ใหม่ ดาวิกา กลับมาขึ้นปกนิตยสารแอล ประเทศไทยอีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมถ่ายทอดสไตล์เรียบหรูแต่แฝงดีเทลไปกับ Gucci คอลเล็กชั่น Pre-fall 2025 และไม่พลาดนั่งพูดคุยเปิดใจแบบหมดเปลือกกับทุกบทบาทที่เธอตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเต็มที่ด้วยหัวใจเกินร้อย ตั้งแต่การเป็นนางเอกพันล้านสู่นางเอกหนังรางวัลระดับโลก พร้อมก้าวสู่บทบาทใหม่กับผู้จัดซีรี่ส์ครั้งแรกในเรื่อง ClaireBell The Series ตลอดจนบทบาทแอมบาสซาเดอร์คนสำคัญของ Gucci และพาร์ตความรักที่เติบโตไปพร้อมๆ กัน
ELLE : จากการเป็นนักแสดงสู่ผู้จัด อะไรเป็นสิ่งจุดประกาย?
Mai : ใหม่ทำงานมาช่วงหนึ่งแล้วรู้สึกว่าตัวเองชื่นชมคนเจเนอเรชั่นใหม่ ใหม่อยากถ่ายทอดในสิ่งที่ตัวเองมีในฐานะรุ่นพี่ ไม่อยากจากไปโดยสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเสียเปล่า เลยอยากจะเอามามอบให้คนที่เห็นคุณค่า เลยอยากทำ artist management นั่นคือสิ่งแรกที่ใหม่อยากทำ ได้ร่วมกับพาร์ตเนอร์ซึ่งนั่นก็คือพี่เต๋อ (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) กลายเป็นว่าใหม่ดูแลเรื่อง artist management พอเรามีนักแสดงของเราแล้วเนี่ย ก็น่าจะต้องทำอะไรเพื่อสนับสนุนเขา แล้วตอนนี้ตลาดของ GL ค่อนข้างบูมมากๆ เลยเลือกที่จะทำซีรี่ส์ GL เป็นโปรเจ็กต์แรกค่ะ เริ่มจากการที่ใหม่กับพี่เต๋อร่วมกันเขียนบทขึ้นมาเอง 2 คน ใหม่เองก็ได้ศึกษาการเขียนบทจากพี่เต๋อด้วย
ELLE : ใหม่ได้ประสบการณ์อะไรจากการเป็นผู้จัดบ้าง?
Mai : มันประเมินค่าไม่ได้เลย เป็นบทเรียนที่ดี แน่นอนว่ามันมีความรู้สึกแย่ ผิดหวัง เหนื่อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสุขมากๆ เพราะเรากำลังทำในสิ่งที่เรารักจริงๆ เราดูปลายทางว่านี่คือลูกของเรา เป็นสิ่งที่ฟูมฟักอยู่ ตอนนี้ตลอดทางเราได้คนที่มีแพสชั่นเดียวกันมาทำงานชิ้นนี้ด้วยกัน ก็เลยรู้สึกว่าปลายทางนั่นแหละที่จะทำให้เราหายเหนื่อย
ELLE : ความสำเร็จล่าสุดในฐานะนักแสดง
Mai : เรื่อง A Useful Ghost หรือ ผีใช้ได้ค่ะ ใหม่ถ่ายไว้เมื่อปีที่แล้ว ตอนถ่ายเนี่ยไม่มีใครรู้ ไม่มีข่าวแพร่งพรายออกมาเลย มันเป็น independent film เป็นการขอทุนสร้างจากหลายประเทศเพื่อนบ้านเราและทางยุโรปด้วย กระบวนการที่เขาทำเนี่ยใช้เวลาถึง 7 ปี กว่าจะได้เปิดกล้องจนถึงได้ไปคานส์ ใหม่รู้สึกภาคภูมิใจมากๆ เราได้ไป Critics Week เป็นการจัดประกวดสำหรับหนังของผู้กำกับฯ หน้าใหม่ทั่วโลก แล้วเราได้รางวัลที่ 1 (ยิ้ม) โมเมนต์ที่อยู่ในโรง จะบอกว่าใหม่ยังไม่เคยดูมาก่อนเลยนะ ใหม่ดูที่นั่นครั้งแรกพร้อมกับชาวต่างชาติ รวมถึงนักวิจารณ์ เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ เราอยากรู้ว่าเข้าเกตมั้ย เข้าใจในสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อมั้ย สุดท้ายเราได้รีแอ็กชั่นที่ดีมากๆ เขาจอยมาก ไม่เคยคิดว่าการ standing ovation มันสร้างอิมแพ็กต์ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต การที่คนเห็นคุณค่าที่เราทำ มันทำให้ภูมิใจในอาชีพเรามากๆ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
ELLE : ระหว่างใหม่กับหนังทำเงินระดับพันล้าน และใหม่กับหนังระดับรางวัลเมืองคานส์?
