ในวงการเพลงมีศิลปินมากมายที่เลือกใช้ชื่อที่แตกต่างออกไปจากชื่อจริงของตัวเองด้วยหลากหลายเหตุผล บางคนก็เลือกเปลี่ยนเพราะอยากมีชื่อที่น่าจดจำ บ้างก็อยากตั้งชื่อใหม่ตามที่ตนเองชอบ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม พวกเขาต่างมีเรื่องราวมากมายอยู่เบื้องหลังชื่อสุดไอคอนิกเหล่านั้น และนี่คือเรื่องราวของเหล่าศิลปินกับชื่ออันสุดโดดเด่นที่เราคัดมาแล้วว่าที่มาของชื่อนั้นปังไม่แพ้กับเจ้าตัว!
Doja Cat
แร็พเปอร์สาวสุดเซ็กซี่ที่เพิ่งจะวีนแฟนคลับจนเป็นเรื่องใหญ่โตไปคนนี้มีชื่อจริงว่า Amalaratna Zandile Dlamini แต่เมื่อเธอเริ่มเข้าสู่วงการเพลง เธอได้เลือกใช้ชื่อในวงการแทนชื่อจริงเป็นคำว่า Doja Cat ซึ่งมีที่มาแบบง่ายๆ จากการเลือกสิ่งที่เธอชอบ 2 สิ่งมารวมกัน โดยนำคำว่า Doja ที่เป็นคำสแลงของกัญชามาประกอบกับคำว่า Cat ที่แปลว่าแมว แล้วเธอก็ใช้ชื่อในวงการว่า Doja Cat นับตั้งแต่เข้าวงการดนตรีเป็นต้นมา
อ่านเพิ่มเติม: เชิ่ด ไม่แคร์! DOJA CAT เปิดใจครั้งแรกหลังเผชิญดราม่าคนแห่กดเลิกติดตามบนอินสตาแกรมกว่าครึ่งล้าน
Halsey
ศิลปินสาวชาวอเมริกันผู้มากความสามารถอย่าง Halsey เลือกใช้ชื่อนี้จากการสลับตัวอักษรจากชื่อจริงของเธอ โดยชื่อเต็มของ Halsey คือ Ashley Nicolette Frangipane ซึ่งนอกจากชื่อนี้จะอ้างถึงชื่อจริงของเธอแล้ว มันยังอ้างถึงสถานี Halsey Street สถานีรถไฟใต้ดินของมหานครนิวยอร์คที่อยู่ใกล้กับย่านที่เธออาศัยอยู่ในวัยเด็กอีกด้วย และเธอก็บอกอีกว่าชื่อนี้ได้เปิดโอกาสให้เธอสร้างตัวตนใหม่ให้กับตัวเอง (หรือที่เรียกว่า Alter Ego) เพื่อให้ตัวตนนั้นสามารถเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงได้ราวกับว่าเธอเป็นราชาโดยที่ตัวตนของ Ashley ไม่อาจทำได้แต่ตัวตนของ Halsey สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
Lady Gaga
ราชินีเพลงป๊อปแห่งยุคที่แม้ว่าในตอนนี้เธอจะเปลี่ยนสไตล์ไปทางเพลงแจ๊ซมากขึ้นอย่าง Lady Gaga มีชื่อจริงว่า Stefani Joanne Angelina Germanotta แต่เธอเลือกใช้คำว่า Gaga จากเพลง Radio Ga Ga ซิงเกิ้ลสุดฮิตจากวง Queen เพื่อสร้างตัวตนใหม่ที่ไม่ใช่ Stefani คนเดิม พร้อมเติมคำว่า Lady เข้าไปด้านหน้าจนกลายเป็นชื่อที่เก๋และติดหูว่า Lady Gaga ทั้งนี้เธอยังบอกว่าโปรดิวเซอร์และแฟนหนุ่มคนที่เคยคบหากันช่วงเข้าวงการเพลงใหม่ๆ ก็เรียกเธอว่า Gaga ดังนั้นเธอจึงสบายใจที่จะให้คนอื่นๆ เรียกด้วยชื่อนี้มากกว่าที่จะเรียกว่า Lady นอกจากนี้เธอยังมีตัวตนอื่นๆ (Alter ego) ที่เธอสร้างขึ้นในอีกหลายเวอร์ชั่น เช่น Yüyi และ Jo Calderone เป็นต้น
