แม้ประเด็นการคัดเลือกนักแสดงจะเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบันว่า วงการหนังและภาพยนตร์ควรเปิดโอกาสให้ผู้เป็น LGBTQIA+ มารับบทคนเพศหลากหลายด้วยตัวเอง แทนที่จะให้ผู้ชายหรือผู้หญิงมาสวมบทหรือไม่ เนื่องจากในอดีตพวกเขามักถูกกีดกันไม่ให้เฉิดฉายแม้จะมีความสามารถไม่แพ้ใคร หรือเป็นส่วนน้อยมากที่ตัวละครเควียร์จะก้าวขึ้นมาเป็นบทนำ ซึ่งล่าสุดหนุ่ม Nicholas Galitzine นักแสดงชายดาวรุ่งผู้ขึ้นชื่อในการรับบทเควียร์มาหลายต่อหลายเรื่องก็ออกมาเปิดใจถึงประเด็นนี้ว่าตนเองก็รู้สึกผิดเช่นกัน
เมื่อย้อนกลับไปหลังจากเริ่มต้นเส้นทางนักแสดงในปี 2014 อีกสองปีถัดจากนั้น นิโคลัสก็ได้รับบท Conor นักกีฬารักบี้ผู้เป็นไบเซ็กชวลในเรื่อง Handsome Devil ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเขา รวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง The Craft: Legacy (2022), Red, White & Royal Blue (2023) และ Mary & George (2024) บทเควียร์ของเขาก็กลายเป็นที่ชื่นชมในความสมบทบาทที่ถ่ายทอดตัวละครได้ดีเรื่อยมา
โดย Nicholas เล่าถึงการตัดสินใจรับบทเหล่านี้ว่า “ผมนิยามตัวเองว่าเป็นสเตรท แต่ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอันน่าทึ่งของกลุ่มคนเพศหลากหลาย”
และเปิดใจถึงความโด่งดังที่ได้รับว่า”บางครั้งผมไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังแย่งพื้นที่ของใครไปหรือเปล่า และรู้สึกผิดด้วย ซึ่งในขณะเดียวกันผมก็ไม่ได้มองว่าตัวละครแต่ละตัวมีแค่เรื่องเพศวิถีเท่านั้น”
ซึ่งคำตอบของหนุ่มคนนี้ก็ทำให้แฟนๆ ประทับใจอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นเรื่องดีที่ตัวนักแสดงเองยังตระหนักถึงอัตลักษณ์ของกลุ่มคนเพศหลากหลายจริงๆ ไม่ได้มองมันเป็นเพียงทางผ่านสู่การโด่งดังเท่านั้น และทำให้เชื่อใจได้ว่าไม่ว่านิโคลัสจะได้รับบทใดๆ ก็ตามในอนาคต เขาจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีสมความคาดหวัง
อย่างไรก็ตาม การที่พระเอกหนุ่มดาวรุ่งออกมาตอบเช่นนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคำกล่าวอย่าง วงการหนังและภาพยนตร์ควรเปิดโอกาสให้ผู้เป็น LGBTQIA+ มารับบทคนเพศหลากหลายด้วยตัวเอง ที่อ้างไปเมื่อตอนต้นนั้นจะถูกปัดทิ้งไปได้อย่างสิ้นเชิง เพราะตราบใดที่ชาวนักแสดงกลุ่มเควียร์เองยังถูกกดทับด้วยอำนาจใดๆ อยู่ ประเด็นนี้ก็ยังคงต้องยกมาถกเถียงกันต่อไปให้เกิดความเท่าเทียมได้มากที่สุดนั่นเอง