หลังจากออกแสดงมาแล้วทั้งในลอนดอน ลอสแองเจลิส ฮ่องกง และนิวยอร์ก Dance Reflections by Van Cleef & Arpels Festival ก็เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นใน 2 เมือง ทั้งที่เมืองเกียวโต และเมืองไซตามะ ด้วยแนวคิดริเริ่มของโครงการอุปถัมภ์และเชิดชูศิลปะแขนงนาฏกรรมร่วมสมัย ที่เมซงได้เริ่มต้นจัดเทศกาลนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2020 และยังคงเดินหน้าสนับสนุนและส่งเสริมศิลปะการเต้น รวมถึงการทำงานสร้างสรรค์งานศิลปะของเหล่านักออกแบบท่าเต้น ตลอดจนสถาบันที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเทศกาลที่จัดขึ้นครั้งแรกในเกียวโตและประเทศญี่ปุ่น นับเป็นอีกครั้งของการรวมตัวเหล่าพันธมิตรและศิลปินนักออกแบบท่าเต้นที่มาร่วมมือกันสร้างสรรค์งานในหลากหลายรูปแบบ
ซึ่งนอกเหนือไปจากการแสดงนาฏกรรมแล้ว ก็ยังมีทั้งกิจกรรมเวิร์กช็อป การพบปะพูดคุยกับศิลปิน การสัมมนาเชิงปฏิบัติซึ่งเปิดกว้างให้ทุกคนที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ ไปจนถึงนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ‘I felt the stars in that room’ โดย Olivia Bee ช่างภาพชาวอเมริกัน และ KYOTOGRAPHIE เพื่อร่วมกันถ่ายทอดเนื้อหาสำคัญของเทศกาล ผ่านบรรดาภาพถ่ายในต่างช่วงเวลาและต่างสถานที่จากการแสดงเทศกาลครั้งก่อนๆ โดยได้บันทึกไว้ทั้งเรื่องราวและมุมมองมากมายที่มีต่อศิลปะการออกแบบท่าเต้นซึ่งใช้การเคลื่อนไหวเพื่อเล่าเรื่อง หรือสื่ออารมณ์ได้อย่างดี
ในเทศกาลซึ่งจัดขึ้นที่ญี่ปุ่นนี้ ยังได้รับการพัฒนาโดยอาศัยบริบทอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งถ่ายทอดถึงผลงานการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของนาฏกรรม เช่น การศึกษาและวิเคราะห์การแสดงพื้นบ้านยอดนิยมท้องถิ่นโบโลญาที่นำมารังสรรค์เป็นการแสดง Save the Last Dance for Me ที่เราได้มีโอกาสชมเป็นการแสดงแรกซึ่งจัดขึ้นที่เกียวโต โดยเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของอเลซซานโดร ชารโรนิ จากการศึกษาเกี่ยวกับระบำพื้นบ้านโปลกา คินาตา (Polka Chinata) ของอิตาลี ซึ่งเป็นการเต้นรำหนุ่มเกี้ยวสาวที่แสดงโดยนักเต้นชายแต่เพียงเท่านั้น ด้วยเพราะท่วงท่าการเต้นที่ต้องอาศัยพลังทางสรีระจนดูโลดโผนคล้ายกับกายกรรม ปัจจุบัน ระบำพื้นบ้านนี้หาดูได้ยากแล้วและทั่วทั้งอิตาลีกลับมีคนที่สามารถเต้นโปลกา คินาตานี้ได้จำนวนน้อยมากๆ
รวมถึงยังได้ชมการแสดงผลงานสร้างสรรค์ใหม่ล่าสุดในเทศกาล อย่าง Room with a View ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง (LA)HORDE และคณะ Ballet National de Marseille เป็นการแสดงที่ประกอบด้วยนักเต้นถึง 28 คน จาก 16 เชื้อชาติ ท่ามกลางฉากของเหมืองหินอ่อนที่มีทั้งเครื่องจักรกำลังทำงาน และผสมผสานกับภูมิทัศน์ภาพมิติที่ร่วมถ่ายทอดเป็นประติมากรรมทางอารมณ์ได้อย่างสมจริง โดยมีเนื้อหาหลักของการปลดปล่อยมนุษย์ให้เป็นอิสระ หลุดพ้นออกจากไปจากภายในแท่งผลึกหิน ที่เหล่านักแสดงต่างใช้การเต้นของตนเป็นหนทางหลบหนีออกจากผลึกหินขาว เป็นอีกหนึ่งผลงานการสร้างสรรค์ของเหล่านักออกแบบท่าเต้น ผู้หลอมรวมศิลปะการเต้นเข้ากับไหวพริบเชิงสร้างสรรค์และลูกเล่นของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ไว้ได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ เรายังได้มีโอกาสพูดคุยกับ Serge Laurent ผู้อำนวยการโครงการนาฏศิลป์และวัฒนธรรมของ Van Cleef & Arpels ถึงหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์โครงการด้านศิลปะแขนงนาฏกรรมร่วมสมัย
