เล่นกับรูปทรงลูกบาศก์และเรขาคณิต จิวเวลรี่ Ice Cube ของ Chopard เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวและทันสมัยของลวดลายที่อุทิศให้กับความเรียบน้อยหรือสไตล์มินิมัลลิสม์ ภายใต้ความสมบูรณ์แบบของเส้นสายและสัดส่วนที่ทำให้จิวเวลรี่แต่ละชิ้นของคอลเล็กชั่นนี้เล่นกับแสงสะท้อนได้จากทุกมุมมอง แต่กว่าจะได้มาเป็นจิวเวลรี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลวดลายนี้ ศิลปินนักออกแบบ อย่าง Coralie ผู้เป็น Designer Artisan และร่วมงานในแผนกเครื่องประดับอัญมณีของ Chopard มานับตั้งแต่ปี 2019 ต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญ แรงบันดาลใจ และพลังสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดถึงการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมและงานออกแบบสามมิติที่นำมาสู่มิติอันโดดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ได้อย่างมีเสน่ห์
คอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ Ice Cube นับเป็นผลงานจากวิวัฒนาการที่มาจากคอลเล็กชั่นดั้งเดิมซึ่งเปิดตัวในปี 1999 ด้วยเอกลักษณ์ของความร่วมสมัยและเปี่ยมด้วยพลัง ขณะที่ในคอลเล็กชั่นยังคงมีขนาดแบบดั้งเดิมของรูปทรงลูกบาศก์ทองที่ทำให้ Ice Cube ประสบความสำเร็จมาแล้ว ทั้งยังพัฒนามาสู่ความหลากหลายของการแสดงออกผ่านจิวเวลรี่ชิ้นต่างๆ อย่างตุ้มหู จี้ และแหวน และมีทั้งเวอร์ชั่นประดับเพชรหรือแบบเรียบ ไปจนถึงผลงานชิ้นพิเศษที่รังสรรค์โดยห้องปฏิบัติการ Haute Joaillerie เช่นโชกเกอร์ กำไลข้อมือแบบคัฟฟ์ นาฬิกาข้อมือแบบ Secret watch และรุ่นนำกลับมาทำใหม่ของนาฬิกาข้อมือรุ่นแรก ส่วนศิลปินนักออกแบบผู้อยู่เบื้องหลังผลงานใหม่อันล้ำค่าของ Ice Cube คือ Coralie ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์จิวเวลรี่
สิ่งแรกที่เธอทำคือการตีความใหม่ให้กับคอลเล็กชั่นโดยใช้แรงบันดาลใจและความฝันที่เธอเคยมี นั่นคือการผสมผสานสถาปัตยกรรมเข้ากับเครื่องประดับ ในคอลเล็กชั่นใหม่นี้จึงสัมผัสได้ถึงมิติทางวิทยาศาสตร์และสถาปัตยกรรม รวมถึงศิลปะงานฝีมือมาอยู่รวมกัน และยังคงความเป็นไอคอนิกของคอลเล็กชั่นกับเหลี่ยมด้านของทองที่จับกับแสง รวมถึงการเสริมความแวววาวโดดเด่นด้วยอัญมณีล้ำค่า อย่าง เพชร นอกจากนี้ยังมีเทคนิคบางอย่างจากการสร้างสรรค์นาฬิกา Ice Cube เรือนแรกในปี 1999 ที่นำมาใช้ในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นเครื่องประดับนี้ด้วย “บางเทคนิกที่เคยใช้ในนาฬิกาได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้เช่นกันในคอลเล็กชั่นเครื่องประดับอัญมณีในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประด้บเพชรที่ตกแต่งบนแต่ละเหลี่ยมด้านของรูปทรงลูกบาศก์ รวมถึงการใช้ทั้งงานขัดเงาและการประกอบทั้งหมดด้วยมือ” Coralie เผย ซึ่งนั่นให้ผลลัพธ์ของรูปทรงและเหลี่ยมด้านที่เล่นกับแสงสะท้อนและกลายเป็นเอกลักษณ์ของ Ice Cube ในวันนี้
งานที่ซับซ้อนที่สุดในชีวิตการทำงานของนักออกแบบคือการสร้างสรรค์วิวัฒนาการของชิ้นงานที่เป็นไอคอนิกอยู่แล้ว อย่าง Ice Cube ด้วยเพราะต้องคำนึงถึงทั้งประวัติศาสตร์และการรักษาสุนทรียะความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ การออกแบบขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับรสนิยมและความต้องการของวันนี้จึงเป็นโจทย์อันท้าทายของนักออกแบบเช่นกัน “ในการออกแบบคอลเล็กชั่นปัจจุบันของ Ice Cube เราไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงขนาดของรูปทรงลูกบาศก์ เช่นเดียวกับความเป็นไอคอนของคอลเล็กชั่น และด้วยเพราะสัดส่วนดั้งเดิมนั้นก็ยังคงลงตัวสมบูรณ์แบบ ดังนั้น เราจึงเก็บขนาดเดิมเอาไว้ แต่เสริมด้วยองค์ประกอบอื่นๆ เพิ่มเติม หรือสร้างสรรค์พื้นที่ว่างสลับไว้ในชิ้นงานเหล่านี้ด้วย ในผลงานบางรุ่น เราจึงได้เพิ่มส่วนนูนโค้งไว้ตรงกลาง อย่าง แหวน เพื่อให้ชิ้นงานนั้นดูเข้มแข็งและทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความชัดเจนของเส้นสายไว้เช่นเดิม รวมถึงเสริมด้วยการเคลือบพิเศษไว้บนส่วนโค้งนี้เพื่อให้เล่นกับแสงได้ดียิ่งขึ้น เราพัฒนาคอลเล็กชั่นนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและความปรารถนาของลูกค้าในอนาคต คอลเล็กชั่นใหม่นี้ยังเป็นผลงานยูนิเซ็กซ์ที่เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วย” Coralie เสริม
บล็อกเลโก้ ทั้งการจัดวางขนาดที่ต่างกัน ไปจนถึงการใช้เทคนิคของการเล่นระดับความสูงของพื้นผิวลูกบาศก์ที่ต่างกันเพื่อให้เกิดแสงสะท้อนที่น่าสนใจและดึงดูดสายตา อย่าง บนกำไลข้อมือแบบคัฟฟ์และโช้กเกอร์ ที่ทั้งหมดผ่านการจัดวางไว้อย่างกลมกลืน แม้จะมีระดับและมิติของรูปทรงที่แตกต่างกันไปก็ตาม และเพราะเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Chopard คือความเชี่ยวชาญด้านเพชร ทำให้คอลเล็กชั่นใหม่ของ Ice Cube ยังเสริมด้วยรุ่นประดับเพชรแบบแรนดอม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติและมีลูกเล่นสนุกสนาน ขณะเดียวกันก็เล่นกับประกายแสงสะท้อนได้อย่างดีเช่นกัน
คอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ของความหรูหรา เปี่ยมด้วยสไตล์และโดดเด่นด้านงานดีไซน์จากฝีมือของศิลปินนักออกแบบนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างถึงวิวัฒนาการของ Ice Cube ที่ยังคงพัฒนาทั้งความซับซ้อนและความสวยงาม ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามอันทันสมัยได้อย่างชัดเจน