หากจับเหล่าคอซีรี่ส์เกาหลีมานั่งรวมกันในหนึ่งห้อง พร้อมโยนคำถามที่ว่า ‘ซีรี่ส์เรื่องไหนเป็นเรื่องโปรดตลอดกาล’ เชื่อว่าจะต้องมีจำนวนไม่น้อยที่ให้คำตอบเป็นซีรี่ส์เซ็ตตระกูล Reply ที่พาเราย้อนเวลากลับไปลุ้นรักพร้อมสัมผัสบรรยากาศ หรือไม่ก็เหล่าแก๊งเพื่อนหมอแห่ง Hospital Playlist ที่ทำเอาอยากเช็กอินโรงพยาบาลยุลเจแทบทุกแผนกไม่ก็แหวกแนวมาอินกับชีวิตของเหล่าคนคุกใน Prison Playbook แม้กระทั่งล่าสุดกับก๊วนน้องหมอเจนซีใน Resident Playbook ก็ทำคนดูเฝ้าหน้าจอรอวันหยุดทุกสัปดาห์
และทั้งหมดนี่กล่าวมานี้คือผลงานอันเกิดจากการแท็กทีมกันของ ผู้กำกับ ชินวอนโฮ และนักเขียนบท อีอูจอง ที่นอกจากจะโดนใจคอซีรี่ส์โดยเฉพาะสายฮีลใจจนสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ยังส่งอิทธิพลดีๆ ต่อสังคมจนเป็นที่ประจักษ์อีกต่างหาก ถึงขนาดที่แค่มีข่าวว่าจะเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่ ทุกสายตาก็พร้อมที่จะจับจ้องทันที แล้วท่ามกลางซีรี่ส์เกาหลีที่ออกมาปีละมากมาย อะไรเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ซีรี่ส์ในจักรวาล ‘ชินอี’ ขึ้นหิ้งซีรี่ส์เรื่องโปรดตลอดกาลของใครหลายคน แอลได้สรุปเสน่ห์ที่มัดใจผู้ชมเหล่านั้นมาให้แล้ว
Slice of (Extra)Ordinary Life
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ข้อเสียเดียวของซีรี่ส์ในจักรวาลชินอีคือ “ไม่รู้จะอธิบายพล็อตอย่างไร” เพราะเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปแบบไม่ได้หวือหวา หาได้มีจุดพลิกผันยิ่งใหญ่ แถมคาแร็กเตอร์ส่วนมากยังเป็นคนเดินดินธรรมดาแบบเราๆ อีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้น ชีวิตแสนสามัญที่ใครๆ ต่างก็จับต้องได้นี่แหละ คือวัตถุดิบสำคัญที่ดูโอ้ชินอีหยิบมาทำซีรี่ส์ ถ่ายทอดเรื่องราวที่ ‘ไม่ว่าใครก็ต้องเคยประสบสักครั้ง’ ออกมาได้อย่างละเมียดละไมน่าซาบซึ้ง ราวกับจับเราเข้าไปอยู่อาศัยในโลกของซีรี่ส์เรื่องนั้นๆ ซึ่งไม่ได้เพียงโฟกัสที่ตัวละครหลัก แต่ยังให้ความสำคัญกับคนอื่นๆ รอบตัวจนหลอมรวมเป็นสังคมนั้น ดังเช่นในเซ็ตซีรี่ส์ Reply ก็ทำให้เราอินไปกับชีวิตของชาวบ้านในย่านนั้น หรือใน Prison Playbook เราก็ได้ตามติดชีวิตของเหล่านักโทษคุมขังในคุก เช่นเดียวกับ Hospital Playlist และ Resident Playbook ที่ให้เราได้สนิทสนมกับเหล่าบุคลากรในโรงพยาบาล ตลอดจนคนไข้และญาติๆ ยิ่งเห็นสรรพชีวิตมากมายเท่าไหร่ ยิ่งค้นพบว่าทุกชีวิตต่างมี ‘เส้นเรื่อง’ ที่ผสมผสานทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไปทั้งนั้น เมื่อดูจบแต่ละตอนก็ตกตะกอนได้ว่า ชีวิตของคนธรรมดาที่ผ่านพ้นไปในแต่ละวันนั่นแหละ แสนพิเศษที่สุดแล้ว
