่นแนวฟลอรัลที่โดดเด่นด้วยกลิ่นกุหลาบและจัสมิน ยกระดับด้วยอัลดีไฮด์ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในขวดของน้ำหอม Chanel N°5
SEE YOU AT 5
ข้อความสั้นๆ ถูกส่งมา ‘ฉันจะพบคุณตอน 5’ ภาพปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของ Margot Robbie ตัวแทนหญิงสาวผู้ทรงพลัง เจิดจรัส เธอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับน้ำหอม N°5 ในภาพยนตร์โฆษณา See You at 5 สร้างสรรค์โดย Luca Guadagnino ถูกออกแบบภายใต้สถานการณ์ที่อธิบายเรื่องราวอย่างละเมียดละไม แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยและความซับซ้อนของกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chanel เช่นเดียวกับบุคลิกของผู้หญิงที่มีอิสระและน่าหลงใหลเป็นศูนย์กลางผสมผสานความหรูหรา อารมณ์ขันและจิตวิญญาณที่ห่อหุ้มด้วยน้ำหอม Chanel N°5 ในชุดสีแดงที่สตูดิโอสร้างสรรค์แฟชั่นของแบรนด์ ได้ตัดเย็บชุดสูทเพียงหนึ่งเดียวให้กับมาร์โกต์ด้วยแรงบันดาลใจจากชุดสูทที่ Carole Bouquet สวมใส่ในปี 1986 ในภาพยนตร์ N°5 โดย Ridley Scott
FEMININE IDEAL
(INTERVIEWER: WANSUK KHONGRASEE)
“คุณจะรู้ได้เลยเมื่อมีคนใช้น้ำหอม Chanel” คำกล่าวโดย Olivier Polge นักปรุงและสร้างสรรค์น้ำหอมของ Chanel เมื่อแอลเจอเขาผู้เป็นหนึ่งในเพอร์ฟูเมอร์ระดับมาสเตอร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก จึงได้มีโอกาสร่วมพูดคุยเพื่อให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกับ Chanel N°5 ให้มากขึ้น
ELLE: กระบวนสร้างสรรค์น้ำหอม CHANEL N°5 น่าทึ่งมากๆ ในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเก็บเกี่ยวดอกไม้ในช่วงเวลาอันสั้นเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำหอมให้รวดเร็วที่สุดเพื่อคงคุณค่าของดอกไม้ อยากให้คุณแชร์มุมมองเพื่อที่จะเล่าให้ทุกคนรับรู้ถึงความพิเศษนี้
OLIVIER POLGE: มี 2 แง่มุมที่จะต้องบอก อย่างแรกคือจุดเริ่มต้นตั้งแต่การคิดค้นน้ำหอมขวดนี้ขึ้นมา เพราะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนตั้งแต่ปี 1920 ในยุคนั้นโลกของแฟชั่นกับน้ำหอมเป็นโลกที่ห่างไกลกันมากแทบจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ Gabrielle Chanel ต้องการแสดงออกถึงสไตล์และเอกลักษณ์ของตนที่อยากจะถ่ายทอดออกไป เธอมีสัมผัสพิเศษเรื่องกลิ่นหอม ความคิดของเธอเปรียบเสมือนการออกแบบเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งที่จะต้องใช้วัสดุเนื้อผ้าที่แตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ที่ก่อให้เกิดกลิ่นน้ำหอมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่แค่กลิ่นดอกไม้ธรรมดาแต่เป็นกลิ่นที่มีมิติล้ำลึกกว่า และอย่างที่สองคือการให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นทาง เริ่มจากขั้นตอนการเก็บเกี่ยวดอกไม้ ทุกปีขึ้นอยู่กับผลผลิตที่ได้จะถูกรวบรวมจากทั่วโลกเพื่อนำมาสร้างสรรค์ น้ำหอม Chanel N°5
ELLE: น้ำหอม Chanel N°5 เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความลึกลับอันยาวนาน เป็นมรดกจากอดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับคุณแล้วการได้สัมผัสกับ Chanel N°5 ครั้งแรกเป็นความทรงจำในด้านใด?
O.P.: จุดเด่นของ Chanel N°5 คือการมีประวัติศาสตร์ของตัวเองที่ค่อยๆ สั่งสมทุกอย่างทีละนิดทีละน้อย น้ำหอมกลิ่นนี้เกิดก่อนผมอีก เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นความทรงจำแรกในชีวิต ตั้งแต่ผมอายุ 4 ขวบ มันอยู่ในจิตวิญญาณ เป็นสิ่งที่มีคุณค่า ละเมียดละไม เมื่อเวลาผ่านไปกลิ่นก็กลายเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึก เปรียบเทียบง่ายๆ เช่น แฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแต่สไตล์ยังคงอยู่เหมือนเดิม ผมคิดว่า Chanel N°5 เป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งนั้น
ELLE: คุณจินตนาการถึงอะไรเมื่อได้กลิ่น Chanel N°5 ในปัจจุบันแตกต่างจากที่ผ่านมาไหม?
