เริ่มต้นปารีสแฟชั่นวีกด้วยแฟชั่นโชว์จาก Dior ภายใต้การนำของ Maria Grazia Chiuri เธอยังคงสานต่อการเล่าเรื่องราวของความเป็นผู้หญิงแกร่งและสง่างามผ่านคอลเล็กชั่นต้อนรับฤดูกาลใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ประจำปี 2023 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอสร้างคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Josephine Baker นักเต้นหญิงในตำนานของฝรั่งเศส ดังนั้นมาดูกันว่าคราวนี้เธอจะสื่อสารถึงอะไรและเล่าเรื่องราวของใครกัน
คอลเล็กชั่นนี้เป็นดั่งตัวแทนของความเป็นอิสระในตัวของเหล่าสุภาพสตรีชาวฝรั่งเศสอันได้แรงบันดาลใจโดยตรงมาจากผู้หญิงในตำนานแห่งแดนน้ำหอมอย่างนักร้องชื่อก้องโลกอย่าง Èdith Piaf และ Juliette Gréco รวมไปถึง Catherine Dior น้องสาวของ Christian Dior หรือหญิงสาวที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘Miss Dior’ คนแรกนั่นเอง โดยทางดีไซเนอร์ยังคงนำเสนอเสื้อผ้ากลิ่นอายเฟมินีนที่ครบรสชาติทั้งความอ่อนหวาน ความแข็งแกร่ง และความหรูหราที่ผสมผสานดีไซน์ไอคอนิกของแบรนด์ในรูปแบบใหม่ รวมไปถึงบรรดาลายพิมพ์สีสันสดใสที่สะดุดตา
นอกจากเธอจะดีไซน์ด้วยเทคนิคไอคอนิกของแบรนด์จนเกิดเป็นผลงานที่มีความหรูหรา แต่แรงบันดาลใจในการรังสรรค์คอลเล็กชั่นนั้นยิ่งทำให้ผลงานดูทรงพลังมากขึ้นอีกต่อหนึ่ง เพราะการที่เธอเลือกให้ Édith Piaf เจ้าของบทเพลงเสียงสวรรค์อย่าง La Vie En Rose และเพลง Non, Je Ne Regrette Rien มาเป็นแรงบันดาลใจแรก ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า Dior คือแบรนด์ของผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ทว่าสง่างามและอ่อนโยน เพราะศิลปินอย่าง Édith Piaf เป็นภาพตัวแทนที่ชัดเจนของคำว่าหญิงแกร่ง เพราะแม้ชีวิตเธอจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือมีความสุขเหมือนกับชื่อเพลง แต่เธอก็พยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเป็นตัวของตัวเองจนกลายเป็นนักร้องที่โลกไม่อาจลืมน้ำเสียงของได้ และถ้าหากเราสังเกตดีๆ บางลุคของเหล่าโมเดลก็จะมีการพิมพ์ลายคำว่า Non, Je Ne Regrette Rien (ฉันไม่เสียใจกับอะไรเลย) บนเสื้อเช่นกัน
Juliette Gréco นักร้องและศิลปินในตำนานอีกหนึ่งคนก็เป็นแรงบันดาลใจที่สื่อไปถึงความเป็นอิสระ เพราะกว่าศิลปินในตำนานของฝรั่งเศสผู้นี้จะได้เป็นศิลปินที่ขับกล่อมบทเพลงให้คนทั่วโลกฟังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเธอเคยถูกทำร้ายและคุมขังในช่วงสงครามโลกโดยทหารเยอรมัน ดังนั้นเมื่อเธอรอดพ้นจากเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ เธอจึงค้นพบว่าความเป็นอิสระจากทุกอย่างคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
หลังจากนั้นเธอจึงสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางสังคมมาโดยตลอดอย่างไม่เกรงกลัวอะไรใดๆ จนเธอถูกขนานนามให้เป็นตัวแทนของหญิงสาวที่มั่นใจและหลงใหลในเสรีภาพ เสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้จึงสามารถให้ความมั่นใจกับผู้หญิงได้อย่างเต็มเปี่ยมเฉกเช่นเดียวกันกับตัวตนของ Juliette ยิ่งไปกว่านั้นแล้วเราจะพบว่าเมกอัพบนใบหน้าของเหล่านางแบบบนรันเวย์ก็จะมีความคล้ายคลึงกับสไตล์ของ Juliette อีกด้วย
ปิดท้ายที่ Catherine Dior เธอเปรียบเสมือนภาพจำของคำว่า ‘Miss Dior’ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นมิวส์คนแรกของ Christian Dior เลยก็ว่าได้ เธอคือหญิงสาวคนแรกที่เป็นแบบวาดรูปให้ Christian ลองวาดรูปเพื่อทำงานเกี่ยวกับด้านแฟชั่น มิหนำซ้ำเธอยังเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญเข้าร่วมกองกำลังทหารฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกอีกด้วย ซึ่งหลังจากที่เธอหลุดพ้นจากสงครามมาได้ เธอก็ทำอาชีพเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ นั่นจึงนำพามาสู่ผลงานของคอลเล็กชั่นนี้ที่มีลวดลายคล้ายกลีบดอกไม้สีสันสะดุดตาเพื่อระลึกถึงตัวตนของเธอ รวมไปถึงการสื่อสารเรื่องความเป็นอิสระ ความรัก และความงามผ่านคอลเล็กชั่นนี้นั่นเอง เราตามมาดูทุกลุคจากคอลเล็กชั่น Autumn/Winter 2023 ของ Dior กันว่าลุคไหนหรือไอเท็มชิ้นไหนจะถูกตาต้องใจสาวแอลกันบ้าง