Friendship Goals
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์จักรวาลชินอี คงหนีไม่พ้นการดำเนินเรื่องผ่าน ‘เดอะแก๊ง’ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเด็กมัธยมที่อยู่ระแวกบ้านเดียวกัน แก๊งเด็กมหาลัยที่จากบ้านมาอยู่ใต้ชายคาหอเดียวกัน แก๊งนักโทษที่ถูกกักขังในเรือนจำร่วมกัน แก๊งอาจารย์หมอต่างแผนกที่ว่างๆ ก็มักรวมตัวกันเล่นดนตรี หรือแม้แต่แก๊งน้องหมอเดนต์ปี 1 ที่เพิ่งก้าวสู่โลกแห่งการทำงานด้วยกัน ผู้กำกับชินและนักเขียนอีมักเลือกจะให้ตัวละครของพวกเขามีพวกพ้องเสมอ และก๊วนเหล่านี้ก็ล้วนประกอบด้วยบุคคลหลายคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วแต่ดันลงตัวแบบพอดิบพอดี เรียกได้ว่าครบทุกรูปแบบที่กลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่งจะมีได้ อาจมีบ้างที่ความต่างนั้นนำพามาซึ่งความขัดแย้ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เลือกที่จะเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันและกัน จนท้ายที่สุดแล้วก็กลายเป็นมิตรภาพเลอค่าที่ใครๆ ต่างก็อยากมี
และคำว่า ‘มิตรภาพ’ ก็ไม่ได้จำกัดความเพียงเพื่อนฝูงที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเท่านั้น เพราะมิตรภาพฉบับชินอียังถูกตีความในหลายรูปแบบของผู้ที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกับเพื่อน พี่กับน้อง พ่อแม่กับลูก นักโทษกับผู้คุมขัง คุณหมอกับคนไข้ และอีกหลากหลายความสัมพันธ์ที่ทำให้เราหันมาเห็นคุณค่าของคนที่อยู่ข้างๆ มากยิ่งกว่าที่เคย
Twisted Love
แม้ชีวิตของตัวละครในจักรวาลชินอีดูจะดำเนินไปอย่างเรียบง่าย (?) แต่ชีวิตรักของพวกเขากลับไม่เคยจะราบรื่นเสียอย่างนั้น! หนึ่งสิ่งที่มัดคนดูไว้อย่างอยู่หมัดคือการลุ้นความสัมพันธ์รักกุ๊กกิ๊กของเหล่าตัวละคร ซึ่งบางครั้งเราเองก็ไม่อาจไว้ใจได้เลยว่า นี่เรากำลังลงถูกเรือไหมนะ ดังเช่นในเซ็ต Reply ที่ขยันเสิร์ฟรักสาม(หรือสี่ หรือห้า)เส้าออกมาให้เราคาดเดาว่าท้ายที่สุดแล้วจะลงเอยที่คู่ไหน จน #ทีมซอกตึก กับ #ทีมพี่ขยะ กลายมาเป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่ Prison Playbook กับ Hospital Playlist เองก็ชวนลุ้นจนใจหายใจคว่ำว่าสองคนนี้ชอบพอกันใช่ไหม ความรักครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ พวกเขาแต่ละคนจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ไหม หรือรักกันแล้วจะไปรอดรึเปล่า แม้แต่ Resident Playbook เองก็ยังชวนให้เราจับตาความสัมพันธ์ของพี่หมอกูโดวอนกับน้องหมอโออียองอย่างใกล้ชิด การตามลุ้นตามเชียร์คู่ที่ตัวเองปักไว้ในใจนี่แหละเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนติดซีรี่ส์ของจักรวาลชินอีแบบติดหนึบจนตั้งตารอทุกสัปดาห์