O.P.: Chanel N°5 อยู่ในจิตใต้สำนึกผมตลอดทั้งปี ผมคิดส่วนผสมต่างๆ ตลอดเวลา อย่างเดือนมกราคมเราก็ต้องเก็บเกี่ยวซิตรัสจากอิตาลี เดือนมีนาคมก็ต้องเก็บดอกกุหลาบ เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หลายๆ คนรอบตัวผมก็ใช้น้ำหอม Chanel N°5 ซึ่งมันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมเช่นกัน มันค่อนข้างที่จะอธิบายยากเพราะเมื่อไรที่ได้กลิ่น Chanel N°5 ล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจ
ELLE: ย้อนกลับไปในปี 2016 คุณกำลังมองหาอะไรใน Chanel N°5 L’Eau?
O.P.: ผมใช้เวลานานกว่าปีครึ่งถึงสองปีในการสร้างสรรค์ Chanel N°5 L’Eau คนส่วนใหญ่จะยึดติดกับกลิ่น Chanel N°5 ดั้งเดิม แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับ Chanel N°5 ได้ สิ่งสำคัญคือการเก็บแก่นแท้ของเดิมเอาไว้แต่เพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ เข้าไป นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญ Chanel N°5 L’Eau จึงเป็นกลิ่นที่เข้าใจง่าย สบายๆ มากขึ้น เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน ยกตัวอย่างเช่นบางคนก็ชอบแต่งตัวจัดเต็มทุกวัน บางคนก็ชอบสไตล์เรียบง่าย ขึ้นอยู่กับอัตลักษณ์ของแต่ละคนมากกว่า เหมือนกับการที่เราสนุกกับการแต่งตัว เราก็สนุกได้กับน้ำหอมได้เหมือนกัน บางคนก็อาจจะเลือกกลิ่นน้ำหอมที่เซอร์ไพรส์เราได้ และส่วนตัวผมก็ไม่ชอบอะไรที่มันมีความเกี่ยวโยงกันอย่างชัดเจน แบบฉันเป็นคนแบบนี้ฉันต้องใช้น้ำหอมกลิ่นนี้เท่านั้น
ELLE: คุณพ่อของคุณได้มอบมรดกสืบทอดในการสร้างสรรค์น้ำหอม Chanel N°5 อะไรไว้บ้าง?
O.P.: ผมไม่ได้คิดว่ามีความเชื่อมโยงกับพ่อโดยตรงขนาดนั้น แต่ในน้ำหอม Chanel N°5 มีความเชื่อมโยงในตัวเองอยู่แล้ว Chanel N°5 สร้างสรรค์โดย Ernest Beaux ที่มุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่นแรกของแบรนด์ พ่อผมก็เพียงแค่มีส่วนร่วมในบางแง่มุม แต่ในที่สุดผมก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าผมจะสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งเดิมแล้วเพิ่มความสนุกให้สิ่งใหม่ๆ ได้ไหม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้ลองสร้างสรรค์
ELLE: ความรู้สึกเมื่อได้กลิ่น Chanel N°5 ในอดีตแตกต่างจากการที่เราได้กลิ่นในปัจจุบัน คุณคิดว่านี่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลหรือมีกระบวนการปรับรูปแบบใหม่บ้างไหมในการสร้างสรรค์น้ำหอม?
O.P.: การสัมผัสกลิ่นของน้ำหอมเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ละคนจะได้รับกลิ่นไม่เหมือนกัน กลิ่นเป็นสัมผัสที่รุนแรงที่สุด บางทีคนเราจะได้กลิ่นก่อนมองเห็นด้วยซ้ำ ซึ่งมาจากสัญชาตญาณ แต่ในขณะเดียวกันจุดอ่อนของการได้กลิ่นคือทุกครั้งที่เราได้กลิ่นก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ที่ไหนด้วย และขึ้นอยู่กับกลิ่นเฉพาะตัวแต่ละคน กลิ่นก็จะแตกต่างกันออกไป
แต่ในแง่ของสูตรเป็นหน้าที่ของผมที่จะควบคุมให้ได้มาตรฐาน ให้ใกล้เคียงกับความดั้งเดิมที่สร้างไว้ตั้งแต่ต้น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมจะต้องรักษาคุณภาพของวัตถุดิบที่เหมือนเดิมเพื่อนำมาผลิตน้ำหอม ในเรื่องสูตรมีความสำคัญมากเหมือนกับอาหารที่จะต้องเป็นส่วนผสมที่แม่นยำเหมือนเดิม ในแง่ของวิทยาศาสตร์จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยตรวจสอบคุณภาพของดอกไม้ แต่ในที่สุดจมูกก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราใช้ มันมีอีกหลายอย่างที่จมูกสามารถสัมผัสได้แต่เครื่องจักรไม่สามารถทำได้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เพราะผลผลิตที่ได้มันผันเปลี่ยนไปในแต่ละปี เราเลยต้องเลือกผู้ผลิตที่แตกต่างกันไปเพื่อให้ได้ผลผลิตที่เหมือนเดิมที่สุด เพื่อให้ได้คุณภาพเหมือนเดิมทุกปี
ELLE: อยากให้คุณจำกัดความ 3 คำสำหรับน้ำหอม Chanel N°5
O.P.: ความเป็นผู้หญิง ความเป็นนามธรรม และความลึกลับ
TEXT: MALLIKA B.
PHOTO: COURTESY OF CHANEL