ELLE: เป้าหมายหลักของการจัดเทศกาล Dance Reflections by Van Cleef & Arpels Festival ในแต่ละครั้งคืออะไร
Serge Laurent: ความตั้งใจของเรานั้นคือการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ที่เมซงมีต่อศิลปะนาฏกรรมร่วมสมัย รวมถึงการถ่ายทอดและเผยแพร่ไปสู่ผู้ชมต่างๆ ดังนั้น ในแต่ละครั้งของการจัดเทศกาล เราจึงยึดมั่นในวิสัยทัศน์เดียวกันนี้ในทุกๆ ที่เสมอ เช่นเดียวกับเป้าหมายหลักของเทศกาลคือการส่งเสริม ทั้งยังสนับสนุนและทำงานร่วมกับเหล่าศิลปินนักออกแบบท่าเต้น ตลอดจนสถาบันต่างๆ และพันธมิตรด้านนาฎกรรมในหลากหลายแขนง ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เรามีเครือข่ายพันธมิตรอยู่ใน 16 ประเทศทั่วโลกเพื่อร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ เช่นในรูปแบบของการจัดงานเทศกาลเต้นรำนี้ ที่นับเป็นการต่อยอดแนวทางการสร้างสรรค์ด้านศิลปะนาฏกรรมไปสู่มุมมองและมิติใหม่ๆ
ELLE: อะไรคือความท้าทายในการนำเสนอมุมมองด้านนาฏศิลป์นี้ออกไปสู่สายตาสาธารณชน
Serge Lauren: หน้าที่ของผมคือการมองถึงภาพรวมของ Dance Landscape ในแต่ละประเทศและในแต่ละสถานที่ พร้อมๆ กับการทำงานร่วมกับเหล่าศิลปิน จนมาถึงการนำเสนอผลงานสู่สายตาผู้ชมและสาธารณชน ผมจึงเป็นเหมือนภัณฑารักษ์ผู้ดูแลโดยภาพรวม และทำหน้าที่คอยขับเคลื่อน 3 หัวใจหลักของโครงการ Dance Reflections ทั้ง Creativity, Transmission และ Education ซึ่งเมซงจิวเวลรี่ อย่าง Van Cleef & Arpels นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากนาฏกรรมมาตลอดประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และพยายามที่จะถ่ายทอดแรงบันดาลใจเหล่านี้กลับไปสู่ผู้คน โดยผ่านการสนับสนุนเทศกาลเต้นรำที่ช่วยให้เรานั้นสามารถส่งข้อความถึงคุณค่าและความสวยงามของผลงานศิลป์แขนงนี้ออกไปได้อย่างเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งนั่นนับเป็นความท้าทายและเป็นความน่าตื่นเต้นทุกๆ ครั้งของการจัดเทศกาล เช่นเดียวกับงานที่จัดขึ้นในเกียวโตครั้งนี้ และผ่านเทศกาลเหล่านี้ ก็ยังนับเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ๆ ให้กับการเดินทางร่วมกันระหว่างเมซงและศิลปะนาฏกรรมที่จะเดินหน้าสร้างสรรค์วิวัฒนาการก้าวใหม่ต่อไปในอนาคต ส่วนความท้าทายสำหรับผมนั้นยังคงเป็นการพยายามเชื่อมโยงในเชิงสร้างสรรค์กับความรู้สึกของผู้คน กับศิลปินนักสร้างสรรค์ผลงาน และกับสาธารณชนในแต่ละสถานที่ รวมทั้งการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์แห่งงานศิลป์เพื่อให้คุณค่าเชิงวัฒนธรรมและศิลปะเหล่านี้จะยังคงได้รับการสืบทอดและพัฒนาต่อไป โดยให้ความสำคัญหลักๆ กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เป็นเหมือนการได้ออกเดินทางครั้งใหม่อยู่เสมอ
Dance Reflections by Van Cleef & Arpels Festival 2024 Kyoto Experiment จัดขึ้นที่ Saitama Arts Theater, Rohm Theatre Kyoto Kyoto Art Center, Kyoto Art Theater ระหว่างวันที่ 4 ต.ค. – 16 พ.ย. 2024 ติดตามข่าวสารและตารางการแสดงเพิ่มเติมได้ทาง www.dancereflections-vancleefarpels.com