Mai : ตอนใหม่เล่น พี่มากพระโขนง ที่ได้พันล้านไปแล้ว คิดว่ามันไม่น่าจะเกิดกับชีวิตเราอีกแล้ว เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก็หลงใหลในการแสดงมากขึ้น โหยหาการเล่นหนังนอกกระแส เราเล่นมาค่อนข้างหลายอย่างแล้ว อยากลองเสี่ยง อยากลองเติมเต็มด้วยบทบางบท พอโปรเจ็กต์นี้เข้ามาก็รับเลยค่ะ ในฐานะที่เราเป็นนักแสดง ไม่ใช่ดารา เพราะใหม่ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองมา 10 ปีแล้วก่อนที่จะมีวันนี้ ใหม่มีความฝันมาตั้งแต่แรก ความฝันของใหม่มันชัดมาก เห็นภาพชัดเลยว่าต้องไปอยู่ตรงนั้น นั่นคือจุดสูงสุดของชีวิต แล้วสิ่งที่เรา manifest วันหนึ่งมันเป็นจริง มันเลยเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เลย มีความสุขมากค่ะ
ELLE : ความประทับใจของใหม่ในฐานะแบรนด์แอมแบสซาเดอร์ของ Gucci
Mai : การเดินทางกับ Gucci ทุกครั้งจะประทับใจมากๆ ยิ่งถ้าเป็นคอลเล็กชั่นครูสจะตรงกับวันเกิดทุกครั้ง (หัวเราะ) มักจะตรงช่วง 16 พฤษภาคมทุกครั้ง รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ จะมีเซเลบริตี้ระดับโลกมาอยู่ร่วมกับช่วงวันเกิดของเรา ได้เจอ Lana Del Rey หรือเจอ IU ที่เกิดวันเดียวกัน เจอหลายๆ คน ล่าสุดก็เจอ Vanda Margraf และ Zhang Linghe ต่อให้งานชนกับวันเกิด ใหม่ก็เลือกที่จะไปกับ Gucci ก่อน นอกจากนี้ใหม่ยังอยู่ในยุคเปลี่ยนถ่ายของดีไซเนอร์หลายคน จะได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ ได้เห็นไดเร็กชั่นของแต่ละคน สิ่งที่สำคัญเลยคือประทับใจสิ่งที่เป็นต้นกำเนิดของ Gucci ที่ฟลอเรนซ์ ทุกๆ การออกแบบ ไม่ว่าดีไซเนอร์คนไหน Gucci จะมีความเป็นตำนานที่มีเสน่ห์มากๆ
ELLE : มุมมองความรักของใหม่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
Mai : เป็นมุมมองความรักที่เปลี่ยนไปมากๆ ค่ะ ตอนเด็กก็จะรักใสๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทำธุรกิจด้วยกัน โฟกัสเลยไม่ได้อยู่ที่เรา 2 คน จะคุยเป็นเรื่องงานทุกวัน เป็นพาร์ตหนึ่งของความรัก ถ้ามันไปได้ดี เราทำมันได้ดี ความรักของเราก็จะสมูทไปเรื่อยๆ พี่เต๋อมาส่งเสริมการทำงาน ถ้าใหม่ไม่มีพี่เต๋อคิดว่ามันจะยากมากๆ เพราะว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับใหม่ต้องเริ่มจากบท โชคดีที่ใหม่มีแฟนเป็นคนเขียนบท (หัวเราะ) ก็เลยไปได้ดี พอบทดีมันก็ไปต่อได้ง่ายละ ไม่ต้องจ่ายค่าตัว (อมยิ้ม) แก้ได้หลายดราฟต์ มีไอเดียอะไรก็คุยได้ตลอด
ELLE : ลิสต์ 1 เพลงโปรด 1 หนังสือเล่มโปรด และ 1 ภาพยนตร์/ซีรี่ส์เรื่องโปรดของคุณในตอนนี้
Mai : เพลงทุกเพลงของฮิวโก้ / นิยายเรื่อง ‘ClaireBell’ / ซีรี่ส์เรื่อง ‘Sirens’ (2025)/ ภาพยนตร์เรื่อง ‘A Beautiful Day in the Neighborhood’ (2019)
ELLE : ใหม่ 100% ในเวอร์ชั่นปี 2025 มีส่วนประกอบของใคร/อะไรอยู่ในตัวบ้าง?
Mai : การทำงาน 25%, ครอบครัว 25%, พี่เต๋อ 12.5%, น้องหมา 12.5, แฟนคลับ 20%, อาหาร 5%
ELLE : ฝากผลงานของตัวเองในช่วงนี้
Mai : ขอฝากซีรี่ส์ยูริ ‘ClaireBell The Series’ (นำแสดงโดย เมเบิ้ล-สิริวลี สิริวิบูลย์ และแป้งจี่-ปภาวรินท์ สวัสดิเวช) ด้วยนะคะ ทางช่อง ONE 31 เริ่มออนแอร์วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.30 น. ทุกวันเสาร์ สามารถดูเวอร์ชั่นอันคัตได้ในแอพพลิเคชั่น oneD และในช่องยูทูบของ Mine Media สามารถดูฟรีได้ทั่วโลกค่ะ
Photographer : Mark Kawinkrua
Fashion Director : Ice’o Panchiracharoen
Make up : Chinnakrit Tanasontirach
Hair : Noppasit Cheerakulltananan