Nicki Minaj
แร็พเปอร์ตัวแม่ผู้มีเรื่องราวเบื้องหลังของชื่อที่ไม่ธรรมดา และที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นคือเธอไม่ชอบชื่อในวงการของตัวเองซะด้วย เพราะว่าชื่อเต็มของเธอคือ Onika Tanya Maraj แต่ค่ายแรกที่เธอเซ็นสัญญาด้วยนั้นอยากให้เธอใช้ชื่อในวงการว่า Nicki Minaj เพราะเรียกง่าย คล้ายกับคำว่า Maraj และติดหูกว่า แต่เธอกลับไม่ชอบคำว่า Minaj เพราะมันมีความหมายนัยยะบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ เธอยังไม่ชอบอีกเวลาที่คนรอบตัวเรียกเธอว่า Nicki Minaj เพราะชื่อนี้คือตัวตนใหม่ที่เธอสร้างขึ้นมาให้ทำงานในฐานะศิลปิน ส่วนเวลาที่เธออยู่กับเพื่อน เธอก็อยากเป็นแค่ Onika ของเพื่อนๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ตอนแรกเธอจะยืนกรานว่าไม่ชอบชื่อนี้จนมีปากเสียงกับบริษัท แต่ท้ายที่สุดเธอก็ต้องยอมรับมันและใช้ชื่อนี้ในเวลาต่อมา
Cardi B
แร็พเปอร์ตัวแม่ผู้เขย่าวงการฮิปฮอปในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มีชื่อจริงว่า Belcalis Marlenis Almánzar แต่เธอเลือกใช้ชื่อว่า Cardi B จากการนำชื่อเล่นในวัยเด็กของเธออย่าง Bacardi มาสลับตัวอักษร โดยคำว่า Bacardi นี้มาจากชื่อแบรนด์เหล้ารัมชื่อดัง เพราะครอบครัวของเธอตั้งชื่อพี่น้องให้สอดคล้องกับชื่อแบรนด์เครื่องดื่มน้ำเมา น้องสาวของเธอเองก็มีชื่อว่า Hennessy ที่เป็นชื่อบรั่นดีเช่นกัน Cardi B จึงพยายามใช้ชื่อว่า Bacardi อยู่ในโซเชียลมีเดียหลายครั้ง ทว่าบัญชีผู้ใช้ก็ถูกลบไปอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาจจะด้วยเหตุที่มันเป็นชื่อของแบรนด์ เธอจึงจัดการสลับตัวอักษร แล้วก็เก็บตัว B ไว้ เธอจึงใช้ชื่อนี้ได้ และเธอก็ให้เหตุผลว่า B อาจจะแปลว่าอะไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเธอในแต่ละวัน บางวันอาจจะเป็น Beautiful (สวย) หรือ Bully (บูลลี่)
Post Malone
ที่มาชื่อของหนุ่ม Post Malone นั้นออกจะแตกต่างจากคนอื่นสักเล็กน้อย เพราะเขาได้มันมาจากการสุ่มชื่ออัตโนมัติบนเว็บไซต์สุ่มชื่อแร็พเปอร์ โดยเขาเปิดเผยว่าตอนที่เขาอายุราวๆ 14 ปีแล้วเริ่มสนใจวงการแร็พก็เลยอยากจะมีชื่อที่ดูดีสำหรับการสร้างเทปเพลงของตัวเอง เขาจึงใส่ชื่อจริงของตัวเองอย่าง ‘Austin Post’ ลงในเว็บสุ่ม แล้วระบบก็เสนอคำว่า Post Malone ขึ้นมา พอเห็นแล้วจึงรู้สึกว่าเป็นชื่อที่ใช่ เขาก็เลยตัดสินใจใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบันโดยที่มันเป็นแค่ชื่ออัตโนมัติที่เขาสุ่มมาเท่านั้นเอง
The Weeknd
