เมื่อ Dior Beauty ประกาศเปิดตัวมิวส์คนใหม่ของน้ำหอมสุดไอคอนิกระดับตำนานอย่าง J’adore โลกของความงามและแฟชั่นต่างจับตามอง เพราะผู้ที่มารับบทบาทนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก Rihanna ศิลปินและแฟชั่นไอคอนผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค ผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันเหลือล้น โดยเธอได้ถ่ายทอดความสง่าและความร่วมสมัยผ่านแคมเปญภาพยนต์ล่าสุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ แอลจึงอยากขอชวนคุณไปทำความรู้จักเรื่องราวบทใหม่ในครั้งนี้พร้อมทวนประวัติศาสตร์ความหอมอันเป็นตำนานมีมานานถึง 25 ปี
New Muse of J’adore
เมื่อกลิ่นหอมอันเป็นตำนานอย่าง Dior J’adore ถูกบอกเล่าผ่านมิวส์คนล่าสุดอย่าง Rihanna อีกหนึ่งตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่บอกเล่าถึงความแข็งแกร่ง ความเปล่งประกาย และความสง่างามที่ ที่สะท้อนถึงเสน่ห์อันหรูหราและความเปล่งประกายกับกลิ่นหอมอันเป็นตำนานอย่าง J’adore โดยเรื่องราวครั้งนี้ถูกบอกเล่าผ่านเลนส์ของเพื่อนผู้ร่วมงานกับเธอมายาวนาน อย่าง Steven Klein
The Golden Hues of Versailles
ภายในแคมเปญใหม่นี้ถูกเซ็ตโทนของบรรยากาศให้เป็นสืองอร่ามโดยใช้พื้นที่ในพระราชวังแวร์ซายเป็นสถานที่บอกเล่าเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงและพิธีราชาภิเษก โดยริฮานนาได้ใช้พื้นที่ Hall of Mirrors ให้เป็นกลายเป็นแคตวอล์ก ในขณะที่ Grand Canal กลายเป็นเวทีเพื่อส่งผ่านความสง่างามของการผสมผสานระหว่างป๊อปไอดอลและน้ำหอมในตำนาน
The Costume
อีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เห็นที่จะเป็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ในลุคออลแบล็กสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานความคลาสสิกกับบรรยากาศในตอนกลางคืน ก่อนภาพจะเปลี่ยนไปสู่ฉากอันงดงามที่เต็มไปด้วยประกายสีทองเจิดรัสดั่งเวทมนตร์ ในลุคเดรสสีทองประดับด้วยเลื่อมเปล่งประกาย และสร้อยคอสีทองที่ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่ออกแบบโดย Maria Grazia Chiuri ที่พูดได้เลยว่าเป็นการออกแบบที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของ J’adore ที่มีมากว่า 25 ปีได้อย่างไร้ที่ติ
The Scent
หากให้นิยามกลิ่นหอมของ J’adore สั้นคงต้องเป็นว่าเป็นกลิ่นหอมที่มีความหอมหวานเย้ายวนแต่ทว่าก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน กับการเปิดตัวด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของมะกรูด ตามด้วยกลิ่นของดอกมะลิและกระดังงา ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นของวานิลลาและไม้จันทน์ ที่ช่วยสะท้อนบุคลิกของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ดูเปล่งประกายสง่างามและเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบ
The J’adore Family
อีกหนึ่งจุดเด่นของ J’adore จาก Dior คือมิติของกลิ่นหอมที่หลากหลายเพื่ออารมณ์ที่แตกต่างโดยแต่ละกลิ่นยังคงโดดเด่นด้วยการใช้กลิ่นของดอกไม้มาที่มีมิติในแบบเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร เริ่มจาก J’adore Eau de Parfum ดั้งเดิมเป็นที่รู้จักจากการผสมผสานอันสดใสของดอกมะลิ กระดังงา และดอกกุหลาบ Dior J’adore Eau de Parfum Infinissime ที่เรียกว่าเป็นการต่อยอดกลิ่นหอมดั้งเดิมด้วยการผสมผสานที่เข้มข้นยิ่งขึ้นจากกลิ่นของดอกมะลิ กระดังงา และไม้จันทน์ เพื่อความหอมที่ลุ่มลึกติดทนยาวนาน ในขณะที่ Dior J’adore Parfum d’Eau นำเสนอกลิ่นหอมสุดคลาสสิกในสูตรน้ำที่เบากว่า เป็นความหอมที่กลิ่นสดชื่นเบาสบายในวันสบายๆ ส่วน Dior L’Or de J’adore ผลงานชิ้นแรกที่ดิออร์ Francis Kurkdjian มอบประสบการณ์อันหรูหราผ่านกลิ่นของดอกไม้ที่ชัดเจนและแจ่มชัดยิ่งขึ้น จากดอกจัสมิน ดอกกุหลาบ และดอกส้มที่เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ที่มีชีวิตชีวา