Nostalgic Vibes
ด้วยความที่จักรวาลชินอีนั้นเริ่มต้นมาจากซีรี่ส์ Reply 1997 เรื่อยมาจน Reply 1994 และ Reply 1988 ซึ่งคอนเซ็ปต์ว่าด้วยการพาผู้ชมหวนกลับไปสู่ยุคนั้นๆ ผ่านเหตุการณ์สำคัญอันเป็นที่เล่าขาน แฟชั่นสุดไอคอนิกของแต่ละยุคสมัย ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในนั้น แม้แต่เทรนด์ใดๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเคยฮอตฮิตก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเล่นหมด ราวกับเป็นพงศาวดารบันทึกเรื่องราวของชาวเกาหลีในช่วงเวลานั้นๆ ทำเอาคนที่เกิดทันสมัยก็ได้หวนนึกถึงอดีตอันหอมหวาน ในขณะที่ใครเกิดไม่ทันก็ยังได้เสพบรรยากาศในตอนนั้นไปพร้อมๆ กับตกหลุมรักเสน่ห์แห่งยุค ’90s
การเล่นกับกลิ่นอายของวันวานนั้นยังคงตกทอดมาสู่ผลงานเรื่องถัดๆ มาของผู้กำกับชินวอนโฮและนักเขียนบทอีอูจอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีรี่ส์ Hospital Playlist ที่แม้เรื่องราวจะดำเนินอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ด้วยความที่แก๊งอาจารย์หมอของเรารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษาแพทย์ จึงไม่แปลกที่บางครั้งอาจมีย้อนวัยสมัยใสๆ กันบ้าง อย่างที่เห็นได้ชัดก็คงเป็นเพลงที่ขยันหยิบยกกันมาร้อง ก็ล้วนเป็นเพลงดังในอดีต (ที่พอซีรี่ส์เรื่องนี้หยิบมาร้องใหม่ ก็กลับมาทุบชาร์ตเพลงเกาหลีแบบรัวๆ)
Easter Eggs
และสิ่งสำคัญที่สุดที่ไม่พูดถึงเป็นไม่ได้เลย นั่นก็คือ Easter Egg! เพราะสำหรับหลายคน ตกหลุมรักซีรี่ส์ในจักรวาลชินอีหนึ่งครั้ง เท่ากับตกหลุมรักตลอดไป และผู้กำกับชินวอนโฮกับนักเขียนบทอีอูจองก็ดูจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร จึงมักมอบรางวัลให้กับแฟนๆ ผู้ภักดีต่อซีรี่ส์ของพวกเขาอย่างเหนี่ยวแน่นด้วยการแอบซุกซ่อนจุดเชื่อมโยงเล็กๆ น้อยๆ ในจักรวาลมาให้ผู้ชมได้กระชุ่มกระชวยหัวใจกัน ไม่ว่าจะเป็นในเซ็ตซีรี่ส์ Reply ที่พ่อแม่ของนางเอกเป็นนักแสดงคู่เดิมทั้งสามภาค หรือการปรากฏตัวรับเชิญของนักแสดงจากเรื่องก่อนหน้า (ทั้งที่มาด้วยบทบาทใหม่ หรือบางครั้งก็พาตัวละครเดิมกลับมาด้วยเลย) ที่แม้โผล่มาเพียงสั้นๆ ก็บรรเทาความคิดถึงให้คนดูอย่างเราๆ ได้ไม่มากก็น้อย ยิ่ง Resident Playbook ที่เป็นภาคแยกของ Hospital Playlist ด้วยแล้วล่ะก็ รอชมตัวละครจากโรงพยาบาลยุลเจที่เรารักทั้งหลายสลับกันแวะเวียนกลับมาเยี่ยมกันได้เลย