ชื่อจริงของ The Weeknd คือ Abel Makkonen Tesfaye โดยเขาตอบคำถามในกระทู้ Q&A บน Reddit กับแฟนๆ ถึงที่มาของชื่อสุดแปลกของเขาว่าในตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นนั้นเขาออกจากการเรียนมัธยมเพื่อไปตามหาความฝันพร้อมกับขโมยฟูกที่นอนของพ่อแม่ติดไปนอนบนรถตู้ราวๆ 1 สัปดาห์ (Weekend) โดยที่ไม่กลับบ้านเลย และในขณะนั้นเขาก็ไม่ค่อยชอบชื่อของตัวเอง เขาจึงเลือกใช้คำว่า The Weeknd โดยตัดตัว e ออก ด้วยเหตุจากลิขสิทธิ์ของชื่อที่ไปซ้อนทับกับวงดนตรี The Weekend ในประเทศแคนาดา และในที่สุดมันก็กลายเป็นสเตจเนมของเขามานับตั้งแต่นั้น
Lil Nas X
Lil Nas X มีชื่อจริงว่า Montero Lamar Hill แต่เขาเลือกใช้ Lil Nas X มาเป็นสเตจเนม เนื่องจากเป็นชื่อที่เขาชอบใช้บนอินเตอร์เน็ตมาก่อนหน้าที่จะเป็นศิลปิน โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “เมื่อฉันเริ่มทำดนตรี ฉันเริ่มคิดว่า ‘อยากทำไรที่มันดูสนุกๆ นะ ละแร็พเปอร์ทุกคนชอบมีคำว่า Lil Lil เต็มไปหมดด้วย แล้วถ้าฉันเป็น Lil Nas ล่ะ คงจะสนุกดีนะ ฉันก็เลยแบบ ‘เอาล่ะ ฉันจะเป็น Lil Nas’ แล้วฉันก็มาเติมตัว X ทีหลังน่ะ”
Bruno Mars
เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ว่าเดิมทีเขาชื่อ Peter Gene Hernandez แต่ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กเจ้าเนื้อและดูแข็งแรง คุณพ่อของเขาจึงเรียกเขาด้วยฉายา Bruno ตามชื่อนักมวยปล้ำคนดังในยุคนั้นอย่าง Bruno Sammartino ส่วนคำว่า Mars ที่ต่อท้ายนั้นมาจากที่เวลาสาวๆ ชอบแซวว่าเขาเป็นคนหลุดโลก เขาจึงเลือกคำว่า Mars ที่แปลว่าดาวอังคารมาต่อท้ายราวกับว่าเขามาจากที่อื่นที่ไม่ใช่โลกใบนี้นั่นเอง
Lizzo
เรียกได้เป็นอีกหนึ่งชื่อศิลปินที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในตอนนี้ จากข่าวที่เธอถูกกล่าวหาและฟ้องร้องจากทีมงานของเธอเอง แต่กว่าที่ชื่อ Lizzo จะเป็นที่รู้จักและโด่งดังมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องย้อนไปว่าเธอมีความสนใจในด้านดนตรีมาตั้งแต่วัย 14 ปี ทั้งด้วยความที่ครอบครัวเธอร้องเพลงในโบสถ์ เธอได้เรียนเป่าฟลูตและยังให้ความสนใจกับการร้องแร็พด้วย เธอเริ่มฟอร์มวงแร็พกับเพื่อนๆ อีก 2 คนในช่วงเรียนไฮสคูลซึ่งเธอตั้งใจจะใช้ชื่อในวงการแร็พว่า Lissa ที่ย่อมาจากชื่อจริงของเธออย่าง Melissa Viviane Jefferson ทว่าในยุคนั้นเพลงที่มาแรงที่สุดคือเพลง Izzo ของ Jay-Z เธอจึงนำชื่อเพลงมารวมกับชื่อเดิมจนเป็นคำว่า Lizzo และในที่สุดมันก็กลายเป็นชื่อในวงการฮิปฮอปและเธอก็ยังคงเลือกที่จะเล่นฟลูตไปพร้อมๆ กับการเป็นศิลปินฮิปฮอปด้วย